
นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชี้ “สารไพรโรไลสิสแก๊สโซลีน” อันตรายต่อปอด-ระบบทางเดินหายใจ ทำลายระบบประสาทส่วนกลาง เม็ดเลือดแดง จี้อพยพประชาชนห่างออกมาอย่างน้อย 3 กิโลเมตร
วันที่ 9 พฤษภาคม 2567 นายสนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว กล่าวถึงถังเก็บสารเคมีระเบิดที่ ท่าเรือนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยอง ซึ่งถูกประกาศเป็นเขตควบคุมมลพิษ
1.เกิดระเบิดที่ถังเก็บสารไพรโรไลสิสแก๊สโซลีนของบริษัท มาบตาพุดแทงค์เทอร์มินัล จำกัด ในท่าเรือนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด อ.เมืองระยอง
2.ควันดำและไอระเหยจากสารสารไพรโรไลสิสแก๊สโซลีนจะทำให้เกิดอาการแสบตา แสบจูก แสบผิวหนังทำอันตรายต่อปอดและระบบทางเดินหายใจ ปวดศีรษะ ทำลายระบบประสาทส่วนกลาง ทำลายเม็ดเลือดแดงและอาจเป็นสารก่อมะเร็งเม็ดเลือดขาวด้วย ต้องอพยพประชาชนออกมาจากท้ายลมอย่างน้อย 3 กิโลเมตร
3.น้ำมันเบนซินไพโรไลซิสหรือ Pygas เป็นของเหลวติดไฟเกิดจากผลิตภัณฑ์แนฟทาที่มีสารอะโรเมติกส์สูงซึ่งเป็นผลพลอยได้จากการ แตกของแนฟทาที่อุณหภูมิสูงในระหว่างการผลิตเอทิลีนและโพรพิลีน มีจุดติดไฟที่อุณหภูมิ-16 องศา ใช้ประโยชน์ในการนำไปเป็นส่วนผสมเพื่อเพิ่มค่าออกเทนในการผลิตน้ำมันเบนซินและยังสามารถนำเข้ากระบวนการแยกสารอะโรเมติกส์ออกจากสารประกอบอื่น ๆ ได้
4.การดับเพลิงให้ใช้โฟมฉีดและทำการสเปรย์น้ำเป็นฝอยคลุมถังไว้ห้ามฉีดน้ำเป็นลำพ่นเข้าไปที่ตัวถังโดยตรง ประชาชนต้องใช้ผ้าชุบน้ำปิดจมูกและปาก และล้างตาล้างหน้าและผิวหนังอย่างน้อย 15 นาที อพยพอยู่ท้ายลมอย่างน้อย 3 กิโลเมตร