เปิดประวัติ หาดทิพย์ ยักษ์เครื่องดื่มแห่งภาคใต้

หาดทิพย์ เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำอัดลมรายใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้ของไทย ครองพื้นที่ทั้ง 14 จังหวัด มีไลน์อัพสินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้า “โคคา-โคลา” “แฟนต้า” “สไปรท์” และอื่น ๆ

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 ชื่อ หาดทิพย์ ยักษ์เครื่องดื่มแห่งภาคใต้กลับมาอยู่ในความสนใจของทั้งนักลงทุนและคนทั่วไปอีกครั้ง หลังการประกาศเลิกกิจการ 3 บริษัทย่อยที่ทำธุรกิจผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค และอาหาร เนื่องจากทั้ง 3 บริษัทขาดทุนต่อเนื่องและภาวะการดำเนินงานไม่เอื้ออำนวย

โดย หาดทิพย์ เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำอัดลมรายใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้ของไทย ครองพื้นที่ทั้ง 14 จังหวัด คือ กระบี่ ชุมพร นครศรีธรรมราช พังงา ภูเก็ต ระนอง สุราษฎร์ธานี ตรัง นราธิวาส ปัตตานี พัทลุง ยะลา สตูลและสงขลา

มีอาวุธสำคัญ คือ ไลน์อัพสินค้าที่ได้ลิขสิทธิ์จากโคคา-โคลา คัมปะนี (ประเทศสหรัฐอเมริกา) ให้เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำอัดลมภายใต้เครื่องหมายการค้า “โคคา-โคลา” “แฟนต้า” “สไปรท์” และผลิตภัณฑ์อื่นที่โคคา-โคลา คัมปะนี เป็นเจ้าของ ได้แก่ น้ำผลไม้ มินิท เมด และน้ำดื่มน้ำทิพย์ นอกจากนี้ยังมีการซื้อสินค้าจากบริษัทคู่ค้ารายหนึ่งในกรุงเทพฯ มาจัดจำหน่ายด้วย

ทำให้ปัจจุบัน หาดทิพย์ ผลิต จำหน่ายและกระจายสินค้าภายใต้แบรนด์ต่าง ๆ มากถึง 11 แบรนด์ คือ โคคา-โคลา, โค้ก ไลท์, โค้ก ซีโร่, แฟนต้า, สไปรท์, ชเวปส์, รูทเบียร์ เอ แอนด์ดับบลิว, มินิท เมด สแปลช, มินิท เมด พัลพิ, มินิทเมด ไวตา คิดส์ และน้ำทิพย์ โดยมีโรงงาน 1 แห่งที่อำเภอพุนพิน สุราษฎร์ธานี และศูนย์กระจายสินค้า 18 แห่ง กระจายทั่วภาคใต้

ไลน์อัพสินค้าแบรนด์ดังและขอบข่ายการกระจายสินค้านี้สร้างรายได้มากกว่า 5 พันล้านบาท โดยตามรายงานผลประกอบการ รายได้ตั้งแต่ปี 2560-2562 เติบโตต่อเนื่องที่ 5,670.99 ล้านบาท 5,704.01 ล้านบาท และ 6,767.85 ล้านบาทตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม หาดทิพย์ ทำหน้าที่เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ โคคา-โคล่า เท่านั้น ส่วนกิจกรรมการตลาด จะอยู่ในความรับผิดชอบของ กลุ่มธุรกิจโคคา-โคลา ในประเทศไทย ที่ประกอบด้วย บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด, บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด

ทั้งนี้ความเป็นมาของธุรกิจ หาดทิพย์ นั้นต้องย้อนกลับไปเมื่อ 51 ปีก่อน หรือปี 2512 ซึ่งบริษัทก่อตั้งในชื่อเดิมว่า บริษัท นครทิพย์ จำกัด เริ่มผลิตและจัดจำหน่ายใน 3 จังหวัด คือ สงขลา สตูล และยะลา ด้วยโรงงานแห่งแรกในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

ต่อมาได้รับสิทธิ์เพิ่มอีก 11 จังหวัดในปี 2521 พร้อมร่วมมือกับบริษัท ไทยธนา จำกัด ก่อตั้ง หาดทิพย์ จำกัดขึ้น และเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อ 22 ธ.ค. 2531 รวมถึงแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนในปี 2537

โดยปัจจุบันผู้ถือหุ้นใหญ่ของหาดทิพย์ ประกอบด้วย

GUTSCHE FAMILY INVESTMENTS PROPRIETARY LIMITED 24.40%

1. นางปริยา จีระพันธุ์ 15.16%
2. น.ส.พัณณภา รัตตกุล 9.91%
3. นายพัชร รัตตกุล 6.99%
4. นายหฤษฎ์ จีระพันธุ์ 2.70%
5. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 2.30%
6. น.ส.ชัญญา จีระพันธุ์ 2.22%
7. ด.ช.ภคิน รัตตกุล 2.08%
8. น.ส.ฟ้า รัตตกุล 2.08%
9. นายพิชากร รัตตกุล 2.08%

ซึ่ง GUTSCHE FAMILY INVESTMENTS PROPRIETARY LIMITED เป็นกองทุนที่ได้รับโอนหุ้น หาดทิพย์มาจาก Coca-Cola SABCO ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านผลิตภัณฑ์โคคา-โคลาในทวีปแอฟริกาและเอเชีย หลังการปรับโครงสร้างเมื่อปี 2559

ส่วนตระกูล รัตตกุล ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อีกกลุ่มเป็นเครือญาติของร้อยตรีไพโรจน์ รัตตกุล อดีตผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) และผู้บริหารของบริษัท ไทยธนา จำกัด

• หาดทิพย์ แจ้งเลิกกิจการ 3 บริษัทย่อย หลังขาดทุนต่อเนื่อง
• หาดทิพย์ ทุ่มขยายกำลังผลิต รับตลาดฟื้น