ตรวจแนวรบท่องเที่ยว “ชลบุรี-กระบี่-ภูเก็ต” ผวายอด ATK เฉียดพันคน/วัน

ตรวจแนวรบจังหวัดท่องเที่ยว “ชลบุรี-กระบี่-ภูเก็ต” ผวายอดติดเชื้อ ATK เฉียดพันคน/วัน

วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2565 ท่ามกลางตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุด วันนี้ตัวเลขพุ่งขึ้นไป 16,462 ราย มาจากต่างประเทศ 136 ราย เสียชีวิต 27 ราย และผลตรวจ ATK พบติดเชื้อเข้าข่ายเพิ่ม 11,816 ราย

หากพิจารณาในรายละเอียด มีข้อน่าสังเกตว่า จังหวัดนำร่องพื้นที่ท่องเที่ยวที่รัฐบาลมีนโยบายเปิดลงทะเบียน Thailand Pass เพื่อเข้าประเทศแบบ Test and Go ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 และจังหวัดพื้นที่แซนด์บอกซ์ เกือบทั้งหมดพบผู้ติดเชื้อด้วยการตรวจ ATK เพิ่มขึ้นอย่างมีนัย

ภูเก็ต ติดเชื้อพุ่งเฉียดพันคน/วัน

เริ่มจากจังหวัดภูเก็ต จังหวัดนำร่องแซนด์บอกซ์ พบการติดเชื้อที่มีแนวโน้มสูงขึ้นของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาจังหวัดภูเก็ต ตามมาตรการ Phuket Sandbox และ Test & Go ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลายปี 2564

โดยสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 11 กรมควบคุมโรค รายงานข้อมูล ณ วันที่ 30 ม.ค.65 ข้อมูล 1 พ.ย.64-1ก.พ. 65 ตรวจพบเชื้อนักท่องเที่ยว Phuket Sandbox และ Test & Go จังหวัดภูเก็ต สะสม 4,369 ราย การติดเชื้อของนักท่องเที่ยวข้อมูล 1 ม.ค.- 30 ม.ค. 65 พบว่า 10 อันดับอัตราการติดเชื้อจำแนกตามประเทศต้นทาง (Lab DAY 0) สะสม 1,481 คน

หากพิจารณาช่วง 15 วันที่ผ่านมานับตั้งแต่เปิดแบบ Test and Go รอบที่ 2 วันที่ 1-15 กุมภาพันธ์ 2565จังหวัดภูเก็ตมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่จากวันที่ 1 ก.พ. 65 อยู่ที่ 387 ราย หลังจากนั้นตัวเลขปรับเพิ่มขึ้นทุกวัน วันที่ 2 ก.พ. 65 เพิ่มเป็น 395 ราย วันที่ 3 ก.พ. 65 เพิ่มเป็น 379 ราย วันที่ 4 ก.พ. เพิ่มเป็น 407 ราย หลังจากนั้นผู้ติดเชื้อทะยานขึ้นจนถึงวันที่ 15 ก.พ. 65 เป็น 496 ราย รวมผู้ติดเชื้อรายใหม่ 15 วัน จำนวน 6,504 ราย

มีผู้ติดเชื้อในระบบแซนด์บอกซ์ รวม 1,851 ราย ผู้ติดเชื้อในระบบ แบบ Test and Go รวม 187 ราย ทั้งนี้จังหวัดภูเก็ตไม่มีการเปิดเผยตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ตรวจด้วยระบบ ATK ซึ่งแหล่งข่าววงในมีการพูดกันว่า ตัวเลขการติดเชื้อในภูเก็ต หากรวมตัวเลข ATK อาจจะทะลุระดับเฉียด 1,000 คนต่อวัน

กระบี่ ATK ทะลักกว่า 500 คน/วัน

จังหวัดกระบี่ ถือเป็นพื้นที่เชื่อมโยงระหว่างพื้นที่แซนด์บอกซ์ที่รับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ปรากฎว่านับตั้งแต่วันที่ 1-15 ก.พ. 65 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกระบี่ รายงานสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่มขึ้นทุกวัน

