“อภัยภูเบศร” ย้ำเจ้าสมุนไพร มิชชั่นใหม่สร้างความมั่นคง “อาหาร-ยา”

ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร

“อภัยภูเบศร” ชี้เทรนด์สมุนไพรมาแรง คนไทย-ต่างประเทศนิยมใช้ดูแลสุขภาพ-สร้างภูมิคุ้มกันร่างกาย ล่าสุดนำสุดยอดพืชสมุนไพรไทย ลิ้นมังกร บัวหลวง กระชาย และอ้มกบ แจกฟรีในงาน “มติชน Healthcare 2022 จักรวาลผู้สูงวัย” 30 มิ.ย.-3 ก.ค.นี้ ที่สามย่านมิตรทาวน์

ขณะที่หลาย ๆ ธุรกิจจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้นตลอดช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนว่านับวันความนิยมสมุนไพรไทยจะมีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีการนำสมุนไพรไทยไปใช้ในการป้องกันและสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายมากขึ้น สะท้อนจากยอดขายผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรที่เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกช่องทาง และมีบางช่วงที่ถึงกับขาดตลาด โดยเฉพาะโปรดักต์จากฟ้าทะลายโจร

อภัยภูเบศร จึงประกาศเดินหน้าสร้างความมั่นคงอาหาร-ยา รับมือโรคอุบัติใหม่-สงคราม เป็นเสบียงยามฉุกเฉิน ตัดริบบิ้นเปิด “ภัทร-ธรรมรักษ์นิเวศน์” โคกหนองนาโมเดลรับมือวิกฤตอาหาร รวมพันธุ์พืชผักสมุนไพรกินได้กว่า 500 ชนิด จาก 4 ภาค สร้างเป็นแหล่งเรียนรู้ให้ประชาชน

สมุนไพรเทรนด์ฮิตทั่วโลก

ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านการแพทย์แผนไทย โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ปราจีนบุรี เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปัจจุบันทุกคนหันมาใส่ใจในสุขภาพตัวเองมากขึ้น แล้วก็มองหาสิ่งดี ๆ เพื่อตัวเองมากขึ้น จากกรณีโควิด-19 ที่เกิดขึ้น เป็นตัวอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าการรับมือของโรคระบาดใหม่ไม่จำเป็นต้องพึ่งพิงระบบสาธารณสุขอย่างเดียว

และทั่วโลกเริ่มหันมองหาสมุนไพรในการรับมือกับโรคอุบัติใหม่มากขึ้น มีการค้นคว้าวิจัยเรื่องสมุนไพรมากขึ้นอย่างกว้างขวาง ยกตัวอย่าง ประเทศอิหร่าน ก็มีการวิจัยสมุนไพรพื้นฐานมากขึ้น เป็นต้น

ปัจจุบันการศึกษาวิจัยสมุนไพรพื้นบ้าน สมุนไพรใกล้ตัว เพื่อนำมาใช้ประโยชน์และต่อยอดมากขึ้น โดยไม่ได้มุ่งเน้นเฉพาะแค่เรื่องของการฆ่าเชื้อเพียงอย่างเดียว แต่จะเริ่มมองหาสมุนไพรที่จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง เพื่อบำรุงสุขภาพระยะยาว มากขึ้น

ภญ.ดร.สุภาภรณ์ย้ำว่า ช่วงโควิดที่ผ่านมา ตลาดสมุนไพรเติบโตขึ้นมาก ขณะที่ธุรกิจอื่น ๆ ประสบปัญหา แม้กระทั่งปัจจัย 4 ไม่ว่าจะเป็น อาหาร ยารักษาโรค ก็ประสบปัญหาเช่นกัน ดังนั้น เราจะต้องมีการเตรียมความพร้อมไว้รองรับ อย่างกรณียา จริง ๆ แล้วประเทศไทยมีความพร้อมเรื่องสมุนไพรมาก และจากนี้ไปควรมีการปลูกสมุนไพรไว้ในครัวเรือนทุก ๆ บ้าน อย่างน้อยที่สุด สมุนไพรจะสามารถเป็นได้ทั้งอาหาร และยา ที่สามารถนำมาใช้ได้ในยามฉุกเฉิน

