ดร.สมคิด สวมหมวกประธานสหพัฒน์ โชว์วิสัยทัศน์ฉีดวัคซีนทางรอดธุรกิจ

ดร.สมคิดออกงานสหกรุ๊ปแฟร์ครั้งแรก หลังรับตำแหน่งประธานกรรมการ สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง แนะเร่งฉีดวัคซีน สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ทางรอดเศรษฐกิจฟื้น ชี้นักธุรกิจต้องเร่งปรับตัวเร็วหาโมเดลธุรกิจใหม่ ก่อนจะถูกดิสรัปต์

วันที่ 22 มิถุนายน 2564 ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานกรรมการ บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวในงานแถลงข่าวสหกรุ๊ปแฟร์ ว่า ตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่ง ประธานกรรมการ สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา ยังไม่มีโอกาสได้ไปบรรยายที่ไหน ครั้งนี้จึงมีโอกาสสานต่อจากแม่ทัพใหญ่ “บุณยสิทธิ์ โชควัฒนา” ประธานเครือสหพัฒน์ มากล่าวถึงทิศทางการปรับเปลี่ยนธุรกิจในโลกที่ถูกดิสรัปต์

ดร.สมคิดฉายภาพสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจอย่างรุนแรงทั่วโลก ธุรกิจหยุดชะงัก ผู้คนตกงานจำนวนมาก ซึ่งหนทางเดียวที่จะเป็นทางรอดคือ เร่งพัฒนาวัคซีน และเร่งฉีดวัคซีน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่เพื่อให้สถานการณ์กลับมาสู่ภาวะปกติให้เร็วที่สุด

ขณะเดียวกันในช่วง 2 ปี โควิดได้เปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิตของผู้คน ที่อยู่บ้านมากขึ้น เพราะจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตทำให้เกิดความหวาดกลัว รวมไปถึงวิถีการทำงานที่บ้าน (Work From Home) ถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลาย สิ่งเหล่านี้ ทำให้เกิดทัศนะคติใหม่ขึ้นมา คือ ความปลอดภัยและสาธารณสุขเป็นสิ่งสำคัญ ผู้คนหลีกเลี่ยงการเดินทาง เศรษฐกิจหยุดชะงัก ผู้ประกอบการบางรายขาดรายได้ และล้มหายไปจากตลาด

แน่นอนว่า ยังมีธุรกิจจำนวนมากที่ประเมินสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย การดำเนินธุรกิจจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่ถ้ายังยึดกับแนวทางเดิม ๆ อาจจะยืนอยู่ไม่ได้ เพราะเหตุการณ์ที่เกิดการเปลี่ยนแปลงในลักษณะนี้ ในที่สุดจะถูกดิสรัปต์ ดังนั้น ผู้ประกอบการที่จะสามารถอยู่กับการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ จะต้องคิดโมเดลธุรกิจใหม่ ๆ (New Business) ควบคู่กับการพัฒนานวัตกรรมใหม่

นอกจากนี้ ผู้ประกอบการทุก ๆ ธุรกิจต้องปรับตัว เริ่มจากธุรกิจท่องเที่ยว ที่ผ่านมาจะมีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเวียนกันเข้ามามากกว่า 10 ล้าน คนต่อปี แต่จากนี้ ทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิม คนทั้งโลกยังได้รับวัคซีนไม่ทั่วถึง ธุรกิจท่องเที่ยวต้องปรับตัว เปลี่ยนจากการท่องเที่ยวเชิงปริมาณ มาเป็นเชิงคุณภาพ เพื่อยกระดับการท่องเที่ยวในประเทศ

รวมถึงธุรกิจร้านอาหาร ต้องปรับโมเดลการขายใหม่ เพราะโควิดทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน ทั้งผู้ประกอบการรายเล็ก และรายใหญ่ ต้องหันมาเพิ่มช่องทางขายออนไลน์ ในยุคนี้ทุกคนต่างบอกว่าลำบากแต่ออนไลน์กลับขยายตัว บางกิจการมียอดขายเพิ่ม 100%

“หัวใจสำคัญ วันนี้ต้องสามารถสร้างความแตกต่างด้วยต้นทุนที่ต่ำที่สุด ถ้าสามารถใช้เทคโนโลยี ข้อมูลลูกค้าเอามาวิเคราะห์เจาะลึกได้ ถ้ามีทีมงานในการขายออนไลน์ จะรู้จักลูกค้ามากขึ้น”

ดร.สมคิดตั้งคำถามและมีคำตอบในตัวว่า “สถานการณ์เช่นนี้ ผู้ผลิตจะอยู่เฉย ๆ หรือ? โลกคงไม่ง่ายเช่นนั้น ปัจจุบันผู้ผลิตจะต้องมีแพลตฟอร์มสินค้า มีทีมงานศึกษาวิเคราะห์สร้างกลยุทธ์การทำตลาดสื่อถึงลูกค้า อะไรสามารถพัฒนาได้เพื่อเอาชนะคู่แข่งและตอบสนองความต้องการผู้บริโภคได้”

ดร.สมคิดกล่าวต่อว่า วันนี้ผู้คนสามารถเข้าถึงการช็อปออนไลน์ ทำให้รีเทลสร้างแพลตฟอร์มสื่อกับลูกค้าได้โดยตรง ถือเป็นหัวใจในการทำธุรกิจ ไม่สามารถพึ่งพาเพียงแค่ผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ ผู้ผลิต จะไม่อยู่เฉย ๆ โลกคงไม่ง่ายเช่นนั้น ปัจจุบันเคล็ดลับสำคัญ ผู้ผลิตจะต้องมีแพลตฟอร์มสินค้า มีทีมงานนำเทคโนโลยีมาศึกษาวิเคราะห์ สร้างกลยุทธ์การทำตลาด เพื่อเอาชนะคู่แข่งและตอบสนองความต้องการผู้บริโภคได้ และธุรกิจต้องใกล้ชิดกับลูกค้า ในการบริหารจัดการซัพพลายเชน ตั้งแต่ ต้นน้ำ ไปจนถึงปลายน้ำ  ซึ่งอาจร่วมกับพาร์ตเนอร์ทำงานร่วมกัน ตั้งแต่วัตถุดิบส่งสินค้า การจำหน่าย และการชำระเงินในอนาคต

เช่นเดียวกับสหกรุ๊ป ปีนี้ก้าวเข้าสู่ 25  ปี ที่มีงานสหกรุ๊ปมา โดยปีที่ผ่านมา และปี 2564 นี้ หันมาเน้นการจัดงานผ่านช่องทางออนไลน์ ถือเป็นการปรับตัว และเพื่อสร้างความสัมพันธ์กับผู้ประกอบการและลูกค้า


ดร.สมคิดกล่าวตอนท้ายว่า “ภายใต้วิกฤต ยังเป็นโอกาสให้คนที่คิดเป็น ปรับตัวได้เร็ว ไม่เช่นนั้นจะถูกดิสรัปต์ และจะหายไปจากวงการ และที่สำคัญ ประชาชน เอกชน ไปจนถึงรัฐบาล ต้องตระหนักในการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ”