เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ซื้อหุ้นเถ้าแก่น้อย 5%

เมเจอร์ เถ้าแก่น้อย

“เมเจอร์ฯ” ควักกว่า 500 ล้าน ซื้อหุ้น “TKN” 5% เถ้าแก่น้อย กางแผนลงทุน ปี’65 ซื้อเครื่องจักรเสริมทัพไลน์ผลิต เดินหน้าหาพันธมิตรปั๊มยอดขาย จีน-ยุโรป

วันที่ 10 มีนาคม 2565 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รายงานการได้มาของหุ้น บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง (TKN) โดย บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป (MAJOR) ซึ่งเป็นการได้มาเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2565 จำนวน 69 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 5% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ โดยซื้อที่ราคาเฉลี่ย 8.2565 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่าทั้งหมด 569. 69 ล้านบาท

โดยจำนวนหลักทรัพย์ที่ได้มา คิดเป็น 5% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการได้มา คิดเป็น 5% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ จำนวนหลักทรัพย์ที่ได้มา ของกลุ่มคิดเป็น 5% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการได้มา ของกลุ่มคิดเป็น 5% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ

ปัจจุบัน 5 อันดับผู้ถือหุ้นใหญ่เถ้าแก่น้อย 1.บริษัท พีระเดชาพันธ์ โฮลดิ้ง สัดส่วน 26.09% 2.นาย อิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ สัดส่วน 22.99% 3.บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด สัดส่วน 6.96% 4.น.ส.อรพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ สัดส่วน 4.40% 5.นายณัชชัชพงศ์ พีระเดชาพันธ์ สัดส่วน 4.36 %

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสาหร่ายทะเลแปรรูปทั้งในและต่างประเทศ ภายใต้ตราสินค้า “เถ้าแก่น้อย” ได้ระบุในคำอธิบายงบการเงินต่อแนวโน้มของธุรกิจในปี 2565 บริษัทตั้งเป้าธุรกิจสาหร่าย ซึ่งเป็นธุรกิจหลักให้มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะส่วนของต้นทุนการผลิต เพราะถือเป็นหัวใจสำคัญในการทำธุรกิจ ทั้งการนำเครื่องจักรมาใช้ในการผลิตมากขึ้น ควบคู่กับการพัฒนาบุคคลากรให้มีศักยภาพมากขึ้น ซึ่งเป็นไปตามนโยบาย Go Firm ของบริษัท

สำหรับตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศจีน บริษัทต้องการเน้นยอดขายกลับมาเพิ่มขึ้นให้เหมือนก่อนหน้า โดยต้องมองหาพันธมิตรเพิ่มเติม เพื่อช่วยกระตุ้นยอดขาย เช่นเดียวกับกับตลาดในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และ CLMV