ปิดด่านชายแดนวูบหลายหมื่นล้าน หลายจังหวัดร้องเปิดด่านเพิ่ม

แฟ้มภาพ

การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างหนักในเมียนมา มาเลเซีย กัมพูชา สปป.ลาว ทำให้รัฐบาลมีมาตรการคุมเข้มด่านชายแดนทุกด้าน

หลายจังหวัดที่มีด่านหลายแห่ง ทางจังหวัดผ่อนปรนให้เปิดได้เฉพาะบางด่านที่มีความพร้อมในการควบคุมมาตรการโควิด อย่างน้อย 1-3 แห่งให้สามารถนำเข้า-ส่งออกสินค้าได้ แต่ให้มีการขนถ่ายสินค้ากันบริเวณพื้นที่หน้าด่านที่กำหนดไว้เท่านั้น แต่ห้ามการเข้า-ออกของบุคคลโดยเด็ดขาด

มาตรการดังกล่าวที่ต่อเนื่องมาหลายเดือน ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการส่งออกและนำเข้าสินค้าผ่านแดน และสินค้าชายแดนมากบ้างน้อยบ้างแตกต่างกันไป

เชียงรายจี้เปิดท่าเรือน้ำโขง

นายอนุรัตน์ อินทร ประธานหอการค้า จ.เชียงราย เปิดเผยว่า การปิดด่านพรมแดนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ปัจจุบันจังหวัดเชียงรายมีการเปิดจุดผ่านแดนเพียง 3 แห่ง

แต่ถือเป็นการค้าขายภายใต้ภาวะอันจำกัด ได้แก่ 1.จุดผ่านแดนถาวรไทย-เมียนมา ตรงสะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 อ.แม่สาย กับ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา 2.ท่าเรือแม่น้ำโขง อ.เชียงแสน แห่งที่ 2 จุดผ่อนปรนบางจุดที่ติดแม่น้ำโขง และ 3.จุดผ่านแดนถาวรด่านพรมแดนไทย-สปป.ลาว

ตรงสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 อ.เชียงแสน กับแขวงบ่อแก้ว สปป.ลาวนั้น ซึ่งถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาเพราะเหลือเมืองท่าเพียงไม่กี่แห่งที่เปิดการค้าได้ตามปกติ ภาพรวมคาดว่ามูลค่าการค้าชายแดนด้าน จ.เชียงราย ตลอดทั้งปี 2563 จะลดลงกว่าปีที่ผ่านมาประมาณ 30%

สำหรับมูลค่าการค้าตั้งแต่เดือน ม.ค.-ก.ย. 2563 บริเวณด่านการค้าไทย-สปป.ลาว อ.เชียงแสน พบว่า มีมูลค่ามากกว่าด่านอื่น โดยมีมูลค่ารวม 19,985,703,152.28 บาท แยกเป็น การส่งออก มูลค่า 14,367,941,470.92 บาท และนำเข้า มูลค่า 5,617,761,681.36 บาท ดังนั้นรัฐบาลควรได้หารือกับทางการจีนให้เปิดท่าเรือกวนเหล่ย

ซึ่งเป็นเมืองท่าหน้าด่านของจีนในแม่น้ำโขง หลังจากถูกปิดมานานหลายเดือน ส่วนด่านพรมแดน อ.แม่สาย มีมูลค่าการค้ารวม 9,655,144,938.95 บาท แยกเป็น การส่งออก มูลค่า 8,280,223,326.79 บาท และนำเข้า มูลค่า 1,374,921,612.16 บาท

สำหรับการค้าผ่านท่าเรือ อ.เชียงแสน พบว่ามีมูลค่าการค้ารวมเพียง 5,239,702,398.09 บาท แยกเป็น การส่งออก มูลค่า 4,965,846,747.14 บาท และนำเข้า มูลค่า 273,855,650.95 บาท

ขณะที่ปัจจุบันทางการจีนเริ่มผ่อนปรนการค้าที่ด่านพรมแดน สปป.ลาว-จีน บนถนนอาร์สามเอ ที่เมืองบ่อเต็น แขวงหลวงน้ำทา-เมืองโมฮาน มณฑลยูนนาน แม้จะมีการเปลี่ยนคนขับและหัวลากในบางช่วง แต่ความต้องการบริโภคผลไม้ไทยยังมีสูง ส่วนชายแดน อ.แม่สาย เป็นการค้าเฉพาะกับรัฐฉาน ประเทศเมียนมาทำให้การค้าอยู่ในวงจำกัด

ตราดเร่งเปิดจุดผ่านแดน 2 แห่ง

แหล่งข่าวจากจังหวัดตราดเปิดเผยว่า จังหวัดตราดมีด่านชายแดนไทย-กัมพูชา 3 ด่าน ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม 2563 เปิดให้มีการนำเข้า-ส่งออกสินค้าเฉพาะจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ บ้านจามเยี่ยม เกาะกง ส่วนอีก 2 ด่านไม่เปิด คือ จุดผ่อนปรนทางการค้าเนิน 400 บ้านมะม่วง อ.บ่อไร่ -อ.สำรูด จ.พระตะบอง และช่องทางธรรมชาติบ้านท่าเส้น-ทมอดา จ.โพธิสัตว์

