การตลาด

อย.ผนึกบุรีรัมย์จัดงานกัญชา 10-12 มิ.ย.นี้ เข้าฟรี-แจกปลูกพันต้น

ปลดล็อกกัญชา

อย.ผนึกบุรีรัมย์ จัดงาน “มหกรรม 360 องศา ปลดล็อกกัญชาแล้วประชาชนได้อะไร” วันที่ 10-12 มิ.ย. 65 หวังสร้างการรับรู้การใช้กัญชารับดีเดย์ปลดล็อก 9 มิ.ย. ชูไฮไลต์แจกกัญชา 1,000 ต้น พร้อมรับจดแจ้งปลูกแบบครัวเรือนและพาณิชย์ในงาน

นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิตร ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากการปลดล็อกกัญชาที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 9 มิถุนายน 2565 นี้ อาจทำให้เกิดการใช้กัญชาอย่างไม่เหมาะสม สธ.จึงเดินหน้าสร้างการรับรู้ เกี่ยวกับการใช้กัญชาอย่างถูกต้องตามเจตนารมณ์ของการปลดล็อกที่เน้นประโยชน์ทางการแพทย์และเศรษฐกิจ

เช่น การใช้บำบัดรักษาโรค หรือแปรรูปเป็นสินค้าต่าง ๆ เพื่อจำหน่าย สร้างรายได้กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนรวมถึงภาพรวมของประเทศ เพื่อการนี้ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ร่วมกับจังหวัดบุรีรัมย์ เตรียมจัดงาน “มหกรรม 360 องศา ปลดล็อกกัญชาแล้วประชาชนได้อะไร” ระหว่างวันที่ 10-12 มิถุนายนนี้ ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล จังหวัดบุรีรัมย์ ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมงานได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

โดยภายในงานมีไฮไลต์เป็นการเปิดรับจดแจ้งการปลูกกัญชาทั้งแบบครัวเรือนและเชิงพาณิชย์ เพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชนที่อาจไม่สะดวกลงทะเบียนผ่านแอป “ปลูกกัญ” ซึ่งเปิดตัวในวันที่ 1 มิถุนายน และจะออกใบรับจดแจ้งในวันที่ 9 มิถุนายน พร้อมแจกต้นกัญชา 1,000 ต้น ให้กับผู้สนใจ

นอกจากนี้จะมีงานสัมมนาวิชาการจากผู้เชี่ยวชาญทุกด้านตั้งแต่การปลูก สกัด แปรรูป เช่น เมนูอาหาร คลินิกกัญชา และการให้บริการข้อมูลต่าง ๆ แก่ประชาชน ไม่ว่าจะเป็นตำรับยาที่สกัดจากกัญชา ผลงานวิจัยและนวัตกรรม รวมถึงผลิตภัณฑ์จากกัญชา

การจัดงานครั้งนี้ยังดำเนินมาตรการป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 เข้มงวด โดยผู้ที่รับวัคซีนครบ 2 เข็มสามารถเข้างานได้โดยไม่ต้องตรวจ ATK ยกเว้นมีอาการต้องสงสัย เช่น มีไข้ ส่วนกลุ่ม 608 หรือผู้ที่อายุ 60 ปีขึ้นไป และมีโรคประจำตัว รวมถึงหญิงมีครรภ์จะต้องฉีดวัคซีนครบ 3 เข็ม ในขณะที่ประชาชนในจังหวัดบุรีรัมย์นั้น ปัจจุบันมีจำนวนผู้รับวัคซีนเข็ม 2 แล้วเกือบ 100% และอยู่ระหว่างขอปรับพื้นที่เป็นระดับสีฟ้า

“มั่นใจว่ามหกรรมกัญชาครั้งนี้จะสามารถมอบองค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์แก่ผู้เข้าร่วมทุกรายได้อย่างแน่นอน และจะทำให้นอกจากประโยชน์ทางการแพทย์แล้ว กัญชาจะเป็นหนึ่งในเครื่องจักรที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และเพิ่ม GDP ของประเทศได้ และคาดว่าจะมีประชาชนสนใจเข้าร่วมงานจำนวนมาก สะท้อนจากผลตอบรับของงานครั้งก่อนที่มีผู้เข้าร่วมมากถึง 3 หมื่นคน และสร้างรายได้กว่า 200 ล้านบาท”

นายแพทย์เกียรติภูมิย้ำในตอนท้ายว่า กระทรวงสาธารณสุขไม่สนับสนุนการใช้กัญชาเพื่อสันทนาการ เช่น การสูบ เนื่องจากมีผลกระทบต่อสุขภาพและสังคม ขณะนี้แม้จะยังไม่มีกฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมการใช้กัญชาโดยตรงออกมา

แต่กระทรวงสาธารณสุขจะอาศัยกฎหมายที่มีอยู่เดิมมาควบคุม อาทิ เสนอ กม.ควบคุมด้านเหตุรำคาญจากกลิ่นและควันของกัญชา กัญชง และอาจกำหนดให้กลิ่นและควันกัญชา กัญชง เป็นเหตุรำคาญ เพื่อป้องปรามการสูบในสถานบริการและชุมชน รวมถึงอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน อาทิ พ่อแม่ผู้ปกครอง เพื่อป้องปรามการสูบกัญชาในเด็กและเยาวชน ไม่ให้เกิดการใช้กัญชาในรูปแบบเดียวกับบุหรี่