เทศกาลลอยกระทงปีนี้คึกคัก ททท.คาดเงินสะพัด 7 พันล้าน ‘เชียงใหม่-สุโขทัย’ ฮอตสุด เชียงใหม่ยอดจองโรงแรมพุ่ง 90% ปัจจัยหนุนติดวันหยุดยาว-อากาศเริ่มเย็น เที่ยวบินเพิ่ม 36% กทม.จัดใหญ่ 140 จุด เน้นรักษ์สิ่งแวดล้อม เลิกใช้กระทงโฟม-ขนมปัง
รายงานข่าวจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยถึงเทศกาลลอยกระทงว่า แม้ปีนี้หลายจังหวัดจะจัดงานน้อยวัน แต่เป็นช่วงวันหยุดยาวสุดสัปดาห์ อาจเป็นแรงหนุนให้นักท่องเที่ยวเดินทางมากขึ้น และจะเป็นคนไทยถึง 1.99 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 ก่อเกิดรายได้ 6,990 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 โดยมีอัตราเข้าพักโรงแรมเฉลี่ย 67% อยู่ที่กรุงเทพฯ สูงสุด 72% ภาคกลาง+ภาคตะวันตก 70% ภาคใต้ 69% ภาคตะวันออก 66% ภาคเหนือ 64% และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 62%
หากประเมินรายภูมิภาค ภาคเหนือจะมีผู้เยี่ยมเยือนมากสุด 568,740 คน-ครั้ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 รองมาคือภาคกลาง+ภาคตะวันตก 380,440 คน-ครั้ง และกรุงเทพฯ 330,450 คน-ครั้ง ส่วนภาคที่จะสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวมากสุด คือภาคเหนือ 2,556 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 รองลงมาคือ กทม. 1,371 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 และภาคตะวันออก 1,123 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22%
ไฮไลต์อยู่ระหว่างวันที่ 13-16 พฤศจิกายน ที่คลองผดุงกรุงเกษม “มหัศจรรย์ สีสันแห่งศรัทธา” Amazing Night of Lights : Loi Krathong Festival คาดมีผู้ร่วมงาน 330,450 คน-ครั้ง มีรายได้ 1,371 ล้านบาท
ส่วนพื้นที่เอกลักษณ์มี 5 แห่ง คือ งานเผาเทียน เล่นไฟ จ.สุโขทัย (8-17 พ.ย.), ลอยกระทงสาย ไหลประทีป 1,000 ดวง จ.ตาก (15-18 พ.ย.), งานเดือนยี่เป็ง จ.เชียงใหม่ (12-15 พ.ย. 2567), ลอยกระทงกาบกล้วยเมืองแม่กลอง จ.สมุทรสงคราม (15-17 พ.ย.) ประเพณีสมมาน้ำ คืนเพ็ง เส็งประทีป จ.ร้อยเอ็ด (14-15 พ.ย.) คาดมีผู้มางาน 330,400 คน-ครั้ง สร้างรายได้ 1,364 ล้านบาท
โดยเชียงใหม่และสุโขทัยจะมีผู้เยี่ยมเยือนสูงเป็นอันดับ 1 และ 2 เนื่องจากเป็นพื้นที่ยอดนิยมของคนไทย ขณะนี้อากาศเริ่มเย็นลง ผนวกกับรูปแบบการจัดงานมีเอกลักษณ์ เป็นประเพณีสืบทอดมานาน รวมถึงแคมเปญ “แอ่วเหนือ..คนละครึ่ง” ภายใต้โครงการเหนือพร้อม..เที่ยววันที่ 1 พ.ย.-31 ธ.ค. 2567
นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ได้คาดการณ์เที่ยวบินเดือนพฤศจิกายน 2567 ว่าจะมี 73,500 เที่ยวบิน เฉลี่ยวันละ 2,450 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 36% ในช่วงเทศกาลลอยกระทง ปริมาณเที่ยวบินมากสุด 6 อันดับคือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ 6,170 เที่ยวบิน ดอนเมือง 3,760 เที่ยวบิน ภูเก็ต 1,840 เที่ยวบิน เชียงใหม่ 1,100 เที่ยวบิน สมุย 440 เที่ยวบิน และเชียงราย 230 เที่ยวบิน
นางละเอียด บุ้งศรีทอง ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมรติล้านนา ริเวอร์ไซด์ สปา รีสอร์ท เชียงใหม่ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า เทศกาลยี่เป็งปีนี้ทุกโรงแรมยอดจองอยู่ที่ 85-90% โดยเฉพาะย่านถนนนิมมานฯ และริมแม่น้ำปิง ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ 50% (ยุโรป เกาหลี ไต้หวัน จีน) นอกนั้นเป็นคนไทย ส่วนรติล้านนามียอดจอง 90% เช่นกัน เป็นลูกค้าจากยุโรป อาทิ สเปน อังกฤษ และเยอรมนี
สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของเชียงใหม่กลับมาคึกคักอีกครั้งหลังน้ำท่วม โดยมีประเพณี วัฒนธรรม และวิถีชีวิตเป็นจุดขาย ขณะที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่มีผู้เดินทางเข้า-ออกต่อวันถึง 31,000 คน และมีแนวโน้มมากขึ้นเรื่อย ๆ
