นครศรีธรรมราชเร่งรัด 10 ปี ดันวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารขึ้นมรดกโลก

วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชเร่งรัดการจัดทำเอกสาร วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมืองนครศรีธรรมราช แหล่งมรดกทางวัฒนธรรมที่ขึ้นบัญชีการเตรียมเป็นมรดกโลกของยูเนสโก้ หลังครบ 10 ปียังไม่แล้วเสร็จ กรมศิลปากรเตรียมส่งตัวแทนทำความเข้าใจ-อธิบดีกรมศิลป์ไฟเขียวปรับปรุงบูรณะ 5 วิหาร

วันที่ 6 มิถุนายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (5 มิ.ย.) ที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช แหล่งมรดกทางวัฒนธรรมที่ขึ้นบัญชีการเตรียมเป็นมรดกโลกของยูเนสโก้ ถูกจับตามองเรื่องการจัดทำเอกสารที่มีความล่าช้า ซึ่งจะครบ 10 ปีในวันที่ 22 มิถุนายน 2566 นี้ แต่ยังไม่แล้วเสร็จ

ขณะที่การบูรณะซ่อมแซมปรับปรุงในเขตพุทธาวาสที่ถูกจับตามอง เรื่องการเข้าไปรื้อถอนปืนใหญ่โบราณออกจากหน้าวิหารพระสังกัจจายะ จนถูกทักท้วงจากผู้ดูแลสถานที่ เนื่องจากไม่มีเอกสารการอนุญาตจากกรมศิลปากร ทำให้พุทธศาสนิกชนที่เข้าไปพบเห็นเกิดความไม่สบายใจอย่างมาก

ส่วนความคืบหน้าเรื่องการรื้อโบราณสถาน ทางนายพนมบุตร จันรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร ได้ส่งหนังสือมายังเจ้าอาวาสวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารและจังหวัดแล้ว

โดยได้พิจารณาอนุญาตให้ดำเนินการวิหารทั้ง 5 หลังภายในเขตพุทธวาส ให้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลร่วมกันระหว่างสำนักศิลปากรที่ 12 และวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร และกำชับให้มีการบันทึกหลักฐานโดยละเอียด ระหว่างดำเนินการจนแล้วเสร็จทุกขั้นตอน และรายงานไปยังกรมศิลปากรทราบอย่างละเอียดต่อไป

นอกจากนี้ นายอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เรียกประชุมคณะกรรมการนำเสนอพระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราชขึ้นบัญชีเป็นมรดกโลก เพื่อติดตามความคืบหน้าในการจัดทำเอกสาร ที่จะครบ 10 ปี ที่ยังไม่แล้วเสร็จ ปรากฏว่าผู้ช่วยศาตราจารย์ฉัตรชัย ศุกระกาญจน์ ประธานคณะกรรมการจัดทำเอกสารไม่ได้เข้าร่วม มีเพียงกรรมการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมนั้น

ทั้งนี้ นายอภินันท์ได้ตั้งข้อสังเกตถึงความล่าช้าของเอกสารที่แจ้งความคืบหน้ามาตลอดว่าใกล้ที่จะแล้วเสร็จ 7 บท แต่มีการแก้ไขบ่อยครั้ง ทำให้เกิดข้อสงสัยขึ้นอย่างกว้างขวาง ขณะที่คณะกรรมการจัดทำเอกสารได้พยายามทวงถามการเบิกเงินเพื่อเป็นรายจ่ายกว่า 7 แสนบาท เป็นค่าใช้จ่ายของกลุ่มการเดินทางและเบ็ดเตล็ดที่ยังไม่สามารถเบิกจ่ายได้

เจ้าหน้าที่วัฒนธรรมจังหวัดผู้รับผิดชอบการเบิกจ่ายจึงได้แจ้งในที่ประชุมต่อหน้าผู้ว่าราชการจังหวัด ว่ามีการยื่นขอเบิกจ่ายจริง แต่ไม่สามารถตั้งเบิกได้เนื่องจากมีแค่ตัวเลขค่าใช้จ่ายเท่านั้น แต่ไม่มีหลักฐานประกอบการเบิกจ่ายจึงไม่สามารถดำเนินการได้ เช่นเดียวกับผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชยืนยันว่าหากไม่มีหลักฐานแม้เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดก็ไม่สามารถให้เบิกจ่ายได้

ด้าน นางเสริมกิจ ชัยมงคล ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 12 นครศรีธรรมราช ได้แจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ถึงข้อสังเกตและข้อสงสัยเกี่ยวกับการครบเวลา 10 ปี ของการจัดทำเอกสารมรดกโลกว่า ทางอธิบดีกรมศิลปากร หรือผู้อำนวยการกองโบราณคดี กรมศิลปากร ซึ่งเป็นคณะกรรมการมรดกโลกฝ่ายไทย จะขอเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อทำความเข้าใจในเรื่องการจัดทำเอกสารมรดกโลกในวันที่ 15 มิถุนายน 2566 นี้