
สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทยเผยเทรนด์การตลาดมาแรงปี’67 ทั้งเครื่องตอบคำถาม Answer Engine Optimization, คอนเทนต์อัตโนมัติ, Micro-Influencer มาแรง ฯลฯ
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย จับความเคลื่อนไหวและการเปลี่ยนแปลงของการตลาด ก่อนจะสรุปออกมาเป็น 10 เทรนด์การตลาดที่จะมาแรงปี 2567 นี้ ซึ่งประกอบด้วย
เครื่องมือตอบคำถามหรือ AEO ที่มาแทน SEO
เครื่องมือการตอบคำถาม คือ สิ่งที่ลึกกว่าการทำ Search Engine Optimization หรือ SEO) ด้วยการปรับเนื้อหาออนไลน์ เน้นการใช้คีย์เวิร์ด AEO มุ่งเน้นการสร้างเนื้อหาที่คัดกรองแล้วและนำไปตอบในกล่องคำตอบผลลัพธ์จากการค้นหาในตำแหน่งบนสุด รวมไปถึงการตอบกลับแบบเสียงอัตโนมัติ
คอนเทนต์อัตโนมัติ (Content Automation)
ในปี 2567 นี้ การลงทุนในแพลตฟอร์มสำหรับสร้างคอนเทนต์อัตโนมัติ เช่น เจเนเรทีฟเอไอ ที่ช่วยสร้างบทความหรือภาพ ฯลฯ จะกลายเป็นสิ่งจำเป็น เพราะจะช่วยให้แบรนด์สามารถส่งคอนเทนต์ที่ทั้งสามารถดึงดูดผู้ชม สร้างความสัมพันธ์กับแบรนด์ และนำลูกค้าไปตลอดกระบวนการการซื้อออกมาได้อย่างต่อเนื่อง
Niche และ Micro-Influencer
Influencer ยังเป็นเครื่องมืออันทรงพลังในการเข้าถึงผู้ชมเฉพาะกลุ่มและจัดหาเนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างขึ้น แต่เปลี่ยนจาก Macro Influencer ที่มีผู้ติดตามจำนวนมากมากไปเป็น Influencer ระดับ micro และ nano ซึ่งอาจมีฐานผู้ชมจำนวนไม่มากแต่ปฏิสัมพันธ์สูง ความจริงใจและความเกี่ยวข้องเฉพาะกลุ่มจะมีความสำคัญกว่าจำนวนผู้ติดตาม
นอกจากนี้ จะมีการใช้เครื่องมือ AI ในการระบุตัวและติดตามผลลัพธ์ของ Influencer มาปรับปรุงกระบวนการทางการตลาดให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย
Metaverse และการมีส่วนร่วมแบบเสมือนจริง
ในปี 2567 จะเห็นแบรนด์ต่าง ๆ เข้ามาลงทุนใน Metaverse เพิ่มมากขึ้น เพื่อใช้สร้างประสบการณ์ให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมกับแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น เปิดตัวผลิตภัณฑ์เสมือนจริง และทำแคมเปญการตลาดตามพฤติกรรมของผู้ใช้ ไปจนถึงสร้างชุมชนของผู้ใช้สินค้า-บริการนั้น ๆ
การตลาดแบบยั่งยืนและใส่ใจต่อสังคม
ผู้บริโภคในปัจจุบันต้องการเข้าใจค่านิยมที่แบรนด์ยึดมั่น โดยเฉพาะความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม-สังคม เพื่อหาแบรนด์ที่สอดคล้องแนวคิดของตัวเอง เนื่องจากได้รับการการตุ้นจากปัญหาระดับโลก เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และความอยุติธรรมทางสังคม ธุรกิจจึงต้องปรับทั้งโพซิชั่น แนวทางให้สร้างความยั่งยืนและมีจริยธรรมสอดคล้องกับค่านิยมเหล่านี้ด้วย
การไม่แบ่งแยกและการยอมรับความหลากหลาย
การไม่แบ่งแยกและการยอมรับความหลากหลายในทางการตลาดยังคงเป็นเทรนด์สำคัญต่อไปตลอดปี 2567 หลังผู้บริโภคแสวงหาแบรนด์ที่ไม่เพียงแต่มีความหลากหลายในผลิตภัณฑ์ ข้อเสนอ และการโฆษณา แต่ยังส่งเสริมค่านิยมที่ไม่แบ่งแยกผู้คนอย่างแท้จริง แบรนด์ที่ปฏิบัติตามหลักการเหล่านี้ได้จะไม่เพียงดึงดูดฐานลูกค้าใหม่ ๆ เข้ามา แต่ยังสร้างฐานลูกค้าที่ภักดีอีกด้วย
การตลาดเชิงทดลอง
การสนับสนุนให้พนักงานทดลองสร้างนวัตกรรมอย่างสม่ำเสมอกลายเป็นข้อได้เปรียบของธุรกิจในปัจจุบัน เนื่องจากช่วยให้เกิดวัฒนธรรมองค์กรที่เน้นให้พนักงานใช้ความคิดสร้าง และทดลองทำสิ่งใหม่ ๆ ซึ่งเพิ่มความพึงพอใจของพนักงานและลูกค้าไป รวมถึงสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันเพราะทำให้ความพยายามทางการตลาดมีประสิทธิภาพและน่าเชื่อถือมากขึ้น
การตลาดที่เข้าถึงลูกค้าได้แบบเจาะจง โดยใช้ Big Data
การทำการตลาดแบบเฉพาะบุคคล จะยังคงมีบทบาทสำคัญกับการสร้างกำไรของบริษัททั้งขนาดใหญ่และเล็ก เพราะลูกค้าในยุคปัจจุบันคาดหวังประสบการณ์ที่ปรับให้เหมาะกับตนเอง โดยแบรนด์สามารถใช้ข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ หรือแม้กระทั่งร้านค้าปลีก มาวิเคราะห์และสร้างกลยุทธ์การตลาดที่คอนเทนต์ ผลิตภัณฑ์ ข้อเสนอ และการสื่อสารถูกปรับให้เหมาะกับลูกค้าแต่ละราย