“ไพจิตร มานะศิลป์” ขึ้นคอนโดฯ “คลังคาซ่า” เฟส 2 โคราช

สัมภาษณ์

ปัจจุบันภาคอีสานนับว่าเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญ ของนักลงทุนทั้งจากชาวไทยและชาวต่างชาติ มีหลายโครงการในพื้นที่ถูกพัฒนา สามารถมองเห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

“ไพจิตร มานะศิลป์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท คลังคาซ่า จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของภาคอีสานและจังหวัดนครราชสีมา ได้ให้สัมภาษณ์กับ “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงจุดเริ่มต้นการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์บนที่ดินทำเลทองผืนใหญ่ใจกลางเมืองโคราช ว่า เริ่มต้นจากกลุ่มทุนท้องถิ่น 3 ราย คือ “ห้างคลังพลาซ่า-เอกสหกรุ๊ป และใต้ฟ้า” ได้ร่วมทุนกันในนาม บริษัท คลังคาซ่า จำกัด ตั้งแต่ปี 2553 ด้วยมูลค่าการลงทุนเริ่มต้น 3,800 ล้านบาท

ต่อมาคลังคาซ่าได้เพิ่มทุนเป็น 5,000 ล้านบาท และได้พัฒนาที่ดินกลางเมืองโคราชกว่า 300 ไร่ ประกอบด้วย 4 โครงการใหญ่ ได้แก่ 1.โครงการเวนิส พาร์ค บ้านเดี่ยวระดับพรีเมี่ยม สไตล์เวเนเชียน

ปัจจุบันเหลือหน่วยขายเป็นบ้านขนาดใหญ่ 4 หลังสุดท้าย จากทั้งหมด 171 ยูนิต 2.โครงการเวนิส สแควร์ อาคารพาณิชย์ 125 ยูนิต 3.โครงการโมเดิร์น ลิงค์ บ้านแฝดสไตล์โมเดิร์น มี 60 ยูนิต ปิดโครงการไปแล้ว และ 4.ซิตี้ลิงค์ คอนโด ที่กำลังเปิดขายและก่อสร้างในขณะนี้ภายในปี 2561 คลังคาซ่ามีแผนจะลงทุนเฟส 2 เพื่อก่อสร้างคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่ อีก 2 อาคาร รวมกว่า 500 ยูนิต จากเดิมที่ได้ลงทุนโครงการซิตี้ลิงค์ คอนโด เฟสที่ 1 ซึ่งมีทั้งหมด 10 อาคาร รวมกว่า 720 ยูนิต ขณะนี้กำลังเปิดขายอาคารที่ 8 (Melburne) และอยู่ระหว่างการก่อสร้าง อาคารที่ 9 และ 10 และคาดว่าจะสามารถปิดการขายเฟส 1 ได้ทั้งหมดภายในปีนี้

“ปัจจุบัน ตลาดคอนโดฯ ที่โคราชถือว่ายังเติบโตได้ดี เพราะมีความต้องการเพิ่มมากขึ้น สังเกตจากการเปิดตัว “Escent คอนโดมิเนียม” ของกลุ่มเซ็นทรัล ที่มียอดจองเต็มภายใน 3-4 วัน และการที่มีผู้ประกอบการรายใหญ่ ๆ เข้ามาลงทุนจะช่วยกระตุ้นตลาดให้มีความคึกคักมากขึ้น”

ไพจิตรเล่าให้ฟังว่า หากย้อนไปเมื่อ 3 ปีที่แล้วโครงการซิตี้ลิงค์ คอนโด ราคาขายอยู่ที่ ตร.ม.ละ 40,000 บาท แต่ในปัจจุบัน ตร.ม.ละ 60,000 บาท ราคาเริ่มต้นที่ 1.2-3 ล้านบาท อนาคตหากมีการสร้างถนนมอเตอร์เวย์ รถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วสูง ที่ดินจะมีมูลค่าสูงขึ้นมาก และโครงการของรัฐบาลทั้ง 3 โครงอยู่ใกล้โครงการซิตี้ลิงค์ คอนโด จุดเด่นคือทำเลของโครงการอยู่ใจกลางเมือง ตอบโจทย์ลูกค้า

ปีที่ผ่านมา เดอะลิ้งค์ คอนโด มียอดขายประมาณ 800 ล้านบาท จากเป้าที่ตั้งไว้ 900 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากปัญหาเศรษฐกิจที่ชะลอตัว แต่ปีนี้มีแนวโน้มดีขึ้น คาดว่ายอดขายโครงการน่าจะเติบโตประมาณ 15% หรือประมาณ 1,000 ล้านบาท

สำหรับโครงการต่าง ๆ ที่เข้ามาลงทุนซื้อที่ดินภายในคลังคาซ่า และจัดการบริหารเอง เช่น โรงเรียนนานาชาติ แองโกลสิงคโปร์ บนเนื้อที่ 11 ไร่ ขณะนี้ก่อสร้างไปกว่า 90% มูลค่าการลงทุน 400 ล้านบาท กำหนดเปิดดำเนินการภายในเดือนสิงหาคมนี้ โรงแรมบีทู เป็นกลุ่มทุนจาก จ.เชียงใหม่ กำลังทำการก่อสร้างโรงแรมสูง 7 ชั้น รวม 79 ห้อง บนเนื้อที่ 1 ไร่

มูลค่าการลงทุน 120 ล้านบาท ใช้เวลาในการก่อสร้าง ประมาณ 18 เดือน คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการช่วงกลางปี 2562 นอกจากนี้ กำลังติดต่อกับกลุ่มธุรกิจโรงพยาบาล เพื่อมาสร้างในโครงการ บนพื้นที่ประมาณ 10-15 ไร่ คาดว่าจะสามารถสรุปได้ภายในกลางปีนี้

นอกจากนี้ไพจิตรยังบอกอีกว่า ปัจจุบันโครงการยังเหลือพื้นที่พัฒนาอีกประมาณ 85 ไร่ โดยในระยะ 6-8 ปี มีแผนจะพัฒนาเป็นที่พักอาศัยสำหรับผ้สูงอายุ ศูนย์ประชุม อาคารสำนักงาน มูลค่าโครงการปัจจุบัน ประมาณ 6,000 ล้านบาท และมีแผนจะนำซูเปอร์มาร์เก็ต ภายใต้แบรนด์ “คลังซูเปอร์มาร์เก็ต”

เข้าไปเปิดให้บริการภายในโครงการ ซึ่งขณะนี้มีจำนวนประชากรที่เข้ามาพักอาศัยในโครงการประมาณ 1,000 ยูนิต แบ่งเป็น โครงการบ้าน ประมาณ 300 ยูนิต, คอนโดฯ ประมาณ 600 ยูนิต และโครงการโมเดิร์นลิ้งค์อีกประมาณ 60 ยูนิต

ต้องรอดูต่อไปว่าในอนาคตเมืองโคราช หรือพื้นที่จังหวัดอื่นในภาคอีสานจะเกิดการแข่งขันด้านการลงทุนดุเดือดมากขึ้นหรือไม่ต่อไปในอนาคต