
กว่า 20 ปีของการบุกเบิกปลุกปั้น “คาราบาวแดง” ภายใต้การกุมบังเหียนของคีย์แมนคนสำคัญอย่าง “เสถียร เศรษฐสิทธิ์” จนรายได้ทะลุกว่า 1.7 หมื่นล้านบาท แตกไลน์ธุรกิจที่เกี่ยวข้องมากมาย ทั้งกาแฟ น้ำดื่ม เครื่องดื่มเกลือแร่ ไปจนถึงซีเจ ซูเปอร์มาร์เก็ต พร้อมสยายปีกในต่างประเทศต่อเนื่อง
ทำให้ชื่อของคาราวบาวผงาดในหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะปรากฏการณ์แบรนดิ้งระดับโลกด้วยการ title sponsor หรือสปอนเซอร์ชื่อรายการแข่งขันพร้อมเปลี่ยนชื่อเป็น “คาราบาวคัพ” ในปี 2016 โทรฟี่ของกีฬาฟุตบอลที่คนทั้งเกาะอังกฤษและทั่วโลกคลั่งไคล้
“เสถียร” สวมหมวกประธานกรรมการ บริษัท ทีดี ตะวันแดง จำกัด เปิดโมเดลการทำธุรกิจโชห่วยยุคใหม่ ผ่านเอ็กซ์คลูซีฟทอล์ก “ร้านถูกดี มีมาตรฐาน : ร้านค้าของชุมชน โดยชุมชน เพื่อชุมชน” ในงานสัมมนาเส้นทางเศรษฐี จัดโดยเครือมติชน เมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา
“เสถียร” ฉายภาพที่มาของร้านถูกดี มีมาตรฐาน ว่า จากจุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจคาราบาว กรุ๊ป มากว่า 20 ปี ทำให้ได้เห็นมุมมองหลายด้าน โดยเฉพาะธุรกิจโชห่วยของไทย 3-4 แสนร้านค้าทั่วประเทศ ที่ตกอยู่ในภาวะวิกฤต บางร้านยังเปิดให้บริการอยู่
ขณะที่อีกหลายร้านค้าก็ล้มหายตายจากไปตามกาลเวลา แสดงให้เห็นว่าร้านค้าโชห่วยซึ่งเป็นธุรกิจฐานรากของประเทศอ่อนแอลงไปเรื่อย ๆ สะท้อนขีดความสามารถของร้านค้าเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในสภาพที่จะแข่งขันกับร้านค้าปลีกสมัยใหม่ได้เลย และอนาคตอาจจะสะเทือนไปยังธุรกิจของประเทศทั้งระบบ
โมเดล “กินแบ่ง” ความยั่งยืนโชห่วยไทย
จึงเกิดเป็นโมเดลโชห่วยสมัยใหม่ในชื่อ “ร้านถูกดี มีมาตรฐาน” ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยเหลือร้านค้าโชห่วยในชุมชนในคอนเซ็ปต์ “โลว์คอสต์ คอนวีเนี่ยนสโตร์” เพื่อฟื้นคืนชีพร้านค้าชุมชนหรือร้านค้าโชห่วยที่คุ้นเคยของคนไทย ผ่านจุดสำคัญที่ทุกอย่างต้องโลว์คอสต์ เพื่อเพิ่มอำนาจทางการแข่งขันให้ร้านค้าในชุมชนของไทย ยกระดับมาตรฐานร้านให้ทันสมัย สนับสนุนด้านองค์ความรู้ และเทคโนโลยีการบริหารจัดการร้าน ภายใต้โมเดล “ร้านค้าของชุมชน โดยชุมชน เพื่อชุมชน”
“โมเดลร้านถูกดี มีมาตรฐานไม่ใช่แฟรนไชส์ จะไม่เรียกร้านค้าเครือข่ายของบริษัทว่าแฟรนไชส์ เพราะทุกร้านยังเป็นเจ้าของคนเดิม ร้านเดิม แต่เรามองว่าทุกร้านที่สนใจโมเดลดังกล่าวคือพาร์ตเนอร์หรือพันธมิตรทางธุรกิจ
เพียงแค่จะมีชื่อ ร้านถูกดี มีมาตรฐาน ต่อท้ายด้วยชื่อเดิม เพื่อการันตีสินค้า ราคา และมาตรฐานต่าง ๆ โดยนิยามที่จะทำให้ร้านแข็งแรงหัวใจสำคัญคือ ธุรกิจต้องกินแบ่ง 3 ฝ่ายหลักต้องอยู่ร่วมกัน
