ไฮซีซั่นพัทยายอดจอง 40% ลุ้นรัฐไฟเขียวรัสเซียบินตรง 7 ไฟลต์/วัน

พัทยา

ท่องเที่ยว “พัทยา” ไฮซีซั่นปี 2565 ไม่ฟื้น ภาพรวมยอดจองเข้าพักแค่ 40% ลุ้นบริษัททัวร์ต่างชาติกำลังเจรจารัฐบาลไทย จัดชาร์เตอร์ไฟลต์รัสเซีย-สนามบินอู่ตะเภา 7 วัน 7 ไฟลต์ บินตรงจากแต่ละเมืองของรัสเซียเข้ามา ส่วนตลาดยุโรปลูกค้าหลักยังนิ่ง เหตุเศรษฐกิจฟุบ ตั๋วเครื่องบินแพงขึ้น 3 เท่า

นายธเนศ ศุภรสหัสรังสี รักษาการประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวชลบุรี เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ภาพรวมธุรกิจท่องเที่ยวเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ช่วงไฮซีซั่นเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2565 มียอดจองเข้าพักประมาณ 40% มีโรงแรมเปิดให้บริการประมาณ 50% ภาพรวมปีนี้คาดว่ายังไม่ฟื้น

เนื่องจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่กลุ่มคนชั้นกลางถึงล่างในโซนยุโรป อังกฤษ ซึ่งถือเป็นกลุ่มตลาดสำคัญของประเทศไทย ต่างได้รับผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจภายในประเทศ ทั้งค่าครองชีพสูงขึ้น อาทิ ค่าไฟแพงขึ้น 3-4 เท่า อีกทั้งตั๋วเครื่องบินราคาเพิ่มขึ้น 3 เท่า เพราะจำนวนไฟลต์บินลดน้อยลง

“แม้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีการรายงานว่ามีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น 70% แต่ไม่ใช่ตัวเลขจากฐานเดิมก่อนเกิดโรคโควิด-19 ระบาด สุดท้ายต้องไปดูจำนวนผู้โดยสารแต่ละสนามบิน ซึ่งจะเห็นตัวเลขได้ชัดเจนว่ามีนักท่องเที่ยวเพิ่มมากน้อยขนาดไหน

อาทิ สนามบินสุวรรณภูมิ เฉลี่ยมีคนเดินทางเข้ามาวันละ 30,000-50,000 คน จากปกติก่อนเกิดโควิด สนามบินสุวรรณภูมิเคยมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามา 200,000-300,000 คนต่อวัน

จะเห็นภาพได้ชัดเจนว่านักท่องเที่ยวยังไม่ได้กลับมา โดยเฉพาะคนยุโรปตอนนี้ไม่มีเงินมาท่องเที่ยว และถือว่าการท่องเที่ยวไม่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต เพราะฉะนั้นถ้าเงินไม่พอใช้ ถ้าจะมาท่องเที่ยวก็ลำบาก ภาพที่สื่อออกมาว่าสนามบินค่อนข้างแน่น เพราะว่าสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ไม่มีความพร้อมในการรับคนเข้าเมือง

นายธเนศกล่าวต่อไปว่า ปัญหาหลักอีกประการเรื่องสายการบินที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันเที่ยวบินตรงจากต่างประเทศค่อนข้างน้อย อีกทั้งยังมีปัญหาเรื่องของจำนวนพนักงานที่ไม่เพียงพอ เนื่องจากมีการหยุดบินไปนานกว่า 2 ปี

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ตนได้หารือกับผู้ประกอบการบริษัททัวร์ของรัสเซีย ซึ่งปกติก่อนโควิดระบาดมีชาวรัสเซียเดินทางเข้ามาประเทศไทยกว่า 1 ล้านคนต่อปี มีการบินเช่าเหมาลำเป็นเที่ยวบินตรงค่าใช้บริการถูก ลดระยะเวลาการบิน แต่ปัจจุบันไม่มีเที่ยวบินตรง ต้องเดินทางหลายต่อ

อีกทั้งเครื่องบินที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยยังมีเที่ยวบินน้อยมาก ส่วนใหญ่ถ้าเดินทางมาเส้นตะวันออกกลาง ระยะเวลาเดินทางเพิ่มขึ้น 1-2 เท่าตัว ค่าเครื่องบินแพงขึ้น

