ไมเนอร์ฯร่อน จม.เปิดผนึกถึงผู้ว่าฯ กทม.ขอให้เริ่มขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร-โรงแรม ตั้งแต่ 1 พ.ย. หวังตอบโจทย์นักเดินทางเพื่อธุรกิจและนักท่องเที่ยวต่างชาติรับดีเดย์เปิดประเทศ พร้อมย้ำต้องมีมาตรการสร้างความเชื่อมั่นในเมืองท่องเที่ยวสำคัญ
นายวิลเลียม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค ประธานกรรมการ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจโรงแรม เช่น อนันตรา, อวานี ฯลฯ และร้านอาหาร อาทิ เดอะ พิซซ่า คอมปะนี, บอนชอน และอื่น ๆ กล่าวว่า การดื่มแอลกอฮอล์มีบทบาทสำคัญที่ช่วยสร้างความพึงพอใจและประสบการณ์ที่รื่นรมย์ในการมาเยือนของนักเดินทางเพื่อธุรกิจและนักท่องเที่ยว
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
อีกทั้งรายได้จากการจำหน่ายแอลกอฮอล์ยังเป็นสัดส่วนสำคัญของรายได้ในธุรกิจร้านอาหารและโรงแรม การผ่อนคลายข้อจำกัดจะช่วยเพิ่มรายได้ของธุรกิจโดยรวมในประเทศไทยและพนักงานนับล้านคนที่ทำธุรกิจเหล่านี้ว่าจ้าง
จึงขอให้พลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พิจารณาการเริ่มจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบบขายปลีกให้กับนักท่องเที่ยวในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเร็วขึ้นเพื่อรองรับการเปิดประเทศ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป
ขณะเดียวกัน ประธานกรรมการ บริษัทไมเนอร์ฯ ยังเสนอว่า หากไม่สามารถยกเลิกข้อจำกัดทั้งหมดได้ ขอให้พิจารณายกเลิกข้อจำกัดเฉพาะในสถานประกอบการที่ให้บริการนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย หรืออย่างน้อยธุรกิจที่ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานความปลอดภัยและสุขภาพ (SHA+) ควรได้รับอนุญาตให้กลับมาให้บริการลูกค้าด้วยบริการที่ครบวงจร
“ผมตระหนักดีว่าภาครัฐอาจมีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่ควรที่จะแยกแยะถึงความแตกต่างของสภาวะและสภาพแวดล้อมของการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยผู้ที่บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารและโรงแรมที่เป็นสัดเป็นส่วนและมีมาตรการสุขอนามัยที่ดี ส่วนใหญ่จะมีความรับผิดชอบแตกต่างจากสภาพแวดล้อมที่มีความแออัดภายในสถานบันเทิง เช่น บาร์ ผับ คลับ ฯลฯ”
พร้อมกันนี้นายวิลเลียม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค ยังย้ำว่า ควรมีการดำเนินการเพื่อปกป้องสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ เช่น กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต และสมุย จากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งเพิ่มความพยายามในการเร่งฉีดวัคซีนให้กับผู้ที่อาศัยอยู่ในบริเวณพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลทุกคน
ส่วนนักท่องเที่ยวที่เดินทางจากจังหวัดอื่น ๆ เข้ามายังกรุงเทพมหานคร หรือแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในจังหวัดต่าง ๆ ควรแสดงผลการตรวจโควิด-19 แบบ RT-PCR/ATK ที่เป็นลบ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติถึงมาตรการการป้องกันโรคโควิด-19 และยังเป็นการป้องกันชาวไทยที่ยังไม่ได้รับวัคซีนไปพร้อมกัน