เดนทิสเต้ ต่อสัญญา ลิซ่า BLACKPINK ดันยอดขายโต 10%

เดนทิสเต้ ลิซ่า BLACKPINK

เดนทิสเต้ ประกาศต่อสัญญา “ลิซ่า” BLACKPINK ตั้งเป้าผลักดันยอดขายโต 10% พร้อมขยายช่องทางขายในเว็บไซต์ Amazon ของอเมริกา หวังเปิดตลาดใหม่

วันที่ 15 กันยายน 2565 ดร.แสงสุข พิทยานุกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยาม เฮลท์ กรุ๊ป จำกัด ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สำหรับดูแลช่องปาก “เดนทิสเต้” เปิดเผยว่า หากพูดถึงแบรนด์เดนทิสเต้ นับเป็นที่รู้จักกันดีในตลาดคอนซูเมอร์ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยในปีที่ผ่านมาได้ ลิซ่า BLACKPINK มาเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ ซึ่งทำให้ยอดขายเติบโตราว 15% แม้อยู่ในช่วงสถานการณ์การระบาดของโควิด-19

ล่าสุด บริษัทได้มีการต่อสัญญากับลิซ่า ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากมีหลายแบรนด์ที่ติดต่อลิซ่าให้เป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ แต่มีไม่ถึง 10 แบรนด์ ที่ลิซ่าเลือก ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ เดนทิสเต้ อีกทั้งลิซ่าใช้ผลิตภัณฑ์ของ เดนทิสเต้อยู่แล้ว และเคยร่วมงานกันในแคมเปญก่อนหน้า จึงทำให้ทุกอย่างออกมาลงตัว

สำหรับกลยุทธ์การทำตลาดต่อจากนี้ เดนทิสเต้ ตั้งเป้ายอดขายเติบโตเพิ่มขึ้นอีก 10% โดยหลัก ๆ จะมาจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ยาสีฟันสูตรใหม่ที่ Hi-end ในปี 2566 ควบคู่กับการทำการตลาด พร้อมขยายช่องทางการสั่งซื้อสินค้าในเว็บไซต์ Amazon ของอเมริกา ถือเป็นการเปิดตลาดใหม่ No.1 Premium Niche in America รวมถึงแพลนตั้งสำนักงานที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

นอกจากเรื่องยอดขาย เดนทิสเต้ยังสนับสนุนให้เด็กไทยประสบความสำเร็จในเวทีระดับโลก ด้วยการเตรียมจัดแคมเปญในเดือนพฤศจิกายน เป็นกิจกรรมการประกวด ร้อง เต้น เล่นดนตรี เพื่อให้กับเด็กไทย ที่มีความฝันเหมือนลิซ่าได้มาโชว์ความสามารถ โดยผู้ชนะในแคมเปญดังกล่าว จะได้พบกับ ลิซ่า BLACKPINK ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2566 และแคมเปญนี้ได้ไปอยู่ในภาพยนตร์โฆษณาของเดนทิสเต้ที่เพิ่งเปิดตัวไปก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันเดนทิสเต้มีส่วนแบ่งการตลาด 7% เนื่องจากเป็นแบรนด์ที่ Hi-end ในขณะที่ส่วนแบ่งในตลาด Hi-end อยู่ที่ 85%