ทั้งนี้ มีทัวร์จากต่างประเทศกำลังเจรจากับรัฐบาลไทย โดยจะมี (charter flight) ของรัสเซีย บินตรงมาลงที่ภูเก็ต เนื่องจากภูเก็ตได้รับความนิยมมากกว่ากรุงเทพฯและพัทยา ถ้าประสบความสำเร็จที่ภูเก็ต ทางพัทยาจะมีบริษัท เอเน็ก ทัวร์ (Anex Tour) ที่กำลังคุยกับสนามบินอู่ตะเภา เรื่องเที่ยวบินเช่าเหมาลำ 7 วัน มี 7 ไฟลต์ บินตรงจากแต่ละเมืองของรัสเซียเข้ามา

“อย่างไรก็ตาม สุดท้ายต้องดูว่ารัฐบาลจะอนุมัติหรือไม่ หรือจะเกรงใจอเมริกันที่มีปัญหาเรื่องสงครามรัสเซีย-ยูเครน ถ้าหากเกรงใจก็ไม่มี charter flight การท่องเที่ยวก็จะลำบาก ส่วนตลาดจีนตอนแรกคิดว่าจะเริ่มผ่อนคลาย แต่ตอนนี้จีนยังยืนมาตรการ Zero COVID ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ก็ไม่ส่งเสริมการท่องเที่ยว”

นายมนัส มีพงษ์ ประธานบริหารตลาดน้ำ 4 ภาค (พัทยา) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ภาพรวมธุรกิจท่องเที่ยวเมืองพัทยา ถือว่ากำลังไปได้ดี หลังจากมีการเปิดประเทศมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2565 นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องประมาณ 25-30% ซึ่งมีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ ส่วนใหญ่เป็นชาวอินเดีย มาเลเซีย

ทั้งนี้ กลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาถือว่าเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ โดยเฉพาะชาวมาเลเซีย ถือเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ไม่ควรมองข้าม เพราะมีตัวเลขเข้ามาใกล้เคียงกับชาวอินเดีย ขณะเดียวกันตัวเลขของนักท่องเที่ยวรัสเซียก็เริ่มขยับขึ้นเรื่อย ๆ ผู้ประกอบการก็เริ่มทยอยเปิดกิจการมากยิ่งขึ้น

ปัจจุบันพื้นที่เมืองพัทยามีสถานที่ท่องเที่ยวเปิดแล้วประมาณ 10-15% เทรนด์อนาคตการท่องเที่ยวปีนี้คาดว่าจะไปได้ดี หากรัฐบาลมีการส่งเสริมผู้ประกอบการ เช่น ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวให้กับสถานที่ต่าง ๆ ไม่จำเป็นต้องสถานที่ดัง ๆ ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมท่องเที่ยวทางอ้อม รวมทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดี

นายสรรเพชร ศุภบวรเสถียร ที่ปรึกษานายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก กล่าวว่า โรงแรมที่อยู่เครือข่ายของสมาคม กลับมาเปิดให้บริการปริมาณ 70-80% ภาพรวมการท่องเที่ยวเมืองพัทยามีนักท่องเที่ยวไทยประมาณ 70% ต่างชาติ 30% ยอดจองเข้าพักช่วงนี้ยังน้อย เนื่องจากต่างประเทศลดเที่ยวบิน เศรษฐกิจก็ไม่ดี กลุ่มนักท่องเที่ยวตลาดหลักระยะสั้น คือ อินเดีย เกาหลี ส่วนตลาดระยะยาว คือ เยอรมนี อังกฤษ

“ตอนนี้รอลุ้น charter flight จากรัสเซียบินตรงลงที่อู่ตะเภา ตอนนี้อยู่ขั้นตอนของการเจรจาความเป็นไปได้คือปลายเดือนพฤศจิกายน 2565 ก็คาดว่าจะมีสัปดาห์ละ 7 ไฟลต์ แต่ก็ถือว่าเริ่มเห็นสัญญาณที่ดี มียอดจองต่างชาติเข้ามาเรื่อย ๆ แต่ไม่หวือหวา

ผู้ประกอบการโรงแรมเตรียมพร้อมรับนักท่องเที่ยวตลอดเวลา ปีนี้การท่องเที่ยวไม่น่าจะฟื้นเพราะตลาดจีนยังไม่มา เศรษฐกิจไม่ดี ทำให้การท่องเที่ยวไม่น่าจะหวือหวา ส่วนปีหน้าต้องรอดูการเมืองโลกด้วย เพราะปัจจัยการท่องเที่ยวมีหลาย ๆ อย่าง อาทิ การลดหรือเพิ่มเที่ยวบิน ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เป็นต้น”