25 จังหวัด “เหนือ-อีสาน-กลาง-ตะวันออก” น้ำท่วมหนัก กระทบแสนกว่าครัวเรือน

ปภ.รายงานยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 25 จังหวัด “ภาคเหนือ-อีสาน-กลาง-ตะวันออก” กระทบ 129,595 ครัวเรือน ประสานจังหวัดเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัย

วันที่ 9 ตุลาคม 2565 กรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงาน เมื่อเวลา 10.00 น. ถึงผลกระทบจากฝนตกหนักในช่วงที่ผ่านมาทำให้ยังมีพื้นที่เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และน้ำท่วมขัง  รวม 25 จังหวัด รวม 123 อำเภอ 661 ตำบล 4,111 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 129,595 ครัวเรือน แนวโน้มระดับน้ำเพิ่มขึ้นในบางพื้นที่ ได้ประสานจังหวัดดูแลผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่องและระดมกำลังเร่งระบายน้ำอย่างเต็มกำลัง

โดยผลกระทบมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย รวมถึงพายุโนรู ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากและลมแรงบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ และอ่าวไทย ประกอบกับมีการระบายน้ำจากเขื่อนลงแม่น้ำสายหลัก และลำน้ำสาขา ซึ่งส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และน้ำท่วมขัง

ตั้งแต่ช่วงวันที่ 28 ก.ย. – 8 ต.ค. 65 เกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่รวม 54 จังหวัด รวม 250 อำเภอ 1,169 ตำบล 6,907 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 202,622 ครัวเรือน 

ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ใน 25 จังหวัด ได้แก่ ตาก เพชรบูรณ์ พิจิตร นครสวรรค์ ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง  พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี ลพบุรี นครปฐม นครนายก และปราจีนบุรี รวม 123 อำเภอ 661 ตำบล 4,111 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 129,595 ครัวเรือน ดังนี้

 

-ภาคเหนือ รวม 4 จังหวัด 19 อำเภอ 114 ตำบล 752 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 20,132 ครัวเรือน

1. ตาก น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสามเงา อำเภอบ้านตาก และอำเภอเมืองตาก รวม 5 ตำบล 28 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,897 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว

2. เพชรบูรณ์ น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอศรีเทพ และอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ รวม 17 ตำบล 66หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,120 ครัวเรือน เสียชีวิต 1 ราย ระดับน้ำทรงตัว

3. พิจิตร น้ำท่วมในพื้นที่ 9 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสามง่าม อำเภอวชิรบารมี อำเภอทับคล้อ อำเภอบึงนาราง อำเภอบางมูลนาก อำเภอเมืองพิจิตร อำเภอตะพานหิน อำเภอวชิรบารมี อำเภอโพทะเล และอำเภอโพธิ์ประทับช้าง รวม 56 ตำบล 330 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,416 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

4. นครสวรรค์ น้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพยุหะคีรี อำเภอท่าตะโก อำเภอโกรกพระ อำเภอตาคลี อำเภอชุมแสง รวม 36 ตำบล 328 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 12,699 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว

-ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวม 11 จังหวัด 58 อำเภอ 213 ตำบล 1,314 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 25,653 ครัวเรือน

5. ชัยภูมิ น้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองชัยภูมิ อำเภอบ้านเขว้า อำเภอเนินสง่า อำเภอหนองบัวระเหว อำเภอบําเหน็จณรงค์ อำเภอจัตุรัส และอำเภอภูเขียว รวม 11 ตำบล 44 หมู่บ้าน ระดับน้ำลดลง

6. ขอนแก่น น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองขอนแก่น อำเภอชนบท อำเภอน้ำพอง และอำเภอโคกโพธิ์ชัย รวม 11 ตำบล 46 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 120 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น

7. มหาสารคาม น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองมหาสารคาม อำเภอกันทรวิชัย อำเภอโกสุมพิสัย และอำเภอเชียงยืน รวม 43 ตำบล 494 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,796 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว

8. กาฬสินธุ์ น้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสหัสขันธ์ อำเภอหนองกุงศรี อำเภอท่าคันโท อำเภอยางตลาด และอำเภอฆ้องชัย รวม 8 ตำบล 11 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 60 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

9. ร้อยเอ็ด น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโพนทราย และอำเภอจังหาร รวม 6 ตำบล 38 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,369 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น

10. ยโสธร น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอค้อวัง รวม 1 ตำบล 3 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 6 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น

11. นครราชสีมา น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอลำทะเมนชัย อำเภอสูงเนิน และอำเภอชุมพวง รวม 11 ตำบล 28 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,195 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว

