“อภ.” ส่งร่างสัญญาซื้อโมเดอร์นา ให้อัยการสูงสุด หลังหมอบุญแฉ

วัคซีนโมเดอร์นาจ่อเข้าไทย
ภาพจาก มติชน

หมอบุญ รพ.ธนบุรี โทรติดต่อไปทางบริษัทผู้ผลิต “โมเดอร์นา” ได้คำตอบล่าช้า เพราะรัฐบาลไทยไม่เซ็นสัญญา อภ.ส่งร่างสัญญาให้อัยการแล้ววันนี้

วันที่ 2 กรกฎาคม 2564 นายแพทย์บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์ แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG เปิดเผยผ่านรายการ เรื่องเล่าเช้านี้ ผ่านทางช่อง 3 ถึงกรณีการนำเข้าวัคซีนโมเดอร์นา และไฟเซอร์ที่ล่าช้า ว่า การสั่งซื้อวัคซีนนั้น ผู้ผลิตระบุว่าหลังจากเซ็นสัญญาแล้ว จะใช้เวลาอีก 4 เดือน ถึงจะส่งวัคซีนไปยังประเทศที่ซื้อได้ ถ้าไม่ติดเงื่อนไขจากรัฐบาล รพ.ธนบุรี พร้อมจะเซ็นซื้อโมเดอร์นา ไฟเซอร์ 50 ล้านโดส ตั้งแต่ตุลาคม 2563 แล้ว แต่การซื้อขายจำเป็นต้องซื้อรัฐต่อรัฐ ทำให้เอกชนซื้อไม่ได้ ต้องรอจนปัจจุบัน

ทั้งยังระบุว่า เมื่อเดือนเมษายน มีการยืนยันทั่วโลกแล้วจากผลการศึกษาว่าวัคซีน mRNA ดีที่สุด ช่วยคุ้มกันไม่ให้เกิดโรคได้ ทุกสายพันธุ์ ไม่ได้แค่ป้องกันเสียชีวิต ส่วนซิโนแวค ประเทศที่ใช้ ล้มตายจำนวนมาก ติดเชื้อเยอะ หากเทียบกับ mRNA ถ้าจะจัดเกรดวัคซีนนั้น วัคซีนซิโนแวค เป็นวัคซีนเกรด ซี ภูมิขึ้นน้อย ฉีดไป 4-5 สัปดาห์ ภูมิลดลง ต้องกระตุ้นโดยการฉีดเข็มสาม แอสตร้าฯ ก็ต้องกระตุ้น

ส่วนเรื่องการซื้อวัคซีนที่ล่าช้านั้น หมอบุญได้เปิดเผยว่า ได้ติดต่อไปทางบริษัทผู้ผลิต เนื่องจากสนิทกัน ด้วยความสงสัยว่าทำไมประเทศอื่น ๆ ในเอเชีย อย่าง ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ ถึงได้แล้ว แต่ไทยไม่มีสักโดส จึงโทรศัพท์ไปที่ไฟเซอร์ โมเดอร์นา ที่สนิทเป็นการส่วนตัว โดยได้คำตอบว่า ไทยไม่ยอมเซ็นสัญญา

นพ.บุญกล่าวว่า ณ ขณะนี้ยังไม่เซ็นเลย ทางเราสงสัย ทำไมนาน และยินดีจะเอาเงินไปวางไว้ให้ ไม่ให้องค์การเภสัชกังวลว่าสั่งแล้วไม่เอา องค์การเภสัชเพิ่งส่งจดหมายให้เรายืนยันว่าจะซื้อเท่าไหร่ ซึ่งเรายืนยันไปแล้วตั้งแต่เมษายน ถ้า 5 ล้านโดส ยินดีเอาเงินวางให้ และ รพ.เอกชนแห่งไหนอยากซื้อเราก็จะแบ่งให้

“ไฟเซอร์ยังไม่เซ็น อาเซียนได้เกือบครบแล้ว คำถามคือ ทำไม ผมก็โทร.ไปต่อว่า ประธานนี่สนิทกัน ก็โทร.ไปทั้งทูตสหรัฐ ไฟเซอร์ โมเดอร์นา ว่าคุณเห็นประเทศไทยเป็นอย่างไร เราเป็นเพื่อนที่ดีกับคุณมาตลอด ในขณะเดียวกัน ทำไมคุณให้เราน้อย และช้ากว่าประเทศอื่นค่อนข้างเยอะ เขาตอบว่าทางเราไม่เซ็นสัญญา ถ้าเซ็นแล้วเขานับ 1 นี่คือจุดสำคัญ”