คือ บริษัท, พาร์ตเนอร์ ที่ต้องมีรายได้ที่เหมาะสมเพียงพอเลี้ยงชีวิต และซัพพลายเออร์ ที่ทำหน้าที่จัดส่งสินค้า ที่ต้องเอื้อต่อกันเป็นมิตรที่ดีต่อกัน อยู่ในจุดที่สามารถแข่งขันและไปด้วยกันได้”
“เราไม่คิดจะทำเอง ด้วยรูปแบบธุรกิจ (business model) แม้บริษัทจะเข้าไปดำเนินการเอง 100% แต่ก็ใช่ว่าจะสามารถบริหารงานให้เติบโตยั่งยืนไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะว่าจะต้องจ้างคน 2-3 คนต่อแห่งเป็นอย่างน้อย
ซึ่งหากคิดง่าย ๆ พนักงาน 1 คน เงินเดือน 15,000 บาท แค่พนักงาน 2 คน เท่ากับต้นทุน 30,000 บาท และเมื่อรวมกับค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ต้องมีต้นทุนดำเนินงาน 40,000-50,000 บาทต่อแห่ง แต่กลับกันร้านค้าโชห่วยไม่ต้องจ้างคน
ร้านค้าโชห่วยโดยปกติมีรูปแบบการดำเนินงานคือธุรกิจครอบครัว ตั้งแต่พ่อ แม่ ปู่ ย่า ลูก ที่เวียนกันเข้ามาช่วยงานในครอบครัว ดังนั้น จึงนำจุดแข็งตรงนี้มาต่อยอดมากกว่า”
แต่บริษัทจะให้ความช่วยเหลือในส่วนของอุปกรณ์ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ ทั้งด้วยการเอาสินค้าวางให้เต็มร้าน ชั้นวาง อุปกรณ์ต่าง ๆ อาทิ ตู้เย็น ตู้แช่ เครื่องคิดเงิน ระบบพรินเตอร์ กล้องวงจรปิด ป้ายหน้าร้าน
โดยบริษัทจะเข้าไปลงทุนให้กว่า 1 ล้านบาทต่อแห่ง โดยเจ้าของร้านมีหน้าที่ตกแต่งร้านให้ได้มาตรฐานตามต้องการ ทั้งเรื่องไฟ ความสว่าง สี แต่จะมีการวางเงินค้ำประกัน 2 แสนบาท
จากนั้นสิ้นเดือนจะมีการหักกำไรและส่งเงินคืนเพื่อหลักประกันการตั้งใจทำงานร่วมกัน แสดงถึงความตั้งใจจริงของร้านค้า แต่หากรายได้มีความตั้งใจแต่ยังไม่มีเงินทุน
บริษัทก็พร้อมซัพพอร์ตด้วยการเจรจากับธนาคารกสิกรไทยในการให้ร้านค้าสามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ 5-6% เพื่อรองรับ ก่อนจะขยายไปยังธนาคารอื่น ๆ เพิ่มเติมในเดือนหน้า
ปูพรม 5 หมื่นสาขาปี 2566
คีย์แมนคนสำคัญของคาราบาวกรุ๊ปยังบอกอีกว่า แม้ทุกวันนี้ “ร้านถูกดี มีมาตรฐาน” จะเริ่มเป็นที่รู้จักกันดีในต่างจังหวัด และในกรุงเทพฯจะมีเพียงกว่า 10 ร้านค้า จากปัจจุบันร้าน “ถูกดี มีมาตรฐาน” มีสาขาทั้งสิ้น 1,200 สาขาทั่วประเทศ
หากแต่แผนงานระยะยาวของร้านถูกดี มีมาตรฐาน ต่อจากนี้คือการปั้นโชห่วยไทยให้เข้มแข็งในระยะยาวด้วย โดยวางเป้าหมายขยายเพิ่ม 8,000 สาขาในสิ้นปี 2564 ขณะที่สิ้นปี 2565 จะมีสาขาทั้งหมด 30,000 แห่ง ก่อนจะเพิ่มเป็น 50,000 แห่งในปี 2566
“ขณะนี้มีร้านค้ามาขอสมัครเข้าร่วมกับเรากว่า 9,000 แห่ง และมีเข้าเกณฑ์อยู่ระหว่างการรอเปิดอีกกว่า 2,000 ร้านค้า ซึ่งส่วนที่เหลือยังติดปัญหาเรื่องโควิด-19 ที่ทำให้สามารถขยับได้ช้า โดยในส่วนของภาคใต้ยังชะลอแผนงานไว้ก่อน
