วอริกซ์ ยื่นไฟลิ่ง เตรียมเข้าตลาด mai โดยจะเปิด IPO จำนวน 180 ล้านหุ้น เพื่อลงทุนธุรกิจศูนย์สุขภาพ
วันที่ 23 มิถุนายน 2565 วอริกซ์ สปอร์ต ผู้ผลิตสินค้ากีฬาแบรนด์ วอริกซ์ (WARRIX) และผู้ถือสิทธิผลิตชุดแข่งฟุตบอลทีมชาติไทย ปี 2564-2571 ยื่นไฟลิ่งต่อ ก.ล.ต. เพื่อเสนอขายหุ้น IPO ในตลาดเอ็มเอไอ
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ดร.วิวัฒน์ กรมดิษฐ์ ผู้อยู่เบื้องหลัง “บ้านกรมดิษฐ์” บ้านสวนลอยฟ้า
นายวิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ได้แต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จํากัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต.
เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 180 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 30 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้
โดยมีเป้าหมายนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ลงทุนในโครงการก่อสร้างอาคารคลินิกกายภาพและศูนย์ออกกำลังกาย ถนนพระราม 9 เพื่อพัฒนาเป็นศูนย์สุขภาพและออกกำลังกาย และใช้เป็นสำนักงาน ส่วนที่เหลือนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับโครงการต่าง ๆ ต่อไป
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วอริกซ์ กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันวอริกซ์ไม่ได้เป็นเพียงแบรนด์เสื้อผ้ากีฬาเท่านั้น แต่มุ่งเป็นผู้นำในธุรกิจ Sport-Health & Lifestyle แบบครบวงจร
ด้วยการปรับภาพลักษณ์สินค้าและบริการสู่ Lifestyle Brand เน้นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับกีฬา สุขภาพ กิจกรรมการผจญภัยท่องเที่ยว และไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ ตามเป้าหมายพัฒนาแบรนด์ WARRIX สู่แบรนด์ชั้นนำระดับโลก
โดยก่อนหน้านี้เปิดให้บริการคลินิกกายภาพบำบัด Warrix Physiotherapy & Performance Studio สำหรับการพัฒนาศักยภาพของนักกีฬาอาชีพและบุคคลทั่วไป มีจุดเด่นที่ทีมบุคลากรผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มีประสบการณ์ด้านการรักษาฟื้นฟู องค์ความรู้ด้านโภชนาการ เทรนเนอร์มืออาชีพและอุปกรณ์ทางการแพทย์ทันสมัย รวมถึงคอร์สเฉพาะทางสำหรับกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งฟุตบอล มาราธอน กอล์ฟ จักรยาน และออฟฟิศซินโดรม ฯลฯ
ส่วนไลน์อัพสินค้าอื่น ๆ ปัจจุบันแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ
1) สินค้า Licensed Product ประกอบด้วย สินค้าและผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับทีมชาติ โดยได้รับสิทธิจากสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย สมาคมบาสเกตบอลแห่งประเทศไทย กีฬาประเภทอื่น ๆ และทีมชาติต่างประเทศ
รวมทั้งได้รับสิทธิสนับสนุนทีมสโมสรฟุตบอลในประเทศไทย และสินค้าลิขสิทธิ์อื่นๆ สำหรับองค์กร สถานศึกษา และกิจกรรมต่าง ๆ
2) สินค้า Non-Licensed Product เป็นสินค้าที่สามารถใช้ในชีวิตประจำวันและปรับเปลี่ยนตามความนิยม ประกอบด้วย สินค้าคอลเล็กชั่น (Collection) สินค้าคลาสสิค (Classic) สินค้าทำตามคำสั่ง (Made to Order) และสินค้าอื่น ๆ
โดยมีการจำหน่ายสินค้าผ่าน 6 ช่องทาง คือ 1) ร้านค้าทั่วไป ห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ 2) งานโครงการ (Project Base) 3) ช่องทางออนไลน์ 4) ร้านค้าของบริษัทฯ 5) สัญญาสนับสนุนต่าง ๆ และ 6) งานจัดรายการสินค้า งานแสดงและการขายอื่น ๆ
นอกจากนี้ยังขยายรูปแบบธุรกิจสู่ Metaverse โดยนำนักฟุตบอลทีมชาติมาสร้างเป็น NFT เป็นต้น รวมถึงจับมือพันธมิตรรายใหม่ ได้แก่ เซ็นสัญญาให้การสนับสนุนสมาคมกีฬาเทเบิลเทนนิสแห่งประเทศไทย และให้การสนับสนุนผลิตภัณฑ์เครื่องแต่งกายของบริษัทฟิตเนสชั้นนำ