Q1 ค้าปลีก-ค้าส่งอีสานติดลบ “ยงสงวน” อุบลฯไลฟ์สดใน TikTok กระตุ้น

ยงสงวน

ยงสงวนค้าปลีก-ค้าส่ง จ.อุบลฯ สะท้อนกำลังซื้อไตรมาสแรก 3 เดือนติดลบ 8% เตรียมผนึกยูนิลีเวอร์รุกตลาดออนไลน์ ผ่านแพลตฟอร์ม TikTok พร้อมไลฟ์สดขายสินค้ากว่า 300 รายการ 11 มิ.ย.นี้ หวังกระตุ้นยอดขาย ตั้งเป้าปี 2566 โต 3%

นายประกอบ ไชยสงคราม บริษัท ยงสงวนกรุ๊ป จำกัด จ.อุบลราชธานี ผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่ง เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ช่วงไตรมาสแรกของปี 2566 (มกราคม-มีนาคม) ยงสงวนมียอดขายติดลบ 8% สถานการณ์ไม่ค่อยดีกำลังซื้อหายไป ตลาดเงียบมาก

โดยเฉพาะช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน 2566 จากการพูดคุยกับทางซัพพลายเออร์ค้าปลีก-ค้าส่ง สะท้อนให้เห็นว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือไม่เคยติดลบมาก่อน แต่ตอนนี้ถึงขั้นติดลบ และกำลังซื้อที่หดตัวลง ไม่ได้เกิดเฉพาะจังหวัดอุบลราชธานี แต่ติดลบทั้งภาคอีสาน ปัจจัยที่มองคือมีการเปิดประเทศนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามามาก ธุรกิจเริ่มกลับมาเปิดกิจการ แรงงานเริ่มกลับไปทำงาน จำนวนคนในภาคอีสานออกจากพื้นที่จำนวนมาก

ส่งผลให้กำลังซื้อส่วนใหญ่ไปอยู่ที่ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคกลาง รวมถึงกำลังซื้อที่เป็นร้านค้าย่อย ๆ หายไปเพราะอยู่ในช่วงปิดเทอม แต่ยงสงวนสามารถประคับประคองธุรกิจให้เดินหน้าไปได้ด้วยการจัดโปรโมชั่น ซึ่งทางยงสงวนมีการจัดกิจกรรมทุกเดือน

“ปัจจุบันกำลังซื้อเริ่มกลับมาดีขึ้น เม็ดเงินเริ่มสะพัดออร์เดอร์เข้ามาเรื่อย ๆ เนื่องจากโรงเรียนเริ่มเปิดเทอม ร้านค้าที่ปิดกิจการระหว่างช่วงปิดเทอมเริ่มกลับมาเปิดให้บริการ ทำให้มีการบริโภคมากขึ้น แต่สามารถประคับประคองธุรกิจให้เดินหน้าไปได้ด้วยการจัดโปรโมชั่น ซึ่งทางยงสงวนมีการจัดกิจกรรมทุกเดือน”

นายประกอบกล่าวต่อไปว่า ขณะเดียวกันเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากขึ้น ยงสงวนได้มีการปรับกลยุทธ์ทางการตลาด โดยช่วงไตรมาส 2 มีการหันไปรุกตลาดออนไลน์แบบจริงจัง ผ่านแพลตฟอร์ม TikTok ตอนนี้คุยพูดกันเรียบร้อยแล้ว ซึ่งโปรเจ็กต์จะเริ่มเดือนมิถุนายน 2566 คาดว่ายอดขายน่าจะปรับตัวดีขึ้น และวันที่ 11 มิถุนายน 2566 จะมีการขึ้นไลฟ์สดครั้งแรก

ยงสงวน

โดยมีมิสแกรนด์ไทยแลนด์มาช่วยโปรโมตและขายสินค้า ได้รับการสนับสนุนจากทางบริษัท ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย เป็นฝ่ายสนับสนุนสินค้าที่วางขายในแพลตฟอร์มจะมีประมาณ 300 รายการ เบื้องต้นต้องหาสินค้าที่คนส่วนใหญ่นิยมใช้ เพื่อให้ผู้บริโภคเข้ามาดู และค่อย ๆ เพิ่มรายการสินค้า ถ้าหากกระแสตอบรับดีจะมีการไลฟ์สดผ่าน TikTok ทุกวัน ซึ่งได้มีการเตรียมพนักงานไว้สำหรับไลฟ์สดเรียบร้อยแล้ว

“ปกติทางยงสงวนมีการไลฟ์สดขายสินค้าผ่านเพจเฟซบุ๊ก ทางร้านต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการขนส่งเองทั้งหมด ซึ่งค่าขนส่งค่อนข้างสูงทำให้บางครั้งทำแล้วขาดทุน และทาง TikTok เคยเข้ามาดูยงสงวนไลฟ์สดแล้วชื่นชอบมาก ทั้งสไตล์การไลฟ์ ความสนุกสนาน จึงมีความสนใจเชิญชวนให้เข้าไปขายในแพลตฟอร์ม โดยทาง TikTok ออกค่าขนส่งให้ทั้งหมด และจะช่วยซัพพอร์ตเรื่องกฎต่าง ๆ ที่บังคับและเป็นข้อปิดกั้น

ในความจริงกำลังซื้อที่หายไปอาจจะเป็นเพราะว่าพฤติกรรมผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าออนไลน์มากยิ่งขึ้น ไม่ต้องเดินทางมาซื้อเอง ไม่ต้องหาที่จอดรถ เลยคิดว่าลองเปิดใจทำตลาดออนไลน์อย่างจริงจัง ตอนนี้ถือว่าเป็นโอกาสที่ดี เพราะร้านค้าขนาดใหญ่ยังไม่มีใครทำ ส่วนใหญ่มีแต่ร้านค้าเล็ก ๆ แต่เป็นในรูปแบบที่ยังไม่ประสบความสำเร็จ ทางยงสงวนก็ถือว่าเป็นเจ้าแรก ๆ ที่โดดมาทำตลาด TikTok และก็คาดหวังว่าทำแล้วกระแสตอบรับดี”

นายประกอบกล่าวต่อไปว่า ปีนี้ตั้งเป้ายอดขายเติบโตประมาณ 3% หรือประมาณ 3,000 ล้านบาท เพราะช่วงโควิด-19 ยงสงวนเติบโตอย่างมาก ทำให้ฐานค่อนข้างสูง ตอนนี้ไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผู้ประกอบการต้องช่วยเหลือตัวเอง การที่เราจะหาวอลุ่มไปชดเชยกำลังซื้อจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐค่อนข้างยาก

“หลังจากมีการเลือกตั้งแล้วทิศทางธุรกิจ 3 เดือนข้างหน้า คาดหวังว่ากำลังซื้อจะดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่ยังไม่มั่นใจว่าจะมียอดขายที่จะสามารถกลบยอดติดลบช่วงไตรมาสแรกได้หรือไม่ เพราะเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ยังไม่แน่ใจว่าจะออกมาแบบไหน แต่ถ้ามีนโยบายที่พรรคเพื่อไทยหาเสียงไว้เรื่องนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท ก็อยากให้แจกผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ”