ตราดดันทุนท้องถิ่นเดินเรือ เชื่อมคลองใหญ่-เกาะกง-สีหนุวิลล์

เส้นทางคมนาคมจังหวัดตราด ทางบก-น้ำ-อากาศ

การประชุมทวิภาคีคณะทำงานไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 5 เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่เกาะช้าง จ.ตราด ทาง 3 สมาคมธุรกิจท่องเที่ยว ประกอบด้วยสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดตราด สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดตราด และสมาคมโรงแรมและรีสอร์ทจังหวัดตราด จับมือกันเสนอเปิดเส้นทางเดินเรือเชื่อมโยงกัมพูชา-ไทย ควบคู่กับการพัฒนาถนน Southern Tourism Corridor หรือ R10 เชื่อมโยง สปป.ลาว กัมพูชา เวียดนาม แจงศักยภาพเอกชนพร้อม มีท่าเทียบเรืออเนกประสงค์คลองใหญ่เป็นโดเมสติกไลน์ (domestic line) กระจายนักท่องเที่ยวตามเกาะต่าง ๆ ในจังหวัดตราด และเชื่อมโยงในภูมิภาคตะวันออก กัมพูชาขานรับแนวทางการพัฒนาเส้นทางเดินเรืออยู่ในแผนพัฒนาเตรียมเปิดท่าเทียบท่องเที่ยวใหม่เมืองกัมปอตปลายปี 2562 พร้อมเสนอสิทธิประโยชน์เชิญชวนนักลงทุนไทยไปลงทุน

เดินเรือเชื่อมท่องเที่ยวทางน้ำ

นายทวีศักดิ์ วานิชย์เจริญ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า การประชุมทวิภาคีคณะทำงานไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 5 เป็นไปตามบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว ที่ผ่านมาความร่วมมือระหว่างไทย-กัมพูชามีทิศทางเติบโตที่ดี และชื่นชมกับ “นโยบายอิสรภาพแห่งชาติกัมพูชา” ( National Independence) ที่ให้ความสำคัญกับการค้า การลงทุนในเอเชียมากขึ้น และลดขั้นตอนที่ยุ่งยากต่าง ๆ ของระบบศุลกากร ตรวจคนเข้าเมือง เพื่อความสะดวกรวดเร็ว ซึ่งเป็นผลดีต่อการท่องเที่ยวเชื่อมโยง 2 ประเทศตามแนวคิด “Two Countries, One Destination”

“ในเวทีอาเซียนในกลุ่ม CLMV ไทยเสนอนโยบายเรื่อง reentry visa นักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เข้ามาท่องเที่ยวในไทยสามารถเข้า-ออกประเทศเพื่อนบ้านได้หลายครั้ง โดยไม่ต้องขอวีซ่าใหม่ ขณะเดียวกัน สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้เสนอพัฒนาเส้นทางเชื่อมโยงทางน้ำระหว่างคลองใหญ่ เกาะกง สีหนุวิลล์ โดยมีท่าเทียบเรือคลองใหญ่ อ.คลองใหญ่ จ.ตราด เป็นจุดบริการวันสต็อปเซอร์วิส(one stop service : OSS)”

นำร่อง “สีหนุวิลล์-คลองใหญ่”

ทางด้าน นางวิยะดา ซวง นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดตราด และผู้ช่วยประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้ร่วมกับสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดตราด สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดตราด และสมาคมโรงแรมและรีสอร์ทจังหวัดตราด เสนอเปิดเส้นทางเชื่อมโยงทางทะเลให้มีการเดินเรือชายแดนร่วมกันระหว่างท่าเรือคลองใหญ่ (จ.ตราด)-เกาะกง-สีหนุวิลล์ เพื่อให้มาท่องเที่ยวจังหวัดตราดตามเกาะต่าง ๆ หรือบนฝั่งก่อนเดินทางไปท่องเที่ยวที่อื่น ๆ และต่อไปจะพัฒนาเป็นเรือโดยสารระหว่างประเทศ (interna-tional line) จึงขอให้ภาครัฐไทย-กัมพูชาหารือร่วมกันเรื่องกฎหมายกับกรมเจ้าท่า เพื่ออำนวยความสะดวกในการพัฒนาเส้นทางเชื่อมโยงการท่องเที่ยว 3 ประเทศได้ภายใน 1 วัน (ไทย-กัมพูชา-เวียดนาม)

แผนการเดินเรือระยะแรกมีการเดินเรืออินเตอร์เนชั่นแนลมาจากสีหนุวิลล์ เข้าท่าเทียบเรืออเนกประสงค์คลองใหญ่ จากนั้นกระจายเป็นโดเมสติกไลน์ภายในประเทศ มีเรือสปีดโบ๊ต 30-60 ที่นั่ง ความเร็วไม่เกิน 20 นอต/ชั่วโมง เชื่อมโยงไปเกาะต่าง ๆ เช่น เกาะช้าง เกาะหมาก เกาะกูด และระยะยาวมีเรือขนาด 400 ที่นั่ง ความเร็ว 20-25 นอต/ชั่วโมง เชื่อมโยงระหว่างประเทศและเข้าไปในภูมิภาคตะวันออก เช่น พัทยา เกาะเสม็ด ภาครัฐจะต้องสนับสนุนเรื่องการให้บริการเดินทางเข้า-ออก จากหน่วยตรวจคนเข้าเมือง ศุลกากร ตลอดจนความสะดวกของท่าเทียบเรืออเนกประสงค์คลองใหญ่ที่การท่าเรือแห่งประเทศไทยจะเข้ามาบริหารในวันที่ 1 ตุลาคม 2562

