ฝุ่น PM 2.5 หลายพื้นที่เริ่มวิกฤต คุกคามสุขภาพประชาชน “หมอชลน่าน” สั่งหน่วยงานสาธารณสุขสำรองอุปกรณ์ป้องกัน พร้อมสื่อสารความรู้กับประชาชน
วันที่ 13 ธันวาคม 2566 รายงานข่าวจากกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 อยู่ในระดับเริ่มวิกฤต คุกคามสุขภาพประชาชน คาดการณ์คุณภาพอากาศช่วง 1-2 วันข้างหน้า ปริมาณฝุ่นมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหลายพื้นที่ “หมอชลน่าน” ห่วงประชาชน โดยเฉพาะจราจร วินมอเตอร์ไซค์ ไรเดอร์ แรงงานก่อสร้างที่ต้องทำงานกลางแจ้ง เสี่ยงกระทบสูงสุด สั่งหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่เตรียมพร้อมสำรองหน้ากากอนามัย/N95
- พระราชประวัติ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติฯ วันคล้ายวันประสูติ 29 เมษายน
- “มะพร้าว” ราคาพุ่งเป็นประวัติการณ์ ลูกเดียว 65-80 บาท เกิดอะไรขึ้น?
- กองทุนประกัน อนุมัติจ่ายเงิน 7.29 พันล้าน มี.ค.-เม.ย. รับรองมูลหนี้เพิ่ม 560 ล้าน
ล่าสุดพิษณุโลก นนทบุรี สมุทรสาคร เปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีฝุ่น PM 2.5 แล้ว ขณะที่กรมอนามัย-กรมควบคุมโรค เร่งสื่อสารความเสี่ยงวิธีป้องกันตนเองจากฝุ่นพิษ หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง สวมหน้ากากอนามัยถ้าจำเป็นต้องออกจากบ้าน
จากการคาดการณ์คุณภาพอากาศในช่วง 1-2 วันข้างหน้า ปริมาณฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหลายพื้นที่ โดยล่าสุดมี 28 จังหวัดที่ค่าฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐาน อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้สั่งการให้หน่วยงานสาธารณสุขทุกจังหวัดเตรียมพร้อมรับมือวิกฤตสุขภาพของประชาชน
โดยจังหวัดที่มีความเสี่ยงสูงให้เตรียมสำรองหน้ากากอนามัย หน้ากากชนิด N95 ไว้ให้พร้อม หากมีความจำเป็นที่จะต้องแจกจ่ายให้กับประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง 4 กลุ่มโรค ได้แก่ โรคหัวใจและหลอดเลือด, โรคระบบทางเดินหายใจ, โรคเยื่อบุตาอักเสบ และโรคผิวหนัง
นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุขฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 เป็นภัยสิ่งแวดล้อมที่คุกคามสุขภาพของประชาชน หากได้รับเข้าสู่ร่างกายอาจทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยหรือป่วยเรื้อรังได้ โดยเฉพาะผู้ที่ร่างกายอ่อนแอหรือมีโรคประจำตัว เช่น โรคระบบทางเดินหายใจ หอบหืด เด็กเล็ก ผู้สูงอายุและหญิงตั้งครรภ์
ทั้งนี้ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องทำงานกลางแจ้ง เช่น ตำรวจจราจร วินมอเตอร์ไซค์ ไรเดอร์ และแรงงานก่อสร้าง ซึ่งต้องทำงานท่ามกลางฝุ่นและความร้อนตลอดทั้งวัน จะมีความเสี่ยงสูงมาก แนะนำให้สวมหน้ากากป้องกันฝุ่น และหากมีอาการผิดปกติให้รีบพบแพทย์ ส่วนผู้มีโรคประจำตัว ควรเตรียมยาและอุปกรณ์ที่จำเป็นให้พร้อม
สำหรับสถานที่ที่มีกลุ่มเสี่ยง เช่น สถานศึกษา สถานดูแลผู้สูงอายุ ควรจัดทำห้องปลอดฝุ่นเพื่อเป็นที่พักในช่วงค่าฝุ่นสูง และเฝ้าระวังสุขภาพกลุ่มเสี่ยงเป็นพิเศษ พร้อมกันนี้ ได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัด อาทิ กรมอนามัย กรมควบคุมโรค เร่งสื่อสารความเสี่ยงกับประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพที่รุนแรงขึ้น
ด้าน พญ.อัจฉรา นิธิอภิญญาสกุล รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ได้มอบหมายให้กองประเมินผลกระทบทางสุขภาพจัดทำข้อมูลความรอบรู้สุขภาพเรื่อง PM 2.5 สื่อสารกับประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงสูงตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โดยมีคำแนะนำการดูแลและป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจาก PM 2.5 ในเบื้องต้น ดังนี้
-
- ให้อยู่ภายในอาคารบ้านเรือน หากไม่จำเป็นอย่าออกนอกบ้าน โดยเฉพาะประชาชนกลุ่มเสี่ยง
- ปิดประตูหน้าต่างป้องกันฝุ่นเข้า หากปิดไม่ได้ให้ใช้ผ้าชุบน้ำทำเป็นม่านปิดแทน
- หากต้องออกนอกบ้าน ให้ใช้ผ้าชุบน้ำบิดพอหมาดๆ ปิดจมูกและปาก หรือใส่หน้ากากกรองฝุ่น
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายและทำงานหนัก เมื่ออยู่นอกบ้าน
- ดื่มน้ำมาก ๆ และไม่สูบบุหรี่ ในช่วงที่มีปัญหาฝุ่นขนาดเล็ก
- ผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์และเด็กเล็ก ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสอากาศที่มีฝุ่นละออง
- ไม่เผาขยะ โดยเฉพาะขยะที่เป็นสารพิษ เช่น พลาสติก ยางรถยนต์ รวมทั้งขยะทั่วไป
- ลดการใช้รถยนต์ หรือใช้เท่าที่จำเป็น เพื่อไม่ให้มลพิษจากท่อไอเสีย ทำให้คุณภาพอากาศแย่ลง
สำหรับสถานการณ์ค่าฝุ่น PM 2.5 วันนี้ (13 ธันวาคม 2566) ภาพรวมอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยจังหวัดที่มีค่าฝุ่นเฉลี่ย 24 ชั่วโมงเกินมาตรฐาน 28 จังหวัด และมี 3 จังหวัดที่เปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีฝุ่น PM 2.5 แล้ว คือ พิษณุโลก นนทบุรี และสมุทรสาคร