ทั้งนี้ การปิดชายแดนตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม 2563 มูลค่าการค้าชายแดนลดลงประมาณ 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

นายวิมาน สิงหพันธุ์ อดีตอุปนายกสมาคมผู้ประกอบการค้าชายแดน จ.ตราด เปิดเผยว่า รัฐบาลควรเปิดด่านชายแดน 2 จุด คือ จุดผ่อนปรนทางการค้าเนิน 400 บ้านมะม่วง อ.บ่อไร่-อ.สำรูด จ.พระตะบอง และช่องทางธรรมชาติบ้านท่าเส้น-ทมอดา จ.โพธิสัตว์

เพื่อให้เกิดกระแสเงินหมุนเวียนและไม่ให้เสียโอกาสทางการค้า เพราะมีการลงทุนก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ในจังหวัดพระตะบอง และชายแดนด้านบ้านทมอดา สินค้าวัสดุก่อสร้าง อุปโภคบริโภค เป็นที่ต้องการของกัมพูชา

“ทุกวันนี้ต้องไปนำสินค้าเข้าทางบ้านผักกาด บ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ติดกับ จ.ไพลิน มีระยะทางไกลกว่า 50-60 กิโลเมตร ทั้งนี้ ฝ่ายกัมพูชาเตรียมพื้นที่ขนส่งสินค้าบริเวณชายแดนไว้แล้ว แต่ต้องรอคำสั่งจังหวัดตราดจึงดำเนินการได้”

นายจตุพัฒน์ ฤกษ์สหกุล ประธานกรรมการ YSF หอการค้า จ.ตราด กล่าวว่า ควรมีการเร่งประสานงานเพื่อเปิดด่านทั้ง 2 แห่งให้มีการซื้อขายสินค้าเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะการท่องเที่ยวซบเซา ผลไม้หมดฤดูกาล

ทางด้าน นายวุฒิพงศ์ รัตนมณฑ์ ประธานกรรมการหอการค้าจังหวัดตราด กล่าวเพิ่มเติมว่า ควรผลักดันให้เปิดด่านทั้ง 2 ด่าน เพื่อการค้าและการนำเข้าแรงงานมาใช้ในภาคเกษตรกรรม ซึ่งการปิดด่านทำไม่ได้อยู่แล้ว เพราะเศรษฐกิจไทยต้องพึ่งเพื่อนบ้าน แต่ต้องมีการควบคุมกำหนดมาตรการให้ชัดเจน

จากข้อมูลด่านศุลกากรคลองใหญ่ จ.ตราด ด้านจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด มูลค่าการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา มูลค่าการค้าเดือนมกราคม-กันยายน 2563 มีมูลค่ารวม 23,237.77 ล้านบาท ลดลงจากปี 2562 ประมาณ 3,416.23 ล้านบาท หรือ 12.82% มูลค่าส่งออก 20,648.17 ล้านบาท ลดลงจากปี 2562 ประมาณ 2,022.28 ล้านบาท หรือ 92% มูลค่านำเข้า 2,589.60 ล้านบาท ลดลงจากปี 2562 ประมาณ 1,393.95 ล้านบาท หรือ 34.99%

ระนองค้าชายแดนลด 40%

นายธีระพล ชลิศราพงศ์ ประธานหอการค้าจังหวัดระนอง เปิดเผยว่า ด่านระนองการค้าขายขนถ่ายสินค้านำเข้า-ส่งออกข้ามได้ตามปกติ ยกเว้นแต่คนไม่สามารถข้ามแดนได้ ส่งผลกระทบในธุรกิจที่ต้องใช้คนเจรจาซื้อขายสินค้าเล็กน้อย ทำให้มูลค่าการค้าในปี 2563 ลดลงประมาณ 30-40% หรือคาดว่าประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท

“ธุรกิจส่วนตัวผมทำธุรกิจส่งออกปูนซีเมนต์ได้รับผลกระทบลดลงประมาณ 10-20% ตอนนี้ทางด้านชายแดนระนองมีการคุมเข้มเรื่องการป้องกันโรคโควิด-19 เป็นอย่างมาก คนเมียนมาที่มาส่งสินค้าต้องอยู่แต่ในเรือเท่านั้น ไม่สามารถขึ้นมาบนฝั่งได้ แต่หากโควิด-19 ระบาดมากกว่านี้คงต้องดูถึงการควบคุมสินค้าเลย

เราต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของคนเป็นอันดับแรก เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย เพราะหากไม่ควบคุมให้ดีอาจจะเสียหายด้านการท่องเที่ยวตามมาด้วย และตอนนี้ระนองสามารถรับนักท่องเที่ยวในกลุ่มคนไทยได้อยู่”