อัยการสูงสุด เผยยังไม่ได้ร่างสัญญา

จากนั้นในวันเดียวกัน สำนักงานอัยการสูงสุด ชี้แจงกรณีการตรวจร่างสัญญาจัดซื้อวัคซีนโมเดอร์นา ระบุว่า ตามที่มีบุคคลให้ข่าวทางสื่อมวลชนว่า สัญญาจัดซื้อวัคซีนโมเดอร์นายังไม่สามารถดำเนินการใด ๆ ได้ เพราะองค์การเภสัชกรรมยังไม่ได้เซ็นสัญญาจัดซื้อวัคซีนโมเดอร์นากับผู้ขาย เพราะการตรวจร่างสัญญาจัดซื้อวัคซีนโมเดอร์นายังคงค้างอยู่ที่สำนักงานอัยการสูงสุดเป็นเวลาหลายเดือนแล้วนั้น สำนักงานอัยการสูงสุดขอชี้แจงดังนี้

  1. ข่าวดังกล่าวไม่มีมูลความจริง เพราะไม่เคยมีหน่วยงานใดหรือองค์กร ส่งร่างสัญญาเกี่ยวกับการจัดซื้อวัคซีนโมเดอร์นาให้กับสำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณาตรวจร่างแต่อย่างใด
  2. ที่ผ่านมาสำนักงานอัยการสูงสุดเคยได้รับการร้องขอจากองค์การเภสัชกรรม ให้ตรวจร่างสัญญาจัดซื้อวัคซีนซิโนแวค ซึ่งสำนักงานอัยการสูงสุดได้พิจารณาตรวจร่างสัญญาให้กับองค์การเภสัชกรรมแล้วเสร็จภายใน 1 วัน และสำนักงานอัยการสูงสุดได้รับการร้องขอจากสถาบันวัคซีนแห่งชาติ และกรมควบคุมโรคให้ตรวจร่างสัญญาจัดซื้อวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งทั้งสองสัญญาสำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณาตรวจร่างสัญญาให้กับสองหน่วยงานดังกล่าวแล้วเสร็จภายใน 5 วัน เท่านั้น โดยการพิจารณาตรวจร่างสัญญาดังกล่าวข้างต้น สำนักงานอัยการสูงสุดได้ดำเนินการอย่างรอบคอบ รัดกุมและรวดเร็ว เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศชาติ และประชาชนเป็นสำคัญ

สำนักงานอัยการสูงสุดได้ตระหนักในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่สังคมไทยเรากำลังเผชิญอยู่และเห็นว่าเป็นสถานการณ์ที่ทุกคนในสังคมจะต้องร่วมมือร่วมใจในการฟันฝ่าปัญหาและอุปสรรคดังกล่าวให้ล่วงพ้นไป สำนักงานอัยการสูงสุดจึงให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าวนี้เป็นอันดับแรก

อภ.ส่งร่างสัญญาให้อัยการแล้ววันนี้

นายแพทย์วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) เปิดเผยความคืบหน้านำเข้าวัคซีนโมเดอร์นาว่า วานนี้ (1 ก.ค.) ได้มีการประชุมหารือร่วมกันระหว่างองค์การเภสัชกรรม กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ สมาคมโรงพยาบาลเอกชน และบริษัทซิลลิค ฟาร์มา จํากัด มีข้อสรุปดังนี้

บริษัทซิลลิคฯ ซึ่งเป็นตัวแทนของโมเดอร์นาในต่างประเทศเพียงผู้เดียวโดยชอบธรรม ทำหน้าที่เป็นผู้นำเข้าและขึ้นทะเบียนวัคซีนโมเดอร์นาในประเทศไทย ได้รับคำยืนยันจากบริษัทว่า ในช่วงแรกวัคซีนที่จะนำเข้ามาในไตรมาส 4/2564 และไตรมาสที่ 1/2565 รวมจำนวน 5 ล้านโดส

ส่วนร่างสัญญาจัดหาสินค้า (Supply Agreement) ได้ส่งให้อัยการสูงสุดแล้วเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ ( 2 ก.ค.) หลังจากนั้นจะมีการลงนามสัญญาจัดหาสินค้า (Supply Agreement) กับบริษัทซิลลิค ฯ ตามกำหนดเดิมต้นเดือนสิงหาคม 2564 โดยในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ ได้ให้โรงพยาบาลเอกชนแจ้งจำนวนวัคซีน พร้อมงบประมาณให้กับองค์การเภสัชกรรม

“ขอย้ำว่า การจัดหาวัคซีนทางเลือกโมเดอร์นานี้ เป็นการดำเนินการร่วมกัน 3 หน่วยงานหลัก คือ บริษัทซิลลิค ฟาร์มา จํากัด องค์การเภสัชกรรม และสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งเป็นองค์กรตัวแทนโรงพยาบาลเอกชนทั่วประเทศ มีสมาชิกอยู่ประมาณ 390 โรงพยาบาล


โดยมีการประชุมหารือและแจ้งให้ทราบถึงข้อตกลง เงื่อนไข ข้อจำกัด ที่จะได้มาซึ่งวัคซีนดังกล่าว ตลอดจนแนวทางการดำเนินทุกขั้นตอนมาอย่างต่อเนื่อง”