“ช่อง3-7” เปิดศึกชิงเรตติ้ง ระดมละคร-วาไรตี้ลงไพรมไทม์ตรึงคนดู

ช่อง 3-7 ระเบิดศึก หวังกวาดเรตติ้งแต่ไก่โห่ ส่งละครลอตใหม่เพิ่มสีสันรับต้นปี “เวิร์คพอยท์” ทยอยปล่อย 20 รายการใหม่ลงผัง ย้ำเจ้าแห่งคอนเทนต์วาไรตี้ ฟาก “โมโน 29” คัดคอนเทนต์ไทย-เทศต่อเนื่อง หวังตรึงเรตติ้งเบอร์ 3 พร้อมอัพราคาโฆษณาเป็น 8 หมื่นต่อนาที ขณะที่ช่องวัน 31-จีเอ็มเอ็ม 25 ไม่มียอม อัดละครเรื่องรสแซบลงจอต่อ ส่วน MCOT 30 ผนึกพันธมิตรต่างประเทศ ผลิตรายการแนวใหม่เสริมทัพ ขณะที่ “มีเดียเอเยนซี่” ฟันธง กลุ่มท็อป 5 แกร่งโตต่อ เก็บเรตติ้งและรายได้ต่อเนื่อง


หลังทีวีช่องใหญ่อย่าง ช่อง 3 ช่อง 7 และอีกหลาย ๆ ช่องที่ปล่อยเกียร์ว่างมาพักหนึ่ง ด้วยการนำคอนเทนต์เก่าโดยเฉพาะละคร มาออนแอร์ซ้ำ (rerun) ตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมปี 2562 เนื่องจากเป็นช่วงที่มีวันหยุดยาว และลากยาวมาถึงช่วงต้นสัปดาห์ของเดือนมกราคมปีนี้ เช่น ช่อง 3 ที่ส่งละครฮิตติดลมบน “บุพเพสันนิวาส” ออกมารีรันรอบที่ 3 ขณะที่ช่อง 7 ปล่อยละครน้ำดี สารวัตรใหญ่ ที่มีเรตติ้งเป็นอันดับต้น ๆ มารีรัน และวันนี้ละครดังที่นำมารีรันกำลังจะจบลง ล่าสุดทีวีทุกช่องเริ่มมีความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญ ด้วยการเตรียมปล่อยคอนเทนต์แม่เหล็กมาเรียกเรตติ้งในช่วงไพรมไทม์

ช่อง 3-7 ปล่อยไม้เด็ดต้นปี

แหล่งข่าวจากบริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด ผู้บริหารช่อง 7 (ช่อง 35 เอชดี) ระบุว่า ล่าสุดช่องได้จัดงานใหญ่ เปิดตัวละครวิกหมอชิต เริ่มด้วยละคร 3 เรื่องแรกของปี ได้แก่ ยอดรักนักรบ ที่ได้ “เวียร์ ศุกลวัฒน์” นักแสดงเบอร์ต้น ๆ ของช่องมาเรียกเรตติ้งตั้งแต่ต้นปี ตามด้วยสุภาพบุรุษชาวดิน และวิมานมนตรา ที่จะยิงในช่วงเวลา 20.30-22.30 น.

นอกจากนี้ เติมคอนเทนต์ใหม่ช่วงวันพฤหัสบดี เวลา 23.10 น. กับรายการ เชฟนิก ซุปตาร์เข้าครัวซีซั่น 4 รวมถึงเพิ่มเวลาออกอากาศ รายการวาไรตี้ช่วงเย็นทุกวันจันทร์-ศุกร์ ทั้งแหวน 5 ท้าแสน และ Guess my age จากเดิม 18.00-18.50 น. เป็น 18.00-19.00 น.

ขณะที่ช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 18.20-19.50 น. มีภาพยนตร์ไทยยิงยาว 2 วัน แทนมาสเตอร์เชฟจูเนียร์ประเทศไทย ซีซั่น 2 ที่เคยออกอากาศวันอาทิตย์

ขณะที่แหล่งข่าวจากบริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เดือนมกราคมนี้ ช่อง 33 เอชดี ได้ปรับผังและเติมละครลอตใหม่ลงจอแบบยกแผง ตั้งแต่วันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา โดยเวลา 20.20 น. วันจันทร์-อังคาร เรื่อง “ผมอาถรรพ์” ของค่ายดี วัน ทีวี

ส่วนวันพุธ-พฤหัสบดี มีละครโรแมนติก-คอมเมดี้ “ฟ้าฝากรัก” จากค่าย “บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น” และวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ เติมละครดราม่ารสแซบ “ซ่อนเงารัก” ของ ค่ายเลิฟดราม่า และช่วงเวลา 19.00 น. ก็มีละครคอมเมดี้

