ช่อง 3 เพิ่มโฟกัสรายการข่าว ส่ง สรยุทธ-กรรชัย ทัพหน้าโกยเรตติ้ง

“สรยุทธ-กรรชัย” นำทัพรายการข่าวช่อง 3 โกยกำไรรอบ 3 ปี บีอีซี เร่งเดินหน้าจัดเต็มรายการข่าว ขยายเวลา 3 รายการรวด ทั้งรายการขันข่าวเช้าตรู่, รายการเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ และรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ เสาร์-อาทิตย์ จัดเต็มรายการข่าวตั้งแต่เช้าตรู่-ดึก เดินหน้าโกยเรตติ้งต่อเนื่อง

วันที่ 10 มีนาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลัง “นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา” กลับมาเป็นผู้ดำเนินรายการข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ และเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ เมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ปี 2564 ช่อง 3 เริ่มเห็นกำไรในรอบ 3 ปี

โดยรายได้ส่วนใหญ่มาจากการขายโฆษณาเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะรายการข่าว ได้แก่ เรื่องเล่าเช้านี้ จันทร์-ศุกร์ เวลา 06.00-08.20 น. และเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.30-12.15 น. ซึ่งเป็นการกลับมาของ “สรยุทธ สุทัศนะจินดา” ที่กลับมาจัดรายการข่าว ส่งผลให้เรตติ้งรายการข่าวเพิ่มขึ้น เป็นผลให้รายได้โฆษณากลับมาตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2564 จนถึงสิ้นปี 2564 มีรายได้จากการขายโฆษณาเพิ่มขึ้น 1.6% หรือ 4,834 ล้านบาท

ซึ่งหากย้อนดูผลประกอบการ ปี 2561 มีรายได้ 10,486 ล้านบาท ขาดทุน 330 ล้านบาท, ปี 2562 รายได้ 8,751 ล้านบาท ขาดทุน 397 ล้านบาท, ปี 2563 มีรายได้ 5,908 ล้านบาท ขาดทุน 214 ล้านบาท และปี 2564 มีรายได้ 5,680 ล้านบาท กำไรสุทธิ 761 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 455%

เป้ารายได้ 1,000 ล้าน สิ้นปี’65

ทั้งนี้จากการวิเคราะห์ของหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส ต่อแนวโน้มของ BEC ในปี 2565 ระบุว่า ปีนี้ช่อง 3 จะสามารถเห็นการเติบโตได้ชัดเจน ทั้งการขยายเวลารายการข่าววันเสาร์-อาทิตย์ 3 รายการ เนื่องจากมีอัตราการใช้เวลาโฆษณาเต็ม 100% และมีโอกาสปรับเพิ่มค่าโฆษณาต่อนาทีได้อีกเช่นกัน

ขณะที่การออกอากาศละครใหม่ในปีนี้ จะสร้างเรตติ้งที่ดีและนำมาสู่รายได้ค่าโฆษณาเพิ่มขึ้น นอกจากนี้จากการใช้กลยุทธ์ Single Content Multiple Platform มีต้นทุนการผลิตครั้งเดียวแต่หารายได้เพิ่ม จากการขายลิขสิทธิ์ให้กับแพลตฟอร์มต่างประเทศ เช่น Netflix, Viu และการหารายได้จาก “ดิจิทัลแพลตฟอร์ม” CH3 Plus และ CH3 Plus Premium ที่ช่อง 3 วางเป้าหมายรายได้ในส่วนนี้ไว้ 1,000 ล้านบาท ในปี 2565

รวมทั้งมีการขยายธุรกิจใหม่ ได้แก่ ธุรกิจเพลง, ธุรกิจภาพยนตร์ ที่จะเข้ามาเสริมทัพอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ปีนี้มีการจัดตั้งธุรกิจใหม่ BEC Studio เพื่อผลิตคอนเทนต์ตอบโจทย์ สตรีมมิ่ง แพลตฟอร์ม ที่ล่าสุด จับมือ BBC Studios คว้าลิขสิทธิ์ดัง Doctor Foster มาสร้างในเวอร์ชั่นไทย

ทั้งนี้ เอเซีย พลัส คาดการณ์ว่าปี 2565 บีอีซีจะมีรายได้ 6,319 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% กำไรอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31% เป็นการกลับมาทำกำไรต่อเนื่องจากปีก่อน

โดยปัจจัยหลักมาจากการคัมแบ็กของขุนพลข่าวอย่าง “สรยุทธ สุทัศนะจินดา” ที่มาพร้อมกับ 2 รายการข่าว คือ เรื่องเล่าเช้านี้ จันทร์-ศุกร์ เวลา 06.00-8.20 น. และเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.30-12.15 น. ข่าวดังอย่างรายการ “โหนกระแส” ของ “หนุ่ม-กรรชัย”

