ล็อบบี้คณะกรรมการลุ่มน้ำวังโตนด MOU ผันน้ำจากจันทบุรีไประยอง อุ้ม 3 จังหวัด EEC

ล็อบบี้คณะกรรมการลุ่มน้ำวังโตนดลงนาม MOU ดึงน้ำจากอ่างเก็บน้ำคลองประแกด จ.จันทบุรีผันไปลงอ่างเก็บน้ำประแสร์ อุ้ม 3 จังหวัด EEC

ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สนทช.) กล่าวภายหลังลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในภาคตะวันออก และร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) เรื่องการแบ่งปันน้ำจากจ.จันทบุรี มาให้ จ.ระยองที่ศาลากลาง จ.จันทบุรี ว่าคาดการณ์ปริมาณฝนเดือน ม.ค.-มิ.ย.63 อาจมีปริมาณน้อย และมาล่าช้ากว่าปกติ ทำให้ทุกภาคส่วนต้องเตรียมรับสถานการณ์ภัยแล้ง โดยเฉพาะจังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง เป็นพื้นที่สำคัญมีความต้องการใช้น้ำ

จึงร่วมประชุมกับกรมชลประทาน คณะกรรมการลุ่มน้ำ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการนำน้ำจากอ่างเก็บน้ำคลองประแกด จ.จันทบุรี ที่มีอยู่ 49.62 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งมีน้ำเพียงพอใช้ประโยชน์ถึงปลายเดือน พ.ค.63 ให้แบ่งปันผันน้ำมาลงอ่างเก็บน้ำประแสร์ จ.ระยอง เพื่อเป็นน้ำต้นทุนช่วยเหลือพื้นที่ 3 จังหวัด ได้ตลอดฤดูแล้งนี้ เนื่องจากคาดว่าในเดือน เม.ย.นี้ อ่างเก็บน้ำประแสร์จะเหลือต่ำกว่าปริมาณน้ำเก็บกักต่ำสุด (Dead Storage) และไม่สามารถหาน้ำจากแหล่งอื่นมาเพิ่มได้อีก

ผศ.เจริญ ปิยารมย์ ประธานลุ่มแม่น้ำวังโตนด จ.จันทบุรี เปิดเผยว่าข้อตกลงร่วมกัน (MOU) ระหว่างกรมชลประทานกับคณะกรรมการลุ่มน้ำสาขาแม่น้ำวังโตนด เพื่อช่วยเหลือพื้นที่ EEC ใช้ระบบสูบน้ำสถานีสูบน้ำคลองวังโตนด-อ่างเก็บน้ำประแสร์เฉพาะกิจ ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 ปริมาณ 10 ล้านลูกบาศก์เมตรเป็นการแบ่งปันทรัพยากรน้ำร่วมกัน โดยไม่มีผลกระทบต่อการใช้น้ำพื้นที่ลุ่มน้ำสาขาวังโตนด หากเกิดผลกระทบจะหยุดผันน้ำทันทีน่าจะช่วยเหลือกันได้ เพราะปี 2562 อ่างเก็บน้ำประแกดเก็บน้ำได้ 44 ล้าน ลบ.ม. จันทบุรีใช้น้ำ 20 ล้าน ลบ.ม. ยังมีน้ำก้นอ่างเหลือ 24 ล้าน ลบ.ม. ปี 2563 เก็บกักน้ำได้ 60.2 ล้าน ลบ.ม. ถ้าใช้เต็มที่ 35 ล้าน.ลบ.ม. ยังเหลือน้ำใช้ และปริมาณน้ำเก็บกักต่ำสุด (Dead Storage) 25 ล้าน ลบ.ม. จึงสามารถเอาไปช่วยอ่างเก็บน้ำประแสร์ได้ ถึงอย่างไรจันทบุรีไม่มีความพร้อมเรื่องการกระจายน้ำในพื้นที่ ขณะนี้หากเกิดภาวะแห้งแล้งจันทบุรียังไม่สามารถใช้น้ำอ่างประแกดในระบบกระจายน้ำตามท่อ ที่ปล่อยมาตามลุ่มแม่น้ำวังโตนดได้ เพราะสถานีสูบน้ำ ฝายระบบที่กระจายน้ำยังไม่มี นอกจากใช้รถบรรทุกไปดูดน้ำ

ทางด้าน นายสุชาติ เจริญศรี รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมชลประทานจะเร่งสร้างอ่างเก็บน้ำให้ครบ 4 อ่าง อ่างเก็บน้ำคลองพะวาใหญ่ อ่างเก็บน้ำคลองหางแมวจะเสร็จปี 2564 ส่วนอ่างเก็บน้ำคลองวังโตนดที่ยังไม่ผ่าน EHIA และยังติดขั้นตอนบางอย่าง รมต.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เร่งรัดกระบวนการให้ผ่านทุกขั้นตอน พร้อมที่จะสร้างในปีงบประมาณ 2564 รวมทั้งสถานีสูบน้ำระบบการกระจายน้ำก่อนที่จันทบุรีจะส่งน้ำไปช่วยที่อื่น

ผู้สื่อข่าวรายงานการประชุมในวันที่ 4 ก.พ. ที่ศาลากลาง จ.จันทบุรี ได้มีเชิญหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนมาเข้าร่วมประชุมด้วย อาทิ ว่าที่ร้อยตรีพิรุณ เหมะรักษ์, นายมาโนชย์ ประทุมพิทักษ์ รองประธานหอการค้าจังหวัดระยอง, นายบุญยืน เลาหวิทยะรัตน์ เลขาธิการหอการค้าฯ, นายสุริยน วันเพ็ญ รองประธานสภาอุตสาหกรรม จ.ระยอง และนายทวีวัช เอี่ยมิสุวรรณ์ บมจ.ดับบลิวเอช ระยองที่ดินอุตสาหกรรม โดยมีนายวิทูรัช ศรีนาม ผู้ว่าราชการ จ.จันทบุรี เป็นประธานในที่ประชุม

ทั้งนี้ก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่วันทางคณะกรรมการลุ่มน้ำวังโตนดยืนยันหนักแน่นว่า ถ้ากรมชลประทานไม่ดำเนินการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำอีก 3 แห่ง ตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2552 ให้ครบ 3 อ่าง คืออ่างเก็บน้ำคลองพะวาใหญ่ อ่างเก็บน้ำคลองหางแมว และอ่างเก็บน้ำคลองวังโตนด ทางลุ่มน้ำวังโตนดไม่สามารถดำเนินการผันน้ำไปอ่างเก็บน้ำประแสร์ จ.ระยองได้