
ฟาสต์ รีเทลลิ่ง บริษัทแม่ของยูนิโคล่ เล็งส่งแบรนด์ GU บุกเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และยุโรป หลังประกาศผุดสาขากรุงนิวยอร์ก
วันที่ 5 ธันวาคม 2566 ฟาสต์ รีเทลลิ่ง ยักษ์แฟชั่นสัญชาติญี่ปุ่น บริษัทแม่ของยูนิโคล่ ประกาศส่งแบรนด์ GU (จียู) รุกตลาดโลก ประเดิมด้วยทวีปอเมริกาเหนือก่อน ตามด้วยยุโรปและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมตั้งเป้าดับเบิลรายได้เป็น 6 แสนล้านเยน ภายใน 5 ปี
นิกเคอิ เอเชีย รายงานว่า ฟาสต์ รีเทลลิ่งประกาศแผนพาแบรนด์ GU ออกไปทำตลาดในระดับโลก เริ่มด้วยการเปิดร้านแบบถาวรในกรุงนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา จากเดิมที่มีสาขาในญี่ปุ่น 427 สาขา และอีก 36 สาขาในจีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง มาเก๊า และไต้หวันเท่านั้น
โดยแม้จะยังไม่เปิดเผยกำหนดเวลาที่ชัดเจนสำหรับสาขาใหม่นี้ แต่ยักษ์แฟชั่นยืนยันว่า สาขาแบบถาวรที่นิวยอร์กนี้จะมีขนาดใหญ่และมีสินค้าหลากหลายกว่าร้านพ็อปอัพที่มาเปิดในนิวยอร์กเมื่อปีที่แล้วแน่นอน
ส่วนการรุกตลาดอื่น ๆ อย่างยุโรปและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น จะเป็นแผนระยะต่อไป โดย “โอซามุ ยุโนคิ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ GU กล่าวว่า บริษัทมีเป้าระยะกลาง-ยาวที่จะสร้างยอดขาย 1 ล้านล้านเยน ซึ่งเมื่อธุรกิจในจีนและสหรัฐเดินหน้าได้ตามแผนนี้แล้ว จะรุกยุโรปและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่อไป
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า GU เป็นแบรนด์แฟชั่นในเครือฟาสต์ รีเทลลิ่งเช่นเดียวกับยูนิโคล่ แต่ GU จะมีสินค้าราคาจับต้องง่ายกว่า และมีดีไซน์สไตล์วัยรุ่นมากกว่า ส่วนชื่อ GU นั้นเป็นการใช้คำพ้องเสียงกับคำในภาษาญี่ปุ่นว่า jiyū ที่แปลว่า เสรีภาพ, อิสรภาพ
ปรับดีไซน์-อัพเกรดอีคอมเมิร์ซ
สำหรับแผนการทำตลาดในต่างประเทศนั้น ผู้บริหาร GU ระบุว่า จะเดินหน้าปรับดีไซน์สินค้าให้สอดรับกับเทรนด์แฟชั่นโลกมากขึ้น โดยอาจขยายศูนย์พัฒนาสินค้าในนิวยอร์ก เป็นสำนักงานใหญ่แห่งที่ 2 หลังก่อนหน้านี้ส่งทีมผู้บริหารกว่า 10 ชีวิตไปศึกษาดูงานเทรนด์ออกแบบสินค้าในศูนย์นี้มาแล้ว
พร้อมขยายการขายผ่านออนไลน์ซึ่งเป็นช่องทางยอดนิยมของลูกค้าต่างประเทศ หวังเพิ่มสัดส่วนยอดขายจากช่องทางนี้ จาก 12% เป็น 30% ของยอดขายรวม เริ่มจากอัพเกรดระบบขนส่งสินค้าในฮ่องกง ไต้หวัน และจีนแผ่นดินใหญ่ ภายในสิ้นปีงบฯนี้
ชูประสบการณ์ในร้านรับมือคู่แข่ง
นอกจากนี้ GU จะใช้การมีหน้าร้านออฟไลน์มาสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง อย่าง Shein ยักษ์แฟชั่นออนไลน์สัญชาติจีนที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีธุรกิจในกว่า 150 ประเทศ และสินค้ามากกว่า 6 แสนรายการบนเว็บไซต์ จนสามารถเข้า IPO ในตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อเร็ว ๆ นี้
ควบคู่กับการใช้ระบบ AI ของยูนิโคล่ มาวิเคราะห์เทรนด์ของตลาดเพื่อคัดเลือกสินค้าที่จะเปิดตัวให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคมากที่สุด ซึ่งจะช่วยเพื่อประสิทธิภาพของการออกสินค้าแต่ละครั้งให้สูงขึ้น
“การออกสินค้าใหม่ที่แม่นยำตรงกับความต้องการลูกค้านี้ จะช่วยให้แบรนด์ทั้งน่าสนใจและมีภาพลักษณ์ที่ชัดเจนเข้าใจง่ายขึ้น”
ผู้บริหารแบรนด์แฟชั่นอธิบายต่อไปว่า การรุกตลาดต่างประเทศและปั้นให้เป็นแหล่งรายได้หลักแทนตลาดญี่ปุ่น นับเป็นก้าวสำคัญของแบรนด์ที่จะสร้างการเติบโตในอนาคตท่ามกลางปัญหาประชากรหดตัวในญี่ปุ่นเช่นเดียวกับกลยุทธ์ของยูนิโคล่
“ปีงบฯปัจจุบันซึ่งจะสิ้นสุดเดือนสิงหาคม 2024 นี้ เป็นจังหวะสำคัญในการเริ่มรุกตลาดต่างประเทศ เพื่อเพิ่มรายได้เป็น 2 เท่าหรือ 6 แสนล้านเยนภายใน 5 ปี”