กรรชัย กำเนิดพลอย

อัดแน่นรายการข่าวดันเรตติ้งพุ่ง

ซึ่งการดำเนินงานหลักในปีนี้จะยังคงสานต่อกลยุทธ์ “Single Content Multiple Platforms” ที่ทางช่องวางไว้เป็นหมากหลักในการขับเคลื่อนธุรกิจอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2564 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะในแง่ของรายการข่าวที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น โดยปี 2564 สัดส่วนรายได้รายการข่าวอยู่ที่ 27% ของโฆษณาช่อง 3 หรือคิดเป็นเม็ดเงินราว 1,305 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37% จากปี 2563 ที่มีรายได้ 951 ล้านบาท หรือสัดส่วน 20% ของรายได้โฆษณาช่อง 3 ทำให้ช่อง 3 ที่มีการปรับขยายเวลา เพิ่มรายการอย่างต่อเนื่อง

โดยทิศทางรายการข่าวของช่อง 3 ในปีนี้ จะมีการปรับปรุงและพัฒนารายการข่าวคือส่วนสำคัญคือการปรับผังรายการ รวมถึงขยายเวลาเพิ่มในบางรายการข่าวเพื่อรักษาเรตติ้งให้เติบโตต่อเนื่อง ผ่านหัวใจหลักไม่ว่าจะเป็นการเน้นการนำเสนอข่าวที่ทันเหตุการณ์ และเชื่อถือผ่านพิธีกรที่มีคุณภาพและมีความเป็นมืออาชีพ, การนำเสนอรายการข่าวที่มีความโดดเด่น ผ่านการวิเคราะห์เชิงลึก และรายงานข่าวที่เข้าใจง่าย ตรงประเด็น

นอกจากนี้ยังชูจุดเด่นเรื่องการนำเสนอข่าวที่มีข้อมูลที่น่าเชื่อได้ สู่ผู้ชมทั้งทางออฟไลน์และดิจิทัล (Offline&Online Platforms) และยังจะใช้พื้นที่ข่าวดิจิทัล เพื่อสร้างการรับรู้และขยายฐานไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่

สำหรับในเดือนเมษายน 2565 นี้ จะได้เห็นการปรับเวลาใหม่ของรายการข่าวช่อง 3 ไม่ว่าจะเป็นการขยายเวลารายการข่าววันเสาร์-อาทิตย์ 3 รายการ ได้แก่ รายการขันข่าวเช้าตรู่ เสาร์-อาทิตย์ เวลา 06.00-07.00 น. เพิ่มขึ้น 25-30 นาทีต่อวัน, รายการเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.15-12.15 น. เพิ่มขึ้น 15 นาทีต่อวัน และรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ เสาร์-อาทิตย์ เวลา 17.30-18.20 น. เพิ่มขึ้น 30 นาทีต่อวัน

ทำให้ผังรายการข่าวของช่อง 3 จันทร์-ศุกร์ เริ่มด้วย รายการโลกยามเช้า เวลา 04.00-04.30 น., รายการขันข่าวเช้าตรู่ เวลา 04.30-05.30 น., เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง เวลา 05.30-06.00 น. รายการเรื่องเล่าเช้านี้ เวลา 06.00-08.20 น., เที่ยงวันทันเหตุการณ์ เวลา 11.20-12.35 น., โหนกระแส เวลา 12.35-13.15 น. ข่าวสามสี เวลา 16.00-16.30 น., เรื่องเด่นเย็นนี้ เวลา 16.30-18.00 น., ข่าวนอกลู่ เวลา 20.00-20.05 น. และข่าว 3 มิติ เวลา 22.35-23.05 น.

น่าจับมองว่าการเพิ่มรายการข่าว พร้อมขยายเวลาต่อเนื่องตั้งแต่เช้าจดดึก ของทางช่องจะสามารถโกยเม็ดเงินโฆษณาท่ามกลางแนวโน้มปี 2565 ที่คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป จากปัญหาภาวะเงินเฟ้อจากราคาน้ำมันสูงขึ้นและหนี้สินภาคครัวเรือนยังอยู่ระดับสูง รวมถึงการท่องเที่ยวยังได้รับผลกระทบจากโควิด อาจเป็นความเสี่ยงที่จะส่งผลให้การใช้เม็ดเงินโฆษณาชะลอตัวในปี 2565

แต่ที่แน่ ๆ ด้วยยี่ห้อของ “สรยุทธ-กรรชัย” เชื่อว่าจะโกยเรตติ้ง พร้อมเม็ดเงินเข้าพอร์ต บีอีซี ในสิ้นปีได้ไม่น้อย