โควิดพ่นพิษ ทุบยอดขายต่อสาขาเซเว่นร่วง 17% กำไรวูบ 75%

แม้รายได้และกำไรจะลดลง แต่ยักษ์ร้านสะดวกซื้อยังเดินหน้าลงทุน ตามเป้าการขยายสาขาที่เคยวางไว้

วันที่ 12 พฤษภาคม 2564 – บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ได้เปิดเผยผลดำเนินการไตรมาสแรกของปี 2564 ระบุว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ ส่งผลให้รายได้ของธุรกิจร้านสะดวกซื้อลดลง โดยช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ธุรกิจร้านสะดวกซื้อมีรายได้รวม 70,450 ล้านบาท ลดลง 15% จากไตรมาส 1 ของปี 2563 เนื่องจากจำนวนลูกค้าลดลงมาอยู่ที่เฉลี่ย 845 คนต่อวัน และมียอดใช้จ่ายต่อบิลประมาณ 77 บาท

ทำให้รายได้เฉลี่ยต่อร้านต่อวันอยู่ที่ 65,024 บาท และยอดขายเฉลี่ยของร้านสาขาเดิมลดลง 17.1%

ทั้งนี้แม้ยักษ์สะดวกซื้อจะระดมสรรพกำลังด้าน โอทูโอ อาทิ 7-Eleven Delivery, All Online และ 24Shopping มารับมือ เช่นเดียวกับการเปิดสาขาใหม่ไปทั้งหมด 155 สาขา แบ่งเป็นร้านสาขาบริษัท 131 สาขา สาขา SBP และร้านค้าที่ได้รับสิทธิช่วงอาณาเขต 24 สาขา ทำให้มีสาขารวม 12,587 สาขา แต่ก็ชดเชยรายได้ได้เพียงบางส่วนเท่านั้น

สถานการณ์นี้ส่งผลให้กำไรของธุรกิจร้านสะดวกซื้อในไตรมาส 1 ลดลงถึง 75.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เหลือเพียง 947 ล้านบาท

ฉุดให้รายรวมลดลง 8.5% จากไตรมาสเดียวกันของปี 2563 เหลือ 133,431 ล้านบาท เช่นเดียวกับกำไรสุทธิลดลง 54% เหลือ 2,599 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม แม้ ซีพีออลล์ จะกล่าวว่า แนวโน้มภาพรวมธุรกิจร้านสะดวกซื้อหลังจากนี้ยังคงไม่แน่นอน และปัจจัยลบต่างๆ ยังคงอยู่ แต่ยังย้ำการเดินหน้าแผนลงทุนมูลค่า 1.15-1.2 หมื่นล้านบาท เพื่อเปิดสาขาใหม่อีก 700 สาขา และปรับปรุงสาขาเดิม รวมถึงผุดโครงการใหม่ต่างๆ