เปิดเส้นทางสายมู “ตักบาตรโชติกา” วัดเจดีย์หลวง ท่องเที่ยวเชียงใหม่

วัดเจดีย์หลวง จ.เชียงใหม่

สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเชียงใหม่ ชู “สายมู” เปิดเส้นทาง “ตักบาตรโชติกา” วัดเจดีย์หลวง

วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ประชุมวิสามัญ ครั้งที่ 1/2566 ณ โรงแรมศิริปันนา วิลล่า รีสอร์ท แอนด์ สปา เชียงใหม่ พร้อมแถลงนโยบายด้านการท่องเที่ยวที่จะขับเคลื่อนและผลักดัน

นายศุภมิตร กิจจาพิพัฒน์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ กำหนดวิสัยทัศน์ โดยมุ่งยกระดับการประกอบธุรกิจท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ไปสู่ความยั่งยืน ซึ่งมีพันธกิจหลักสำคัญคือ เร่งเพิ่มปริมาณนักท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ และเพิ่มแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ ที่จะเป็นตัวเลือกใหม่ ๆ ให้กับนักท่องเที่ยว

ทั้งนี้ กลยุทธ์ประการสำคัญที่จะเพิ่มปริมาณนักท่องเที่ยว อาทิ การจัดอีเวนต์ด้านการท่องเที่ยว, การดึงสายการบินจากต่างประเทศบินตรง (Direct Flight) เข้าสู่จังหวัดเชียงใหม่, การส่งเสริมการท่องเที่ยวให้ครอบคลุมทั้งระดับพื้นที่และระดับเมืองทั้ง 25 อำเภอ และการทำแพ็กเกจเชียงใหม่เที่ยวได้ตลอดปี เป็นต้น

โดยอีเวนต์แรกที่ทางสมาคมจะขับเคลื่อนเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่คือ งานประเพณี “ตักบาตรโชติกา” วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร ซึ่งจะจัดกิจกรรมดังกล่าวทุกวันเสาร์ เป็นการตักบาตรรอบองค์พระเจดีย์หลวง ตั้งแต่เวลา 07.00 น. เริ่มวันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป

โดยจะจัดอย่างต่อเนื่องเพื่อสืบสานประเพณี โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะเป็น Magnet ดึงนักท่องเที่ยวได้เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากวัดเจดีย์หลวงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติปักหมุดเมื่อมาท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วมในกิจกรรมนี้ได้

สำหรับวัดเจดีย์หลวงวรวิหาร เป็นพระอารามหลวงในจังหวัดเชียงใหม่ มีชื่อเดิมคือวัดโชติการาม จึงนำชื่อเดิมมาตั้งเป็นชื่องานประเพณี “ตักบาตรโชติกา” โดยวัดเจดีย์หลวงสร้างขึ้นในรัชสมัยพญาแสนเมืองมา พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 7 แห่งราชวงศ์มังราย ตั้งอยู่กลางใจเมืองเชียงใหม่ เดิมถือว่าเป็นศูนย์กลางทางการปกครองของอาณาจักรล้านนา

นายศุภมิตรกล่าวต่อว่า ในปี 2562 ก่อนเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 สัดส่วนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ แบ่งเป็นสัดส่วนคนไทย 70% และต่างชาติ 30% ซึ่งถือว่าค่อนข้างน้อยมากในสัดส่วนของต่างชาติ จึงต้องวางกลยุทธ์เพิ่มสัดส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เพิ่มขึ้น

ซึ่งนอกจากการเพิ่มความถี่ในการจัดอีเวนต์ด้านการท่องเที่ยวแล้ว กลยุทธ์อื่น ๆ ที่ต้องทำควบคู่กันไปคือ การเพิ่มปริมาณสายการบินจากต่างประเทศสู่จังหวัดเชียงใหม่ (Direct Flight) โดยทางสมาคมจะเร่งดำเนินการติดต่อประสานกับสายการบินต่างชาติ รวมถึงการยกระดับการท่องเที่ยวทั้ง 25 อำเภอของเชียงใหม่ ซึ่งจะเร่งประชาสัมพันธ์ให้ 25 อำเภอของเชียงใหม่เที่ยวได้ทุกอำเภอ และเที่ยวได้ตลอดปี

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงโลว์ซีซั่น จะต้องเพิ่มกลยุทธ์มุ่งเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีดีมานด์ในการท่องเที่ยวฤดูฝน ซึ่งก็คือกลุ่มตะวันออกกลาง ทั้งยังสามารถทำเส้นทางอาหารฮาลาลรองรับดีมานด์นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ได้อีกด้วย ซึ่งคาดว่ากลุ่มตะวันออกกลางหรือ Middle East จะเป็นฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ที่จะเข้ามาเพิ่มปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติให้กับเชียงใหม่ได้มากขึ้นในอนาคต