ค้าปลีก-ค้าส่ง ระงมยอดแป้ก พิษกำลังซื้อติดหล่ม ทุบ “อีสาน” บักโกรก

ห้างค้าปลีก-ค้าส่ง

ค้าปลีก-ค้าส่ง โอด 3 เดือนแรกยอดขายวืดเป้า อีสานบักโกรกพิษกำลังซื้อติดหล่ม ตัวเลขวูบ 30-40% ขณะที่เมืองท่องเที่ยวรอด ยักษ์คอนซูเมอร์โปรดักต์ “สหพัฒน์” ชี้โค้งแรกยังไม่ดีอย่างที่คิด แต่ก็ไม่แย่ โตแค่ 6% หย่อนกว่าเป้าที่วางไว้ ซัพพลายเออร์ฝุ่นตลบดิ้นผนึกกำลังคู่ค้าเร่งสปีด กระหน่ำโปรฯลดแลกแจกแถม หวังเลือกตั้งหนุนเม็ดเงินสะพัดช่วยกระตุ้นการจับจ่าย

นายมิลินทร์ วีระรัตนโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ตั้งงี่สุน ซูเปอร์สโตร์ ค้าส่งค้าปลีกรายใหญ่ จ.อุดรธานี เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ช่วง 3 เดือนแรกที่ผ่านมา (ม.ค.-มี.ค) ภาพรวมของยอดขายไม่ดี ตัวเลขลดลงไป 30-40% จากตอนแรกที่คาดการณ์ว่าตัวเลขน่าจะดีขึ้น ปัจจัยหลักมาจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและกำลังซื้อผู้บริโภคในภาพรวมที่ยังไม่ฟื้นตัวดีนัก ขณะที่รัฐบาลหยุดการใส่เงินเข้ามาในระบบเพื่อกระตุ้นการจับจ่าย ประกอบกับประชาชนยังมีปัญหาเรื่องหนี้ แม้จะมีรายได้เข้ามาบ้าง แต่ก็ยังต้องนำเงินไปชำระหนี้ รวมถึงปัญหาค่าครองชีพและราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้น ทำให้ผู้บริโภคซื้อเฉพาะสินค้าที่จำเป็นและประหยัด

ค้าปลีกค้าส่งอีสานกุมขมับ

นายมิลินทร์กล่าวว่า เท่าที่ได้คุยกับผู้ประกอบการค้าส่งค้าปลีกหลาย ๆ รายในภาคอีสานก็พบว่าช่วง 2-3 เดือนนี้ ตลาดค่อนข้างฝืด ยอดขายลดลง เดือดร้อนเหมือน ๆ กันทั้งหมด ช่วงที่ขายได้หลัก ๆ จะเป็นช่วงต้นเดือนหลังเงินเดือนออก แต่หลังจากนั้นก็จะซึมยาวไปตลอดทั้งเดือน ตอนนี้สินค้าอะไรที่ขายไม่ได้ ร้านก็ไม่เอาของเข้า หากสินค้าไม่หมดก็จะไม่เติม เช่นเดียวกับร้านค้าปลีกรายย่อย ร้านโชห่วยก็มาซื้อของน้อยลง เพราะขายไม่ได้

“เมื่อยอดขายลดลง สิ่งที่จะกระทบตามมาก็คือ แคชโฟลว์ และเมื่อแคชโฟลว์ลดลงก็ต้องเริ่มวิ่งไปกู้เงินจากแบงก์มาหมุน อีกด้านหนึ่ง เมื่อขายของไม่ได้ แต่เมื่อถึงดีลก็ต้องจ่ายให้เจ้าของสินค้า หากไม่มีเงินก็ต้องไปเจรจาขอยืดดีล กระทบเป็นลูกโซ่ต่อ ๆ กันไป ตอนนี้ผู้ผลิต (ซัพพลายเออร์) ทุกรายต่างก็ต้องใส่เงินเข้ามาเพื่อกระตุ้นตลาด กระตุ้นยอดขายกันเป็นระยะ ๆ ซึ่งต้องยอมรับ 2 ปีที่ผ่านมา การที่รัฐบาลใส่เงินเข้ามาเป็นระยะ ๆ มีส่วนสำคัญที่ช่วยการค้าขายดีและฟื้นตัวขึ้นมาในระดับหนึ่ง ผู้ประกอบการก็พออยู่ได้ แต่รัฐบาลหยุดการใส่เงิน การจับจ่ายก็ซึมลง”