และคาดว่าจะเริ่มดำเนินงานได้ในช่วงปลายปีหลังสถานการณ์โควิดเบาบางลง โดยจะเริ่มจากการสร้างคลังสินค้าในเขตภาคใต้ เพื่อสร้างความสะดวกในการกระจายสินค้า”
นอกจากนี้ยังมีแผนเพิ่มคลังสินค้าอย่างต่อเนื่อง จากปัจจุบันมีอยู่ 4 แห่งที่ จ.ขอนแก่น, อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา, จ.นครสวรรค์ และ จ.ชลบุรี ภายในปลายปี 2564 จะเปิดเพิ่มอีก 4 แห่ง เพื่ออำนวยความสะดวกในการจัดส่งสินค้าให้ร้านค้าได้ทันเวลา
สำหรับยอดขายของร้านค้าพาร์ตเนอร์หลังเปิดร่วมกับบริษัทมากกว่า 3 เดือน พบว่ามียอดขายเฉลี่ย 15,000 บาทต่อวัน บางร้านขายดีเฉลี่ยยอดขายวันละ 70,000 บาท หรือ 2 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งหากพาร์ตเนอร์มีรายได้ไม่ตรงตามเป้าที่กำหนดไว้ บริษัทก็จะมีส่งเจ้าหน้าที่ไปช่วยในเรื่องของกิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อผลักดันรายได้
แต่ในระยะยาวการที่ร้านถูกดี มีมาตรฐาน จะเดินไปสู่เป้าหมายได้ จะต้องอาศัยพลังในการเป็นเจ้าของ ควบคู่กับเทคโนโลยีในการบริหารจัดการ ซึ่งจะค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนไปตามสภาพธุรกิจในอนาคตข้างหน้า สร้างพลังความภูมิใจให้แก่ร้านค้า สร้างการบอกต่อ สะท้อนภาพพลังความน่าเชื่อถือแก่ร้านค้า
โดยมีหัวใจสำคัญคือเรื่องของแบรนดิ้ง (branding) ซึ่งจะต้องทำร่วมกันทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งร้านค้าและบริษัท เพื่อให้ผู้บริโภคจดจำการเข้าร้าน จนนำไปสู่สินค้าที่ดีมีเอกลักษณ์ถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องทำให้เกิดขึ้น
โควิด บทเรียนอยู่ร่วมกันอย่างสมดุล
“เสถียร” มองว่า “วิกฤตครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งบทเรียนชิ้นใหญ่ที่ทำให้เห็นหลายสิ่งชัดขึ้น นั่นคือมนุษย์ไม่ใช่ผู้ยิ่งใหญ่ที่กำหนดทุกอย่าง หากแต่ธรรมชาติยิ่งใหญ่กว่ามากนัก ดังนั้น การจะทำอะไรต้องนึกถึงธรรมชาติ อยู่ภายใต้สมดุลของธรรมชาติที่จะนำพาโลกมาถึงทุกวันนี้
เช่นเดียวกับในองค์กรถึงบริษัทจะมีธุรกิจที่ต้องดูแลอยู่มาก และสามารถไปได้ดี แต่ก็ต้องระมัดระวังและอย่าลืมว่ายังมีสิ่งที่ยังมองไม่เห็นอยู่อีกมาก ที่จะต้องระวังต่อการดำเนินกิจการอะไรต่าง ๆ”
ท้ายที่สุดความสุขของการทำร้านถูกดี มีมาตรฐาน คือ ชีวิตของคนเราเมื่อทำอะไรแล้ว เราสามารถเป็นผู้ให้ และได้รับพลังจากคนหนุ่มสาวจำนวนมากเข้ามาร่วมทำงานด้วย เพื่อปลุกปั้นธุรกิจโชห่วยของไทย แบ่งปันสู่รายเล็กรายน้อยในสังคม ด้วยการใช้เทคโนโลยี เพื่อผลักดันธุรกิจคู่คนไทยให้ทันยุคสมัยตามกาลเวลา