“ช่องเม็ก” ส่งออกโตหมื่นล้าน ชายแดนเหงา เงินเฟ้อลาวพุ่ง

“อุบลราชธานี” ถือเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีการค้าชายแดนระหว่างประเทศเพื่อนบ้านที่มีมูลค่าสูง โดยเฉพาะด่านช่องเม็ก ที่เป็นด่านสำคัญที่มีการนำเข้าและส่งออกสินค้า ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับด่านสากลวังเต่า แขวงจำปาสัก สปป.ลาว หลังจากมาตรการควบคุมโควิด-19 คลี่คลายลง และกลับมาเปิดด่านอีกครั้ง

“ประชาชาติธุรกิจ” ได้ลงสำรวจพื้นที่บริเวณด่านช่องเม็ก ตำบลช่องเม็ก อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี พบว่า ปัจจุบันชายแดนไทย-ลาว ยังไม่คึกคักเท่าที่ควร แม้ประเทศไทยจะมีนโยบายเปิดประเทศและเปิดด่านให้ไปมาหาสู่กันได้ เนื่องจากปัจจุบัน สปป.ลาวเผชิญปัญหาเงินเฟ้อมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ค่าเงินกีบอ่อนค่าลงมาก อัตราแลกเปลี่ยน 1 บาทต้องใช้เงินกีบประมาณ 500 กีบ ทำให้การค้าขายบริเวณชายแดนยังคงเงียบเหงา โดยเฉพาะผู้ประกอบการค้าขายสินค้าอุปโภคบริโภคที่ปกติคนลาวจะนิยมเดินทางข้ามมาจับจ่ายซื้อสินค้าฝั่งไทย แต่ปัจจุบันคนลาวหันไปซื้อสินค้าไทยที่นำเข้าไปขายในประเทศลาวแทนที่จะเดินทางข้ามมา

10อันดับนำเข้า-ส่งออกช่องเม็ก

“วัลลพ ซุ่มรักษา” นายด่านศุลกากรช่องเม็ก เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่าด่านศุลกากรช่องเม็ก มีเขตพื้นที่รับผิดชอบทั้งเป็นจุดผ่านแดนถาวรและจุดผ่อนปรน โดยมีจุดผ่านแดนถาวร 1 แห่งคือ ด่านช่องเม็ก และมีจุดผ่อนปรนทางการค้า 4 แห่ง คือ จุดผ่อนปรนช่องอานม้า จุดผ่อนปรนช่องตาอู จุดผ่อนปรนโขงเจียม และจุดผ่อนปรนท่าเกวียน หลังจากผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 มีคำสั่งให้มีการเปิดด่านช่องเม็กเมื่อเดือนพฤษภาคม 2565 ส่งผลให้ด่านช่องเม็กมีมูลค่าการนำเข้า-ส่งออกที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจุดผ่านแดนถาวร จุดผ่อนปรนการค้า และช่องทางอื่น ๆ ตลอดแนวชายแดนจังหวัดอุบลราชธานี ยังไม่เปิดให้บริการ เช่น ด่านศุลกากรเขมราฐ ที่ใช้การขนส่งทางเรือข้ามไปยังฝั่ง สปป.ลาวต้องปรับเปลี่ยนช่องทางมาใช้ช่องทางอื่น ๆ

ปัจจุบันด่านศุลกากรช่องเม็ก การค้าชายแดนยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องมาจาก สสป.ลาว ยังคงมีความต้องการและมั่นใจในคุณภาพของสินค้าจากประเทศไทย ซึ่งสินค้าส่งออกส่วนใหญ่ที่ผ่านด่านศุลกากรช่องเม็ก ไปยัง สปป.ลาว เป็นสินค้าประเภท น้ำมันเชื้อเพลิง สินค้าเพื่อการอุปโภคบริโภค สินค้าเพื่อการเกษตร สินค้าประเภทวัสดุก่อสร้าง เป็นต้น

ส่วนสินค้านำเข้าส่วนใหญ่เป็นสินค้าทางการเกษตร ซึ่งผู้ประกอบการของไทยยังคงมีความต้องการสินค้าเกษตรจาก สปป.ลาวอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าประเภทมันสำปะหลังเส้น เนื่องจากผลผลิตภายในประเทศยังไม่เพียงพอต่อภาคอุตสาหกรรม

เห็นได้ว่าตั้งแต่ปีงบประมาณ 2562-2565 มูลค่าการส่งออกสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2562 มีมูลค่า 11,426 ล้านบาท ปี 2563 มีมูลค่าส่งออก 11,760 ล้านบาท ปี 2564 มีมูลค่าส่งออก 12,731 ล้านบาท และปี 2565 มีมูลค่าส่งออก 15,113 ล้านบาท