“มือปราบข้าวสารเสก” ที่ยิงยาวทุกวันจันทร์-ศุกร์ นอกจากนี้ยังได้ปรับลดเวลาการออกอากาศละครหลัง 20.20 น. ช่วงวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ให้เหลือ 2 ชั่วโมง จากเดิมออกอากาศ 2 ชั่วโมง 15 นาที โดยละครช่วงวันศุกร์จะออกอากาศเวลา 20.20-22.20 น. จากเดิมเคยออกอากาศเวลา 20.20-22.35 น. ส่วนวันเสาร์และอาทิตย์ก็เช่นเดียวกัน เปลี่ยนเป็นเวลา 20.15-22.15 น. จากเดิมเวลา 20.15-22.30 น. และได้ขยับเวลาออกอากาศรายการหลัง 22.00 น.ให้เร็วขึ้น

โดยจะขยับรายการข่าว 3 มิติ ให้ออกอากาศเร็วขึ้น 15 นาที ตั้งแต่ช่วงวันศุกร์ ออกอากาศเวลา 22.20-22.50 น. จากเดิม 22.35-23.05 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 22.15-22.45 น. จากเดิม 22.30-23.00 น. ซึ่งรายการหลังเวลา 23.00 น. ทั้งหมดก็จะถูกขยับให้เร็วขึ้นด้วย เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมของผู้ชมมากขึ้น

แข่งเติมรายการใหม่

นายปัญญา นิรันดร์กุล ประธาน บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารช่องเวิร์คพอยท์ กล่าวก่อนหน้านี้ว่า ปีนี้นอกจากจะนำคอนเทนต์เข้าไปในทุกแพลตฟอร์มมากขึ้น เพื่อเจาะเข้าถึงผู้ชมให้ได้มากที่สุด พร้อมนำเสนอคอนเทนต์ที่หลากหลายเกือบ 20 รายการ เช่น 10 FIGHT 10 ซีซั่น 2, Fan Wars ดาวปั้นดาว, มโน VS มหาชน, คนซ้อนคน, The Cassette สงครามเด็กเทป, The Rapper 2020 เป็นต้น นอกจากนี้ยังเสริมทัพด้วย กิจกรรมออนกราวนด์ (on ground) ด้วยการจัดอีเวนต์ต่าง ๆ ทั้งกรุงเทพฯและต่างจังหวัด และเดินหน้าสร้างแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อตอกย้ำถึงความเป็น “king of variety”

นายปฐมพงศ์ สิรชัยรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โมโน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) และกรรมการผู้จัดการ บริษัท โมโน เทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมการแข่งขันทีวีที่สูงขึ้น ประกอบกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ทำให้บริษัทต้องปรับตัวเองต่อเนื่อง ปีนี้ก็จะเติมคอนเทนต์ทั้งไทยและต่างประเทศให้เข้มข้นขึ้นเพื่อเพิ่มเรตติ้งต่อ อีกทั้งเตรียมปรับขึ้นราคาโฆษณายกช่องเฉลี่ย 80-100% จากเดิม ทำให้ราคาโฆษณาเฉลี่ยทั้งช่องในปี 2563 จะเพิ่มเป็น 80,000 บาทต่อนาที จากปัจจุบันอยู่ที่ 35,000 บาทต่อนาที

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ล่าสุดช่องวัน 31 ก็ใส่ละครใหม่ลงจอ ได้แก่ หนี้เสน่หา 4 เทพผู้พิทักษ์ เป็นต้น ตั้งแต่ช่วงเวลา 20.10-22.35 น. เช่นเดียวกับช่องจีเอ็มเอ็ม 25 ที่ส่งละครใหม่หลายเรื่อง เช่น นางสาว 18 มงกุฎ เกมรักเอาคืน เป็นต้น ในช่วงเวลา 20.10-21.25 น.

อสมท ชูกลยุทธ์โคโปรดักชั่นสู้

นายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารช่อง MCOT 30 กล่าวว่า ปีนี้ยังคงเดินหน้าตามนโยบายเดิม คือ เน้นการสร้างคอนเทนต์ที่น่าสนใจ และบริหารค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ ลดการผลิตรายการสดที่บริษัทผลิตเองส่วนหนึ่ง เพื่อควบคุมต้นทุนในธุรกิจทีวี และหันไปให้ความสำคัญกับการเปิดตลาดออนไลน์มากขึ้น และร่วมผลิต