สอดคล้องกับแหล่งข่าวระดับสูงจากวงการค้าปลีกที่ยอมรับว่า ภาพรวมของธุรกิจค้าปลีกในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาไม่ค่อยสดใสนัก โดยเฉพาะในภาคอีสาน เนื่องจากรายได้ประชาชนส่วนใหญ่มาจากการเกษตร รวมทั้งภาระค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น ตอนนี้การค้าขายค่อนข้างเงียบ ต่างกับจังหวัดที่เป็นเมืองท่องเที่ยวที่บรรยากาศการค้าขายอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ และคาดว่าในช่วงไตรมาส 2 นี้ ผู้ประกอบการคอนซูเมอร์โปรดักต์จะต้องเร่งจัดกิจกรรมทางการตลาดมากขึ้น เพื่อรองรับการเลือกตั้งที่คาดว่าจะทำให้มีเม็ดเงินสะพัดเข้ามาในระบบจำนวนหนึ่ง และน่าจะทำให้กำลังซื้อหรือการจับจ่ายกระเตื้องขึ้นมาบ้าง

สหพัฒน์ยอดต่ำกว่าเป้า

นายเวฑิต โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่เปิดเผยว่า โดยส่วนตัวมองว่ากำลังซื้อหรือยอดขายในภาพรวมช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-มี.ค.) ไม่ได้ดีอย่างที่คิด แต่ก็ไม่แย่ หลัก ๆ เกิดจากการเคลื่อนตัวของประชากรในการท่องเที่ยวและมีการจับจ่าย แต่หากกำลังซื้อผู้บริโภคในภาพรวมดี เมื่อบวกกับการเคลื่อนตัวของประชากร ตัวเลขน่าจะดีกว่านี้ ขณะนี้แม้ว่าภาพรวมของเศรษฐกิจจะค่อย ๆ ฟื้นตัวขึ้น จากปัจจัยของสถานการณ์โควิด-19 ที่คลี่คลาย โควิด-19 ตอนนี้แม้จะไม่หมดไป แต่ก็ไม่ร้ายแรงแล้ว แต่การส่งออกไม่ได้ดีอย่างที่คิด ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบเพราะตอนนี้มีเพียงอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่เป็นตัวกระตุ้นเพียงอย่างเดียว

3 เดือนที่ผ่านมา ยอดขายของสหพัฒน์เติบโต 6% เท่านั้นเอง จากเป้าที่ตั้งไว้มากกว่า 10% และมีสิ่งหนึ่งที่เห็นว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนก็คือการที่ผู้บริโภคไปซื้อสินค้าในห้างมากกว่าการซื้อจากร้านปกติ หรือร้านค้าใกล้บ้านในชุมชน ซึ่งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา การค้าขายของร้านค้าใกล้บ้านหรือร้านค้าในชุมชนมีตัวเลขที่ดี เพราะคนกลัวโควิด-19 ไม่อยากเดินทางไกลและหันมาซื้อของจากร้านค้าใกล้ ๆ บ้าน

แต่ตอนนี้คนเริ่มไม่กลัวโควิด-19 และเริ่มกลับไปที่ห้าง ซื้อของในห้าง ตัวเลขในห้างก็ดีขึ้น ในทางกลับกัน ตัวเลขของร้านค้าในชุมชนก็ลดลง อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวยังหวังว่าในช่วงไตรมาส 2 ที่จะมีการเลือกตั้งจะเป็นปัจจัยที่ทำให้มีเม็ดเงินสะพัดเข้ามาในระบบจำนวนหนึ่ง จะช่วยกระตุ้นการจับจ่ายและกำลังซื้อได้ระดับหนึ่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อต้นเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา นายฉัตรชัย ตวงรัตนพันธ์ รองประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย เปิดเผยถึงผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ค้าปลีกทั่วประเทศ (Retail Sentiment Index-RSI) ของผู้ประกอบการค้าปลีก ประจำไตรมาส 1/2566 ที่ทำร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่า ลดลง 13.5 จุด แม้จะมีปัจจัยบวกหลากหลาย อาทิ วันหยุดในช่วงเทศกาลปีใหม่-ตรุษจีน มาตรการกระตุ้นจากภาครัฐ “ช้อปดีมีคืน” รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น แต่ยังไม่สามารถส่งแรงหนุนได้มากพอ