“การเดินทางท่องเที่ยวทางทะเลมีความหลากหลาย เส้นทางท่องเที่ยวทางเรือมีโอกาสเติบโต ข้อมูลของกัมพูชาปี 2560 ไตรมาสแรกนักท่องเที่ยวต่างประเทศมาเที่ยวชายทะเลอัตราเติบโต 30% มากกว่าไปเสียมเรียบ และทางเวียดนามมีความพร้อมมากสอดคล้องกับเป้าหมายการทำตลาดร่วมกัน 1 Market 3 Destinations ช่วง 3-4 ปี มีการพัฒนาเชื่อมโยงทางบกเส้นทาง R10 เที่ยวจบครบใน 1 วัน และในอนาคตพัฒนาความร่วมมือให้เกิดรถโดยสารประจำทาง ระหว่างไทย-กัมพูชา เส้นทาง อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ไปยังสีหนุวิลล์ กัมพูชา ปัจจุบันมีปัญหาเรื่องเส้นทางชำรุดและปริมาณรถยนต์มาก เมื่อมีเส้นทางท่องเที่ยวทางทะเลจึงเป็นโอกาสพัฒนาเชื่อมเมืองชายทะเลด้านใต้ของอินโดจีน ตราด-เกาะกง-สีหนุวิลล์-กัมปอต-เกียนยาง จะทำให้เกิดการค้า การลงทุนเพิ่มมากขึ้น จึงขอให้กัมพูชาอำนวยความสะดวกให้นักลงทุน นักธุรกิจไทยเข้าไปดำเนินการ”

ดันสัมปทานรถ-เรือสาธารณะ

ด้าน นางสาวจารุวรรณ จินตกานนท์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดตราด กล่าวเพิ่มเติมว่า การพัฒนาท่าเทียบเรือคลองใหญ่แบบ OSS สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ทั้งเส้นทางบก สาย R10 และเส้นทางเดินเรือ เมื่อมีรถโดยสารสาธารณะระหว่างเกาะกง-สีหนุวิลล์ (ไทย-กัมพูชา) และเรือโดยสารระหว่างประเทศ ทำให้นักท่องเที่ยวสะดวกที่จะเดินทางต่อไปตามเกาะต่าง ๆ ในจังหวัดตราดด้วยเวลาเพียง 45-60 นาที ประหยัดค่าใช้จ่ายไม่ต้องเช่า-เหมา

“การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยต้องใช้ระยะเวลาในการวางแผนการตลาดและการพัฒนาอาจจะ 3-5 ปี เพื่อให้เป็นประตูสู่ประเทศเพื่อนบ้านหรือเป็นฮับ โดยมีเป้าหมายให้นักท่องเที่ยวได้เข้าถึงการบริการอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียม เพื่อกระจายรายได้ให้ชุมชน ไม่มีการผูกขาด เรือ รถยนต์โดยสารต้องเป็นการเปิดสัมปทานรายใหญ่ และราคาต้องไม่เอาเปรียบนักท่องเที่ยว จากเดิมนักท่องเที่ยวต้องเช่าเหมารถจากสีหนุวิลล์เที่ยวละ 3,200 บาท และเหมาเรืออีก 10,000 บาท ต่อไปจะใช้บริการสาธารณะในราคาประหยัดกว่า คาดว่าในระยะสั้น ๆ การพัฒนาท่าเทียบเรือคลองใหญ่เพื่อใช้เป็นโดเมสติกไลน์มีความเป็นไปได้”

กัมพูชาดันท่องเที่ยวโต

ทางด้าน นายทอง รัฐศักดิ์ (Mr.THONG RATHASAK) อธิบดีกระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชา กล่าวว่า กัมพูชามีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวปี 2561 มีจำนวนนักท่องเที่ยว 10.3 ล้านคน มีรายได้ 6.2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ โดยนักท่องเที่ยวอันดับ 1 เป็นจีน 2.2 ล้านคน รองลงมาเป็นยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลี ส่วนไทย 2.3 แสนคน ปี 2562 คาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้น 6.6 ล้านล้านเหรียญสหรัฐและปี 2563 เพิ่มเป็นจำนวน 7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ จำนวนนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้น 13 ล้านคน การเปิดเส้นทางเดินเรือจะช่วยทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ในเส้นทางการเชื่อมโยงจากสีหนุวิลล์-คลองใหญ่

ปี 2562 ท่าเรือท่องเที่ยวใหม่ที่เมืองกัมปอตจะอยู่ในเส้นทางเชื่อมโยงอีกแห่งหนึ่งและจะขอให้บริษัทเดินเรือท่องเที่ยวเป็นที่ปรึกษาให้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ส่วนด้านการลงทุน ผู้เข้าไปลงทุนต้องเป็นนิติบุคคลที่เป็นชาวกัมพูชาและต่างประเทศ อัตราส่วน 51 : 49 สิทธิประโยชน์แต่ละโครงการมีความแตกต่างกันสามารถติดต่อกับสภาพัฒนาประเทศกัมพูชา (Council for Development of Cambodia : CDC) และกระทรวงการคลังและการเงินแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ปัจจุบันการลงทุนด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว 60% เป็นญี่ปุ่น เกาหลี ไทยอยู่ลำดับที่ 5 ทั้งนี้ ช่วง 2 -3 ปีที่ผ่านมา จะเห็นได้ชัดเจนว่าอัตราการลงทุนในกัมพูชาเพิ่มขึ้น