สหพัฒน์ผนึกทุนญี่ปุ่นสปีด “ดองกิ” 10 สาขารวด

สหพัฒน์จับมือยักษ์ค้าปลีกญี่ปุ่น “ดองกิ” เดินหน้าลงทุนต่อเนื่อง ไม่หวั่น ศก.ชะลอตัว-ไวรัสโควิด-19 ประกาศปูพรมสาขาในไทย 10 แห่ง คาดใช้งบฯเบาะ ๆ 1.2 พันล้าน ล่าสุด เตรียมเปิดสาขา 2 ย่านราชดำริ มีนาคมนี้ เผยขนาดใหญ่กว่าทองหล่อ 3 เท่า ย้ำคอนเซ็ปต์ “สินค้าถูก-สินค้าสนุก” ด้าน “สมคิด” แนะขนผลไม้-โอท็อปไทยตัวแม่ ขึ้นเชลฟ์ 600 สาขาทั่วโลก

นายวิชัย กุลสมภพ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยภายหลังร่วมหารือกับนาย Yasuda Takao ประธานผู้ก่อตั้ง และนาย Yoshida Naoki ซีอีโอ บริษัท ดองกิ ประเทศญี่ปุ่น ที่โรงแรมอิมพีเรียล ณ กรุงโตเกียว ว่า บริษัทสหพัฒน์ร่วมทุนกับดองกิ ในเมืองไทยอยู่แล้วที่สาขาทองหล่อ และกำลังจะเปิดสาขา 2 ย่านราชดำริ ในเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งใหญ่กว่าสาขาทองหล่อ 3 เท่า

“เราร่วมทุนกับดองกิ 22% เป็นพันธมิตรทางธุรกิจกัน คงไม่ใช่เปิดแค่ 2 สาขา แต่คาดหวังว่าจะเปิดหลายสิบสาขาทั่วประเทศใช้เงินลงทุน 500 ล้านบาทต่อสาขา 5,000-6,000 ตารางเมตร ถ้าลงทุน 10 สาขาก็ราว 1,200 ล้านบาท”

นายวิชัยกล่าวว่า ห้างดองกิเป็นค้าปลีกรายใหญ่อันดับ 4 ของญี่ปุ่น ยอดขายปีที่ผ่านมา 1.3 ล้านล้านเยน กำไร 48,000 ล้านเยน มีการควบรวมกิจการกับแฟมิลี่ มาร์ต ทั้งนี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์รองนายกรัฐมนตรี ต้องการให้ดองกิเชื่อมโยงกับผลไม้ สินค้าโอท็อปที่โดดเด่นของไทย เข้าไปขายใน 600 สาขาทั่วโลกของดองกิ ซึ่งประธานบริษัทดองกิก็สนับสนุนและรับข้อเสนอไปพิจารณา

“นอกจากนี้ สหพัฒน์มีสินค้าหลายรายการสามารถเป็นซัพพลายเออร์ให้กับดองกิได้ ตามสไตล์ของดองกิ ที่แต่ละสาขาจะมีสินค้าที่หลากหลาย ไม่เหมือนกันบางแห่งเป็นเมกะสโตร์ มีพื้นที่ 6,000-8,000 ตารางเมตร เฉพาะในสิงคโปร์เขามีสาขาถึง 7 แห่งภายในปีเดียว”

นายวิชัยกล่าวด้วยว่า ดองกิตั้งใจจะลงทุนจริงจังในอาเซียน และสหพัฒน์ก็เป็นธุรกิจที่ดูแลพันธมิตรร่วมทุนต่างชาติเป็นอย่างดี และอยากให้ดองกิใช้สหพัฒน์เป็นฐานกระจายสินค้าไปสู่กลุ่มประเทศ CLMV ด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่า เศรษฐกิจที่ชะลอตัวและการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มีผลต่อการลงทุนสหพัฒน์หรือไม่ นายวิชัยตอบว่า เศรษฐกิจก็มีขึ้นมีลง สหพัฒน์โชคดีมีเคล็ดวิชาคงกระพัน มีหนี้น้อย ใช้จังหวะเศรษฐกิจชะลอตัว ปรับปรุงคุณภาพเครื่องจักร ลงทุนเรื่องโลจิสติกส์ ระดมสมองเรื่องการขายให้มากที่สุด