นางสาววารุณี คำเมรุ ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมดวงตะวัน เชียงใหม่ กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า บรรยากาศท่องเที่ยวเชียงใหม่คึกคักมาก ยิ่งช่วงเทศกาลยี่เป็งทุกโรงแรมมียอดจองห้องพักพุ่งสูง 90-100% อย่างโรงแรมดวงตะวันระดับ 4 ดาว มี 512 ห้องพักถูกจองเต็ม 100% ลูกค้าเป็นชาวญี่ปุ่น ยุโรป ถือเป็นปรากฏการณ์เกินคาดที่ห้องพักถูกจองเต็มหลังน้ำท่วม ทำให้ธุรกิจทัวร์ ร้านอาหาร สปา นวด ของที่ระลึก ถนนคนเดิน ฯลฯ คึกคักตาม คาดเงินสะพัด 300 ล้านบาท
นายเรียงทองบาท มีพันธุ์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปีนี้ได้จัดกิจกรรมช่วงลอยกระทง “4 วัด 1 วัง เมื่อครั้งต้นกรุงฯ” วันที่ 9-17 พฤศจิกายนนี้ ที่วัดไชยวัฒนาราม, ประกวดนางนพมาศ “โฉมงามแห่งกรุงศรี” ที่วัดพระราม พิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ จันทร์วันเพ็ญที่วัดมหาธาตุ ยอดจองโรงแรมเริ่มดี เป็นคนไทย 80% นอกนั้นเป็นคนจีน ยุโรป
โดยเทศกาลท่องเที่ยวโบราณสถานยามค่ำคืนตลอด 9 คืน ทั้งฉายหนังใหญ่ รำไทย ฟันดาบ, ประกวดแมวไทยโบราณคืนถิ่นกรุงศรี ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา คาดมีผู้เข้าร่วมงาน 300,000 คน
นายวิวัฒน์ ธาราวิวัฒน์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดสุโขทัยเปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่างานประเพณีเผาเทียนเล่นไฟ เที่ยวงานลอยกระทง เมืองมรดกโลก ณ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ผลตอบรับดีมาก ห้องพักมียอดจองเต็ม 90% เป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย 80% ที่เหลือเป็นชาวยุโรป อเมริกัน สเปน ฝรั่งเศส เยอรมัน ฮอลแลนด์ ญี่ปุ่น จีน
นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า กทม.น่าจะมีการลอยกระทงมากที่สุดในไทย ปีนี้มีจัดงาน 140 จุด แบ่ง 3 ประเภทคือ ลอยกระทงแบบดั้งเดิม ลอยกระทงแบบดิจิทัล และลอยกระทงแบบออนไลน์
การลอยกระทงไม่ใช่แค่เทศกาลระดับเมืองหรือประเทศ แต่เป็นระดับโลก เป็นประเพณีสำคัญที่ต้องสืบสานให้คนรุ่นหลังเข้าใจและคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย
ส่วนสถิติการจัดเก็บกระทง พบว่าปีที่แล้วจัดเก็บได้ 639,828 ใบ เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ที่เก็บได้ 572,602 ใบ หรือเพิ่มขึ้น 67,226 ใบ คิดเป็น 11.74% เป็นกระทงจากวัสดุธรรมชาติ 618,951 ใบ คิดเป็น 96.74% กระทงโฟม 20,877 ใบ หรือ 3.26%
ปี 2567 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ตั้งเป้าให้กระทงโฟมเป็นศูนย์ โดยร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อให้กระทงที่ไม่ใช่วัสดุธรรมชาติลดลงมากที่สุด
จุดไฮไลต์แบบดั้งเดิมจะจัดขึ้นที่สวนสาธารณะ 34 แห่ง, ตามคลองคูเมืองเดิม (คลองหลอด) ที่เชื่อมโยงกับงาน Awakening Bangkok 2024 ย่านพระนคร-ปากคลองตลาด, งานมนต์เสน่ห์ 4 ภาค คลองเปรมประชากรที่ลานอเนกประสงค์ ชุมชนประชาร่วมใจ 1 และวัดเสมียนนารี, งานลอยกระทงวิถีไทย ปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ที่วัดอรุณฯ, งานสีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง ที่คลองผดุงกรุงเกษม ย่านหัวลำโพง, งาน Bangkok River Festival 2024 ณ 10 ท่าน้ำริมเจ้าพระยา และ THAICONIC Loy Krathong : THE FLOWING LEGACY OF THAI SPIRIT ที่ไอคอนสยาม
ส่วนลอยกระทงดิจิทัลเพื่อรับกระแสคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมนั้น สร้างสรรค์กระทงเองได้ในรูปแบบ Projection Mapping มี 4 จุดคือ Skywalk สี่แยกปทุมวัน, ลานคนเมือง ศาลาว่าการ กทม., คลองโอ่งอ่าง และสวนสันติภาพ เขตราชเทวี