รายการกับพันธมิตรผู้ผลิตรายการระดับนานาชาติมากขึ้น ล่าสุดร่วมกับ Japan International Broadcasting Inc. (JIB) จากญี่ปุ่น ผลิตรายการท่องเที่ยวแนวใหม่ของสองวัย หรือการร่วมมือกับ China Media Group และ CCTV ประเทศจีน รวมทั้งการลงทุนร่วมผลิตกับเน็ตฟลิกซ์ (Netflix) นอกจากนี้ยังเสริมรายการมวยไทยระดับพรีเมี่ยม แม็กซ์ มวยไทย สปอร์ต เอ็นเตอร์เทนเมนต์ อีก 1 วันในวันเสาร์ ทำให้มีรายการกีฬามวยยิงยาวถึง 6 วัน จากเดิม 5 วัน และจะมีการถ่ายทอดสดรายการกีฬาระดับโลกเป็นช่วง ๆ เช่น ต้นเดือนกุมภาพันธ์ HONDA LPGA Thailand รายการแข่งขันกอล์ฟหญิงที่จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 รวมทั้งการปรับรายการข่าวเศรษฐกิจและต่างประเทศระดับโลกอีก 1-2 รายการ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ไทยรัฐทีวีก็เปิดรายการข่าวใหม่รับปี 2563 กับข่าวเช้าหัวเขียว ที่นำเสนอข่าวเช้าแบบเข้าใจง่าย เริ่มเมื่อวันที่ 6 ม.ค.ที่่ผ่านมา เวลา 06.00-08.30 น. ส่วนอมรินทร์ทีวี ก็ลอนช์ละครช่วง 22.00 น. เรื่องใหม่ “ทะลแปร” หวังเก็บเรตติ้งต่อเนื่อง หลังจากสร้างสลอตเวลาละครช่วงใหม่ในเวลา 22.00-23.00 น.

สแกนเรตติ้งกลุ่มท็อป 5

นายไตรลุจน์ นวะมะรัตน นายกสมาคมมีเดียเอเยนซี่และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย (MAAT) กล่าวว่า ตอนนี้ธุรกิจทีวีไม่มีความหวือหวา ทุกช่องยังอยู่ในภาวะที่ต้องเอาตัวรอดจากการขาดทุน ขณะที่ในแง่คอนเทนต์ก็ยังไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น เพราะทุกช่องยังใส่คอนเทนต์เดิม ๆ คือ ข่าว ละคร มวย อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาลงไปในรายละเอียดจะพบว่า ช่องยังมีโอกาสเติบโตได้ทั้งเรตติ้งและรายได้ หลัก ๆ ยังคงเป็นกลุ่มท็อปไฟฟ์ และทั้ง 5 รายนี้ก็มีแนวโน้มจะปรับขึ้นราคาโฆษณา เช่น ช่อง 7 โมโน 29 เวิร์คพอยท์ เป็นต้น แต่ก็จะเป็นการปรับขึ้นราคาโฆษณาเฉพาะบางช่วงเวลาเท่านั้น

“แต่สิ่งที่แต่ละช่องต้องทำต่อ คือ การสร้างความแตกต่าง ด้วยการวางเซ็กเมนเตชั่นของช่องให้ชัดเจนว่าเจาะคนดูกลุ่มไหน เช่น เจาะกลุ่มผู้ชาย ก็ใส่คอนเทนต์ที่ตอบโจทย์คนกลุ่มนี้ มากกว่าการใส่คอนเทนต์หลากหลาย เพื่อเจาะกลุ่มแมสทีวี ต้องมีกลุ่มคนดูที่ชัดเจนว่าเจาะกลุ่มผู้หญิง ผู้ชาย หรือแยกย่อยตามไลฟ์สไตล์ เพราะถึงแม้เรตติ้งโดยรวมอาจจะไม่ดี แต่ในแง่ของเซ็กเมนต์ก็ชัดเจน ทำให้สินค้าตัดสินใจลงโฆษณาง่ายขึ้น แต่ตอนนี้เอเยนซี่เลือกซื้อโฆษณาตามรายการ และตอนนี้ทั้ง 17 ช่องก็มีคอนเทนต์คล้าย ๆ กัน ทำให้เม็ดเงินโฆษณาก็กระจุกอยู่แค่กลุ่มท็อป 5 โดยเชื่อว่าถ้ามีฐานคนดูชัดเจน งบฯโฆษณาก็จะถูกเกลี่ยไปที่ช่องนั้น ๆ”

จากข้อมูลของบริษัท นีลเส็น (ประเทศไทย) จำกัด รายงานความนิยมของผู้ชม (เรตติ้ง) ประจำปี 2562 ในกลุ่มผู้ชมทั่วประเทศตั้งแต่อายุ 4 ปีขึ้นไป พบว่า ช่อง 7 มีเรตติ้ง 1.862 ช่อง 33 เอชดี 1.166 โมโน 0.855 ช่องวัน 0.595 ไทยรัฐ 0.448