โดยดัชนียอดขายสาขาเดิม, ยอดใช้จ่ายต่อครั้ง และความถี่ในการจับจ่าย เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา ต่างพากันปรับตัวลดลง สะท้อนถึงผู้บริโภคฐานราก กำลังซื้อยังอ่อนแอ รวมทั้งภาระค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นทั้งค่าสาธารณูปโภค ค่าโดยสาร ส่งผลให้ผู้บริโภคมุ่งเน้นซื้อสินค้าที่จำเป็น และเมื่อพิจารณาดัชนีตามภูมิภาคพบว่าความเชื่อมั่นต่อยอดขายสาขาเดิมทรงตัวทุกภูมิภาค ยกเว้นภาคอีสานที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด บ่งบอกถึงธุรกิจยังคงฟื้นตัวไม่สมดุล และเห็นได้ว่าพื้นที่ท่องเที่ยวจะฟื้นตัวได้เร็วกว่าพื้นที่อื่น

กระหน่ำโปรฯปลุกจับจ่าย

จากการสำรวจพบว่า ขณะนี้บรรดาซัพพลายเออร์สินค้าอุปโภคบริโภคต่างร่วมกับช่องทางจำหน่ายต่าง ๆ ทยอยจัดโปรโมชั่นเป็นระยะ ๆ โดยรูปแบบที่จัดส่วนใหญ่ยังเป็นการลดราคาพิเศษ ซื้อ 1 แถม 1 หรือซื้อสินค้าครบตามที่กำหนด จะมีสินค้าพรีเมี่ยมแถม เช่น ยูนิลีเวอร์ ที่จับมือกับบิ๊กซี ทุกสาขา (20 เม.ย.-3 พ.ค.) ลดราคา ผงซักฟอก โอโม 1,800-2,000 กรัม ปกติ 165 บาท ขาย 109 บาท, บรีส เอกเซล 1,800 กรัม ราคา 199 บาท ซื้อ 2 แถม 1, ซันไลต์ เลมอน เทอร์โบ 740 มล. แพ็ก 3 จาก 130 บาท เหลือ 109 บาท, ครีมอาบน้ำลักส์ 450 มล. แพ็กคู่ 195 บาท ขาย 169 บาท เป็นต้น และเมื่อซื้อครบ 329 บาท รับน้ำยาปรับผ้านุ่ม 490 มล. ราคา 79 บาท 1 ถุง หรือซื้อครบ 999 บาท รับกล่องจัดเก็บ 1 ใบ ราคา 299 บาท

ขณะที่ พี แอนด์ จี ร่วมกับ ทวีกิจ ซุปเปอร์เซ็นเตอร์ จ.บุรีรัมย์ (25 เม.ย.-15 พ.ค.) ลดราคาพิเศษสินค้า เช่น น้ำยาปรับผ้านุ่ม ดาวน์นี่ 530 ม. ซื้อ 2 แถม 1 ปกติ 139 บาท พิเศษ 129 บาท, น้ำยาปรับผ้านุ่มดาวน์นี่ ปกติ 67 บาท พิเศษ 47 บาท, แชมพูรีจอยส์/ครีมนวด 410-450 มล. ทุกสูตร ปกติ 129 บาท พิเศษ 99 บาท, แชมพู/ครีมนวดรีจอยส์ 410 มล. แพ็กคู่ ปกติ 195 บาท พิเศษ 169 บาท เช่นเดียวกับค่ายนีโอ ที่จัดโปรโมชั่น เช่น ครีมอาบน้ำ บีไนซ์ 450 มล. ทุกสูตร ปกติ 89 บาท พิเศษ 78 บาท สบู่เหลว ดีนี่เพียว 380 มล. ปกติ 99 บาท พิเศษ 89 บาท, ปรับผ้านุ่มไฟน์ไลน์ 580 มล. ปกติ 15 บาท พิเศษ 13 บาท เป็นต้น

ส่วน ไฮยีน ร่วมกับ ฮกกี่เมกา สโตร์ อ.พิมาย นครราชสีมา (1 เม.ย.-30 มิ.ย.) ซื้อสินค้าไฮยีนครบ 129 บาท รับฟรี น้ำยาซักผ้า 1 ถุง ราคา 65 บาท หรือซื้อครบ 259 บาท รับฟรีกระเป๋าพรีเมี่ยม 1 ชิ้น มูลค่า 159 บาท เช่นเดียวกับค่ายสหพัฒน์และไลอ้อน (1-30 เม.ย.) จัดรายการ เมื่อซื้อสินค้า อาทิ ผงซักฟอกเปา น้ำยาล้างจานไลปอนเอฟ ฯลฯ ครบ 99 บาท รับฟรี น้ำยาปรับผ้านุ่ม โปร 1 ถุง 500 มล. ราคา 12 บาท ซื้อครบ 219 บาท รับฟรีถังน้ำ 1 ใบ มูลค่า 89 บาท