สำหรับการค้าส่งออกและนำเข้าในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2565 (ตุลาคม 2564-กันยายน 2565 ) พบว่า มียอดมูลค่ารวม 30,180 ล้านบาท โดยมีสินค้าส่งออกมากที่สุด ได้แก่ 1.น้ำมันเชื้อเพลิง (น้ำมันดีเซล และน้ำมันเบนซิน) มูลค่า 5,383 ล้านบาท 2.อาหารสัตว์ มูลค่า 641 ล้านบาท 3.พลาสติก มูลค่า 572 ล้านบาท 4.รถไถนาและส่วนประกอบ มูลค่า 546 ล้านบาท 5.รถยนต์ มูลค่า 492 ล้านบาท 6.เครื่องดื่มชาเขียว มูลค่า 329 ล้านบาท 7.ครีมเทียม มูลค่า 326 ล้านบาท 8.ปุ๋ยเคมี มูลค่า 311 ล้านบาท 9.เครื่องยนต์ดีเซล มูลค่า 270 ล้านบาท 10.ผงชูรส มูลค่า 254 ล้านบาท และสินค้าอื่น ๆ มูลค่ารวม 5,983 ล้านบาท

ในส่วนสินค้านำเข้า 10 อันดับแรกนั้น แบ่งเป็น 1.มันสำปะหลัง (มันเส้น) มูลค่า 6,192 ล้านบาท 2.พลังงานไฟฟ้า มูลค่า 6,013 ล้านบาท 3.เมล็ดกาแฟดิบ มูลค่า 642 ล้านบาท 4.มะขามเปียก มูลค่า 387 ล้านบาท 5.กะหล่ำปลี มูลค่า 302 ล้านบาท 6.มันสำปะหลัง (หัวมันสด) มูลค่า 294 ล้านบาท 7.มันเทศ มูลค่า 281 ล้านบาท 8.กาแฟสำเร็จรูป, กาแฟ 3 in 1 มูลค่า 213 ล้านบาท 9.กล้วยดิบ มูลค่า 173 ล้านบาท 10.แป้งมันสำปะหลัง มูลค่า 83 ล้านบาท และสินค้าอื่น ๆ มูลค่ารวม 481ล้านบาท

นายจักกฤษ กิ่งแก้ว เจ้าของร้านขายสินค้าอุปโภค บริโภค เปิดเผยว่า หลังจากมีการเปิดด่าน การค้าขายเริ่มดีขึ้น นักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางไปเที่ยวฝั่ง สปป.ลาวเพิ่มมากขึ้น เวลาเดินทางกลับมามีการแวะซื้อของฝากทำให้สถานการณ์ดูคึกคัก โดยเฉพาะช่วงวันหยุดยาว เฉลี่ย 1,000 คนต่อวัน ลักษณะการค้าขายช่วงนี้เป็นการค้าขายในประเทศมากกว่า

ส่วนนักท่องเที่ยวฝั่ง สปป.ลาวยังไม่ค่อยเดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทย เนื่องจากด้วยปัญหาเงินเฟ้อของ สปป.ลาวสูง ทำให้ค่าเงินกีบอ่อนตัวลงมาก คนลาวมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อของ โดยจะไม่ข้ามมาฝั่งไทย แต่จะซื้อผ่านร้านค้าขายสินค้าไทยจะมีอยู่ตามหัวเมืองใหญ่ เช่น ปากแซง จำปาสัก

ตอนนี้เริ่มมียี่ปั๊วนำสินค้าเข้าไปขายฝั่ง สปป.ลาวเพิ่มมากขึ้น เปิดร้านค้าตามหมู่ โดยสินค้าที่นำไปขายส่วนใหญ่เป็นสินค้าอุปโภคบริโภค ทำให้ชาว สปป.ลาวหาซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้นและราคาไม่ต่างกันมาก ทำให้ร้านค้าแถวด่านช่องเม็ก
ได้รับผลกระทบ

นายสุชาติ ศรีราช เจ้าของร้านลาบซอย 3 ด่านช่องเม็ก เปิดเผยว่า การค้าขายเริ่มดีขึ้น แต่ยังไม่คึกคัก โดยเริ่มมีนักท่องเที่ยวเข้ามาประมาณ 50% เทียบกับช่วงโควิด-19 ระบาดนักท่องเที่ยวเหลือ 0% โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เข้ามาเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย ที่เดินทางมาในช่วงหยุดยาว เสาร์ อาทิตย์ จากการสอบถามนักท่องเที่ยวเดินทางมาสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ เช่น วัดภูพร้าว ไปล่องแพที่เขื่อนสิรินธร และมาแวะซื้อของฝากที่ด่านช่องเม็ก

แต่ก่อนคนฝั่ง สปป.ลาวข้ามมาไทยเยอะมาก มีรถยนต์ข้ามมา 200-300 คันต่อวัน ตอนนี้นักท่องเที่ยว สปป.ลาวยังไม่ค่อยข้ามมาเพราะว่ามีปัญหาเกี่ยวกับค่าเงินกีบที่อ่อนตัว อีกทั้งมียี่ปั๊วนำสินค้าจากไทยเข้าไปขายฝั่ง สปป.ลาว สินค้าส่วนใหญ่เป็นสินค้าอุปโภค บริโภค อาทิ อาหารสด ผัก ผลไม้ ก็ส่งผลกระทบต่อพ่อค้าแม่ค้าพอสมควร