12.บุรีรัมย์ น้ำท่วมในพื้นที่ 13 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบ้านด่าน อำเภอพุทไธสง อำเภอสตึก อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอนางรอง อำเภอปะคำ อำเภอขำนิ อำเภอบ้านกรวด อำเภอกระสัง อำเภอคูเมือง อำเภอลำปลายมาศ อำเภอแดนดง และอำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์ รวม 53 ตำบล  242 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 578 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว

13. สุรินทร์ น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอชุมพลบุรี อำเภอท่าตูม และ อำเภอรัตนบุรี รวม 25 ตำบล 227 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 10,855 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น

14.ศรีสะเกษ น้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองศรีสะเกษ อำเภอห้วยทับทัน อำเภอยางชุมน้อย อำเภอวังหิน อำเภอภูสิงห์ อำเภอน้ำเกลี้ยง และอำเภออุทุมพรพิสัย รวม 16 ตำบล 46 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,301 ครัวเรือน  มีผู้เสียชีวิต 3 ราย ผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย และอพยพประชาชน 528 ครัวเรือน  2,152 คน ไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว 23 จุด ระดับน้ำเพิ่มขึ้น

15. อุบลราชธานี น้ำท่วมในพื้นที่ 9 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี อำเภอวารินชำราบ อำเภอสว่างวีระวงศ์ อำเภอเดชอุดม อำเภอดอนมดแดง อำเภอสำโรง อำเภอพิบูลมังสาหาร อำเภอเขื่องใน และอำเภอตระการพืชผล รวม 28 ตำบล 135 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 5,373 ครัวเรือน อพยพประชาชน 135 ชุมชน 16,705 คน ไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว 90 จุด ระดับน้ำเพิ่มขึ้น

-ภาคกลาง รวม 9 จังหวัด 43 อ. 317 ต. 1,942 ม. บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 79,447 ครัวเรือน 

16. อุทัยธานี น้ำท่วมในพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองฯ อำเภอสว่างอารมณ์ อำเภอทัพทัน อำเภอห้วยคต อำเภอบ้านไร่ อำเภอหนองขาหย่าง อำเภอลานสัก และอำเภอหนองฉาง รวม 55 ตำบล 466 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 7,575 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว

17. ชัยนาท น้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองชัยนาท อำเภอวัดสิงห์ อำเภอมโนรมย์ อำเภอสรรพยา อำเภอหนองมะโมง และอำเภอหันคา รวม 28 ตำบล 128 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 7,497 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น

18. สิงห์บุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภออินทร์บุรี อำเภอเมืองสิงห์บุรี และอำเภอพรหมบุรี รวม 9 ตำบล 23 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,620 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น

19. อ่างทอง น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอวิเศษชัยชาญ อำเภอป่าโมก อำเภอไชโย และอำเภอเมืองอ่างทอง รวม 24 ตำบล 102 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,238 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น

20. พระนครศรีอยุธยา น้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเสนา อำเภอผักไห่ อำเภอบางบาล อำเภอบางไทร อำเภอบางปะอิน และอำเภอพระนครศรีอยุธยา รวม 90 ตำบล 574 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 31,802 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น

21. ปทุมธานี น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองปทุมธานี และอำเภอสามโคก รวม 21 ตำบล 64 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,926 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น

22. ลพบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองลพบุรี อำเภอชัยบาดาล และอำเภอบ้านหมี่ รวม 34 ตำบล 207 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 8,656 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น

23. นครปฐม น้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอนครชัยศรี อำเภอบางเลน อำเภอสามพราน อำเภอเมืองนครปฐม  อำเภอกำแพงแสน อำเภอดอนตูม อำเภอพุทธมณฑล รวม 37 ตำบล 224 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,976 หมู่บ้าน ระดับน้ำลดลง

24. นครนายก น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครนายก อำเภอปากพลี อำเภอบ้านนา และอำเภอองครักษ์ รวม 19 ตำบล 154 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 8,157 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง 

-ภาคตะวันออก รวม 1 จังหวัด 3 อ. 17 ต. 103 ม. บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 4,363 ครัวเรือน 

25. ปราจีนบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอกบินทร์บุรี อำเภอเมืองปราจีนบุรี และอำเภอประจันตคาม รวม 17 ตำบล 103 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,363 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น

สำหรับการให้ความช่วยเหลือกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ประสบภัยได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่และให้การดูแลช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ต่อไป 

ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับ แจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ประชาชนยังสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยได้ที่

แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT”