รพ.ธรรมศาสตร์ฯ ยุตินำเข้าโมเดอร์นาจากโปแลนด์ สรุปจบใน 6 ข้อ

สรุปดราม่า รพ.ธรรมศาสตร์ ยุติการนำเข้าโมเดอร์นาโปแลนด์ 1.5 ล้านโดส

สรุปประเด็น ปมโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ยุติการนำเข้าวัคซีนโมเดอร์นา ลอตบริจาคจากโปแลนด์ 1.5 ล้านโดส 

วันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความพยายามของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ในการนำเข้าวัคซีนโมเดอร์นาลอตบริจาคจากโปแลนด์ จำนวน 1.5 ล้านโดส ได้รับความสนใจจากสังคมในช่วง 1-2 สัปดาห์ก่อน กระทั่งเรื่องราวเดินมาถึงบทสรุปในวันนี้

“ประชาชาติธุรกิจ” สรุปข้อมูลตั้งแต่ต้นจนจบ ใน 6 ข้อ ดังนี้

1.ประเด็นนี้มีจุดเริ่มต้นเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม เมื่อ องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อมธ.)ได้ทำหนังสือ ขอความอนุเคราะห์ในการจัดสรรวัคซีนโมเดอร์นาให้แก่นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ไปถึงรองอธิการบดีฝ่ายการนักศึกาษา (ผ่านผู้อำนวยการโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ)

โดยทาง อมธ. ให้เหตุผลว่า เพื่อให้นักศึกษาสามารถกลับไปเรียนได้แบบปกติ เพื่อนำไปสู่การเรียนและการสอบที่มีคุณภาพ จึงขอความอนุเคราะห์โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ในการจัดสรรวัคซีนโมเดอร์นา 3 ล้านโดส ที่ได้บริจาคจากประเทศโปแลนด์บางส่วนให้กับนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

2. วันเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศ ออกหนังสือด่วนที่สุดถึงอธิบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เรื่องการนำเข้าวัคซีนโมเดอร์นา (บริจาค) จากโปแลนด์ มายังมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยระบุว่า การบริจาควัคซีนโมเดอร์นาจากโปแลนด์ ไม่ใช่การบริจาคในลักษณะรัฐต่อรัฐ กระทรวงการต่างประเทศไม่ได้รับแจ้งอย่างเป็นทางการ

จึงเห็นว่า การติดต่อโดยตรงระหว่าง หน่วยงานผู้บริจาควัคซีนของโปแลนด์ และหน่วยงานผู้รับบริจาควัคซีนในไทย จะเหมาะสมกว่า

พร้อมเสนอแนะให้ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์พิจารณาหารือกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบโดยตรงเกี่ยวกับกระบวนการนำวัคซีนดังกล่าวเข้าประเทศไทย รวมทั้งประเด็นอื่น ที่เกี่ยวข้อง เช่น ประเด็นการชดเชยความเสียหาย (indemnity) ฯลฯ

3. หลังการรายงานของสื่อ ซึ่งอาจทำให้ผู้อ่านบางคนเข้าใจว่า กระทรวงต่างประเทศเบรกการบริจาค หรือนำเข้าวัคซีนโมเดอร์นาจากโปแลนด์ให้แก่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กระทรวงต่างประเทศจึงออกมาชี้แจงอีกครั้งว่า ข่าวคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง

พร้อมแจงรายละเอียดเรื่องการบริจาควัคซีนโมเดอร์นาของโปแลนด์ว่า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้รับแจ้งจากองค์กร RZADOWA AGENCIA REZERW STRATEGICZNYCH (RARS) ซึ่งเป็นองค์กรของโปแลนด์ที่มีหน้าที่ดูแลเรื่องวัคซีนในการป้องกันไวรัสโควิด-19 ว่ามีความประสงค์บริจาควัคซีนโมเดอร์นา จำนวน 3,000,000 โดส และต่อมาแจ้งเพิ่มเติมว่ามีความพร้อมที่จะจัดส่งวัคซีน 1,500,000 โดส

ทั้งสองหน่วยงานได้หารือเรื่องการบริจาควัคซีนโดยตรงตั้งแต่แรก ยืนยันว่ากระทรวงการต่างประเทศไม่เคยขัดขวางการหารือในรูปแบบใด ๆ

ปิดท้ายว่า กระทรวงการต่างประเทศไม่เคยได้รับการยืนยันเรื่องการบริจาคนี้ ในระดับรัฐบาลผ่านกระทรวงการต่างประเทศโปแลนด์ หรือสถานเอกอัครราชทูตโปแลนด์ประจำประเทศไทย โดยสถานะล่าสุดที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอ ได้รับแจ้งจากกระทรวงการต่างประเทศโปแลนด์คือ หน่วยงานต่าง ๆ ของโปแลนด์ยังหารือกันอยู่ในเรื่องการบริจาคนี้ โดยที่การบริจาคในระดับรัฐบาลยังไม่ได้รับการยืนยัน

4. จากนั้น กรมควบคุมโรค โดย นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่ทราบถึงเงื่อนไขการบริจาควัคซีนลอตดังกล่าว แต่เท่าที่ทราบคือ ไม่ได้เป็นการบริจาคระหว่างหน่วยงานรัฐกับหน่วยงานรัฐ ส่วนหนังสือที่ กระทรวงการต่างประเทศส่งคำแนะนำให้กับทางมหาวิทยาลัย โดยใช้คำว่า “อาจจะ” ปรึกษากรมควบคุมโรคได้นั้น

“ตามข้อเท็จจริงแล้ว เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นในส่วนของภาคเอกชน ไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล แต่เรายินดีให้คำปรึกษา หากเขาขอคำปรึกษามา แต่ตอนนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อใด ๆ มาเลย ยืนยันว่าหากสามารถนำเข้ามาได้ ก็ให้ดำเนินการได้ โดยไม่มีการขัดข้องใด ๆ” นพ.โอภาสกล่าว

อธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าวอีกว่า การบริจาควัคซีนระหว่างภาคเอกชนนั้น จะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขด้วย แต่วัคซีนไม่ใช่สินค้าทั่วไป จึงต้องคำนึงถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการเก็บรักษาวัคซีน พร้อมกล่าวว่า หากเป็นการบริจาคโดยรัฐต่อรัฐ คณะรัฐมนตรีจะเป็นผู้รับผิดชอบ แต่เมื่อเป็นเอกชนกับเอกชน ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งต้องหาคำตอบให้ได้

5. ต่อมา วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊กว่า เข้าใจกระบวนการนำเข้าวัคซีนว่ามีหลายขั้นตอน แต่จากการตอบกลับของกระทรวงการต่างประเทศที่เน้นบอกแต่ข้อจำกัดและเงื่อนไขติดขัด พร้อมให้โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ไปติดต่อหน่วยงานต่าง ๆ เอง โดยไม่อาสาช่วยประสานงาน

กระทรวงสาธารณสุข ก็ไม่มีท่าทีจะช่วยดำเนินการนำเข้า ทั้งที่เป็นเรื่องจำเป็นต่อชีวิตประชาชน รัฐบาลยังใช้วิธีโบราณของระบบราชการที่ผลักความรับผิดชอบกันไปมา โดยไม่คำนึงถึงความรีบเร่งของสถานการณ์และประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน ชี้ด้วยว่าเป็นการซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนกฏระเบียบในการนำเข้าวัคซีนในสถานการณ์ฉุกเฉินให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเน้นการตรวจสอบคุณภาพ ลดขั้นตอนทางธุรการและเอกสาร

6. ล่าสุดวันนี้ (2 พ.ย.) โรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ แจ้งว่า ได้ยุติการนำเข้าวัคซีนโมเดอร์นาจากโปแลนด์แล้ว เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม โดยจะไม่มีการส่งมอบวัคซีนใด ๆ ตามที่ประสานงานไว้ ทั้งยังแจ้งด้วยว่า ภาคเอกชนผู้แทนธรรมศาสตร์ได้ประสานงานกับบริษัทผู้ผลิตวัคซีนไว้เรียบร้อยทุกฝ่ายแล้ว โดยกำหนดส่งออกจากสนามบินโปแลนด์ในวันที่ 28 ตุลาคม 2564

แต่ต่อมาได้รับการประสานงานจากผู้บริจาควัคซีนว่า ผู้บริจาคประสงค์จะให้รัฐบาลไทยเป็นผู้แทน แจ้งแสดงเจตนารับบริจาควัคซีนโมเดอร์นา จำนวน 1.5 ล้านโดสไปยังรัฐบาลโปแลนด์อย่างเป็นทางการ เพื่อยืนยันว่ารัฐบาลไทยยินดีรับบริจาควัคซีนดังกล่าว

ธรรมศาสตร์จึงได้ทำหนังสือถึงกระทรวงการต่างประเทศให้ช่วยประสานการดำเนินการดังกล่าวให้ โดยการออกจดหมายยืนยัน โดยได้แจ้งกับผู้แทนของกระทรวงชัดเจนว่า หน้าที่ในการตรวจรับรองวัคซีนและการดำเนินการขนส่งและประกันภัยจะเป็นความรับผิดชอบดำเนินการของธรรมศาสตร์เอง

หลังจากนั้นธรรมศาสตร์ได้รับแจ้งเป็นหนังสือจากกระทรวงต่างประเทศว่า เมื่อธรรมศาสตร์ซึ่งมีอำนาจดำเนินการได้ตามข้อบังคับที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ได้เป็นผู้เจรจาตกลงกับหน่วยงานของรัฐในโปแลนด์อยู่แล้ว เห็นควรให้ธรรมศาสตร์เป็นผู้ดำเนินการเองต่อไป และเพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบรับรองคุณภาพวัคซีน ธรรมศาสตร์ควรจะหารือกับกรมควบคุมโรคของประเทศไทยโดยตรง

เมื่อไม่สามารถได้รับจดหมายจากกระทรวงการต่างประเทศเพื่อแจ้งยืนยันการยินดีรับบริจาค ไปยังรัฐบาลโปแลนด์โดยตรง เพื่อรับรองการประสานงานกับธรรมศาสตร์ ซึ่งมีฐานะเป็นเพียงหน่วยงานของรัฐในประเทศไทยภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2564 ธรรมศาสตร์จึงไม่สามารถยืนยันสถานะของตัวเองว่าเป็นตัวแทนในการรับบริจาคในนามของรัฐบาลไทยได้


และเมื่อเป็นเช่นนั้น การเจรจาติดต่อ และการทำความตกลงในเรื่องวัคซีนโมเดอร์นา ที่จะขอรับบริจาคจากโปแลนด์ในครั้งนี้ จึงจำต้องยุติลง และสำนักงานสำรองทางยุทธศาสตร์ของรัฐบาลโปแลนด์ คงจะดำเนินการเกี่ยวกับวัคซีนที่โมเดอร์นาจำนวน 1.5 ล้านโดสนี้ ตามที่เห็นสมควรต่อไป