“ดองกิเขาใหญ่ เขาไม่ถอย เราต้องทำให้เขาพึ่งได้ มีคอมมิตเมนต์กับใคร เราก็ทำตามนั้น ก่อนหน้านี้ ประธานสหพัฒน์ และประธานผู้ก่อตั้งดองกิได้พบกัน ซึ่งเรามีสินค้าในเครือที่นำมาขายได้ บวกกับประสบการณ์ค้าปลีกของสหพัฒน์ ทำให้การร่วมทุนลงตัวกับปรัชญาดองกิที่ว่า เราไม่ใช่สินค้าถูกอย่างเดียว แต่มีสินค้าที่สนุกด้วย” นายวิชัยกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร้านค้าปลีกรูปแบบดิสเคานต์สโตร์สัญชาติญี่ปุ่น “ดอง กิโฮเต้” (Don Quijote) ได้จับมือกับกลุ่มทุน “ทีโอเอ” ของตระกูลตั้งคารวคุณเปิดสาขาแรกในไทยเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ผ่านมา ที่ทองหล่อซอย 10 บนพื้นที่ 3 ไร่ ที่เดิมเป็นสำนักงานของทีโอเอ กรุ๊ป เป็นอาคารสูงทั้งหมด 6 ชั้น มีพื้นที่รวมกว่า 27,000 ตร.ม. คิดเป็นพื้นที่รีเทล 10,000 ตร.ม. ประกอบไปด้วย ร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ คาราโอเกะ สวนสนุก สปอร์ตเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ฯลฯ และร้านดองกิโฮเต้ หรือร้าน “ดอง ดอง ดองกิ” ที่เป็นชื่อเรียกในไทย และประเทศอื่น ๆ ในอาเซียน อีก 2,500 ตร.ม.

โดยศูนย์การค้าดองกิ มอลล์ ทองหล่อ มีมูลค่าการลงทุนรวม 700 ล้านบาท ในระยะแรกเป็นการร่วมทุนระหว่าง 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท แพน แปซิฟิค อินเตอร์เนชันแนล โฮลดิงส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มดองกิโฮเต้ สำนักงานใหญ่ ประเทศสิงคโปร์ ถือหุ้น 49% บริษัท ทีโอเอ เวนเจอร์ โฮลดิ้ง จำกัด ถือหุ้น 40% และบริษัท พี พี ไอ จำกัด ถือหุ้น 11% โดยมีบริษัท นิปปอน พาร์คกิ้ง ดีเวลลอปเมนท์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนาพื้นที่จอดรถจากประเทศญี่ปุ่น ได้ร่วมบริหารและพัฒนาระบบการจัดการพื้นที่จอดรถในศูนย์

อย่างไรก็ตาม เมื่อปลายปี 2562 ที่ผ่านมา พบว่า แพน แปซิฟิค อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้งส์ ได้เพิ่มทุนในบริษัทย่อย บริษัท ดองกิ ทองหล่อ จำกัด ผู้บริหารร้านดอง ดอง ดองกิ ในไทย เปิดทางให้กลุ่มสหพัฒน์ นำโดยบริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เข้าไปถือหุ้นในสัดส่วน 22% หรือ 99,000 หุ้น ขณะที่บริษัท ทีโอเอ เวนเจอร์ โฮลดิ้ง จำกัด ลดสัดส่วนการถือหุ้นลงมาอยู่ที่ 18% หรือ 81,000 หุ้น ส่วนบริษัท พี พี ไอ จำกัดที่เป็นบริษัทลูกของแพน แฟซิฟิคฯ ถือหุ้นในสัดส่วน 60% หรือ 270,000 หุ้น