เริ่มจากวันที่ 1 ก.พ. 65 พบผู้ติดเชื้อตรวจ RT-PCR เพียง 87 ราย เพิ่มขึ้นมาระดับ 101 รายในวันที่ 14 ก.พ. 65 และวันที่ 15 ก.พ. 65 เพิ่มเป็น 106 ราย รวมแล้ว 15 วันพบผู้ติดเชื้อ 1,211 ราย ส่วนตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ตรวจด้วย ATK พบผลบวกรวม 15 วัน ทะลุ 4,516 ราย จากวันที่ 1 ก.พ. 65 พบเพียง 169 ราย หลังจากนั้นเพิ่มขึ้นทุกวันมาแตะระดับ 511 รายเมื่อวันที่ 14 ก.พ. 65 และวันที่ 15 ก.พ.เพิ่มเป็น 525 ราย

ดังนั้น หากรวมผลตรวจ RT-PCR และการตรวจด้วย ATK จะเห็นตัวเลขการติดเชื้อโควิดพุ่งทะลักวันละ 600 กว่าคนต่อวัน

ชลบุรี ATK ทะลุ 600 คน/วัน

จังหวัดชลบุรี ถือเป็นหนึ่งในจังหวัดเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งมีโรงงานอุตสาหกรรมจำนวนมาก และมีปัญหาการติดโควิดของพนักงานในโรงงานอยู่แล้วส่วนหนึ่ง เมื่อ ศบค.ได้มีมติให้เปิดเป็นพื้นที่แซนด์บอกซ์ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 เฉพาะพื้นที่ อ.บางละมุง เมืองพัทยา อ.ศรีราชา เกาะสีชัง สัตหีบ เฉพาะ ต.นาจอมเทียน และบางเสร่ ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งสูงขึ้นไม่หยุด

หากพิจารณาตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 65 พบผู้ติดเชื้อโควิดที่ตรวจด้วยวิธี RT-PCR จำนวน 391 ราย หลังจากนั้นตัวเลขทะยานเพิ่มขึ้นทุกวันมาแตะระดับ 548 รายในวันที่ 5 ก.พ. 65 และเพิ่มเป็น 610 รายในวันที่ 8 ก.พ. 65 และเพิ่มเป็น 754 รายในวันที่ 10 ก.พ. 65

และวันที่ 16 ก.พ. 65 เพิ่มเป็น 805 ราย รวมตัวเลขวันที่ 1-15 ก.พ. 65 จังหวัดชลบุรีพบผู้ติดเชื้อโควิดที่ตรวจด้วยวิธี RT-PCR จำนวน 9,544 ราย ขณะที่ตัวเลข ATK เฉลี่ยพบผลบวกจากกตรวจ ATK วันละ 400-600 ก่าราย รวม 15 วันพบผลบวกด้วยการตรวจ ATK รวม 6,139 ราย

ดังนั้นหากรวมผลตรวจ RT-PCR และการตรวจด้วย ATK จะเห็นตัวเลขการติดเชื้อโควิดพุ่งทะลักกว่า 1 พันคนต่อวัน โดยเฉพาะตัวเลขวันที่ 16 ก.พ.65 ผลตรวจ RT-PCR อยู่ที่ 805 ราย ผลตรวจ ATK อยู่ที่ 677 ราย รวมเป็นผู้ติดโควิดรายใหม่ 1,482 ราย

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าหลายจังหวัดอาจจะยังไม่เปิดเผยตัวเลขการติดเชื้อโควิด-19 ที่แท้จริงออกมา เพื่อไม่ให้กระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยว จึงต้องจับตาดูต่อไปรัฐบาลจะหาทางออกอย่างไร หากตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งสูงขึ้น รายได้ที่หวังจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ เมื่อเทียบกับงบประมาณอันจำกัดที่ต้องใส่ลงไปให้กับระบบสาธารณสุข….รายได้จะคุ้มรายจ่ายและสุขภาพของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจะคุ้มค่ากันหรือไม่ ?