“ถือเป็นการสร้างความมั่นคงทางด้านสุขภาพ ที่จะช่วยจากวิกฤตการณ์ต่าง ๆ ทั้งโรคอุบัติใหม่ต่าง ๆ และสงคราม ที่สำคัญ การที่เรามียาอยู่มันจะไม่ใช่แค่มิติของการรักษาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงมิติด้านสุขภาพที่สารเคมีทำไม่ได้”

สร้างความมั่นคง “อาหาร-ยา”

สำหรับอภัยภูเบศร ปัจจุบันนอกจากจะให้ความสำคัญกับการวิจัยพัฒนาในเรื่องของสมุนไพรแล้ว ยังให้ความสำคัญในเรื่องของการสร้างความมั่นคงทางอาหารและสมุนไพร ตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 2565 เพิ่งเปิด “ภัทร-ธรรมรักษ์นิเวศน์” โคกหนองนาโมเดล รับมือวิกฤตอาหาร (24 มิ.ย.)

เปิด “ภัทร-ธรรมรักษ์นิเวศน์”

เป็นการน้อมนำเอาพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาปฏิบัติ โดยรวบรวมองค์ความรู้ การขยายพันธุ์พืชผักสมุนไพรกินได้กว่า 500 ชนิด จาก 4 ภาค มาปลูกไว้ และได้จัดทำสวนที่ให้ทั้งความรื่นรมย์และเป็นคลังอนุรักษ์พันธุกรรมของผักพื้นบ้าน ผักเป็นยา จากระบบนิเวศต่าง ๆ เพื่อเผยแพร่ความรู้แก่ประชาชนทั่วไป เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการสร้างความมั่นคงทางอาหารและยา ซึ่งจะเป็นภูมิคุ้มกันอย่างดีให้แก่ตนเองและครอบครัวในยามวิกฤต

จากเดิมผ่านมามี “ภูมิภูเบศร” ศูนย์การเรียนรู้สมุนไพรและภูมิปัญญาสุขภาพ บางเดชะ ที่จะให้ความรู้เด็ก เยาวชน ผู้ประกอบการ คนทั่วไป ในการเรียนรู้เพื่อดูแลตัวเอง รวมถึงอบรมผู้ประกอบการต่าง ๆ นอกจากนี้ รพ.อภัยภูเบศร ยังมีหน่วยที่เป็นแหล่งต้นทางการเป็นผู้ผลิตขั้นต้น และการพัฒนาเครื่องจักรสกัดกัญชา กัญชง สกัดกระชาย นับเป็นส่วนของกลางน้ำ

ขณะที่ปลายน้ำก็จะมีสินค้าที่อยู่ในไปป์ไลน์อย่าง ฟ้าทะลายโจร ที่อยู่ในแพลตฟอร์มการพัฒนา มีชากัญชาการพัฒนาพันธุ์สมุนไพร เป็นต้น ขณะที่ในส่วนของแพทย์แผนไทยก็มีการวิจัยที่หลากหลายในด้านการบริการ เพื่อรองรับความต้องการและเทรนด์สุขภาพ ตั้งแต่ระดับชุมชนไปจนถึงผู้ป่วยในที่ต้องทำงานร่วมกับแพทย์แผนปัจจุบัน

“เรียกได้ว่าปัจจุบันมีการจัดทำตั้งแต่ต้นทาง การดูแลสุขภาพไปจนถึงปลายทาง ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ การบริการ การทำงานระดับชุมชนไปจนถึงการทำงานร่วมกับแพทย์แผนปัจจุบัน การวิจัย และการให้ความรู้ประชาชนในเรื่องของการดูแลตัวเอง ซึ่งเป็นอีกเทรนด์สุขภาพในยุคปัจจุบันที่ดึงสมุนไพรเข้ามาในชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างความยั่งยืนในเรื่องสุขภาพของคนไทย”

นอกจากผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรธรรมชาติ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร รวมทั้งสกินแคร์ เพอร์ซันนอลแคร์ ของอภัยภูเบศรที่มีมากกว่า 200 รายการ ที่ผ่านมายังมีการวิจัยค้นคว้าและผลิตขึ้นมาเพื่อรองรับเทรนด์สุขภาพ รวมถึงการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยของประเทศด้วย

เช่น “อภัย-บี” จากกลีบบัวแดง ช่วยลดอนุมูลอิสระในสมอง ป้องกันอัลไซเมอร์และความเสี่ยงในสมอง ช่วยการนอนหลับ ช่วยให้สดชื่น เป็นโปรดักต์ที่ร่วมวิจัยกับมหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือสเปรย์ฉีดพ่นคอจากฟ้าทะลายโจร เพื่อป้องกันโควิด-19 และสร้างภูมิในร่างกายให้แข็งแรง เป็นต้น

แจกฟรีสุดยอดสมุนไพรไทย

ภญ.ดร.สุภาภรณ์ยังกล่าวถึงการเข้าร่วมงาน “Healthcare 2022 จักรวาลผู้สูงวัย” ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 30 มิ.ย.-3 ก.ค.นี้ว่า จะเป็นงานหนึ่งที่ทำให้ประชาชนรู้จักการใช้สมุนไพรที่เป็นได้ทั้งอาหารและยา ที่จะดูแลระบบต่าง ๆ ของร่างกาย เพื่อให้ประชาชนหันกลับมามองสิ่งพื้นฐานการดูแล การฟื้นฟูสุขภาพร่างกายโดยการใช้ประโยชน์สมุนไพร บวกกับการใช้ข้อมูลสมัยใหม่มาสนับสนุน

ภายในงานนอกจากจะมีเรื่องของต้นไม้ พืชสมุนไพรต่าง ๆ แล้ว อภัยภูเบศรยังจะเน้นการให้ความรู้ แนะนำเรื่องการปลูก แนะนำเรื่องสุขภาพ และสร้างประสบการณ์ ด้วยการให้ชิมน้ำสมุนไพรต่าง ๆ และยังมีตัวอย่างสมุนไพรให้เห็นอีกมากมาย

โดยจะมีการแจกสมุนไพร อาทิ ลิ้นมังกร บัวหลวง กระชาย และอ้มกบ หรือผักกระโฉม สมุนไพรที่เป็นทั้งผักและยาของไทย หรือสมุนไพรลิ้นมังกร รวมทั้งสมุนไพรพื้นฐาน เช่น กระชาย ที่เป็นอัตลักษณ์ไทย มีการใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย นอกจากนี้ยังมีการคิดค้นเอาพืชน้ำที่เหมือนวัชพืชมาเป็นส่วนผสมในการแต่งกลิ่น ซึ่งจะมีการนำไปจัดที่งานด้วย

“ภารกิจของอภัยภูเบศรนับจากนี้ไปจะทำในทุกมิติอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตัวเองในเรื่องของการดูแลสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นการนำความรู้ต่าง ๆ มาถ่ายทอดให้ประชาชนสามารถนำมาใช้ ไปจนถึงการอนุรักษ์และพัฒนาสมุนไพร ยา ให้ได้มาตรฐานเพื่อให้คนไทยหันมาใช้ของไทย เพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาหารและยาหรือยาที่เป็นอาหาร

รวมถึงการบริการ และมีการพัฒนาสู่เรื่องของการศึกษา การสร้างคนรุ่นใหม่ เป็นแหล่งที่ทุกคนเข้ามาเรียนรู้ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่รู้จบและเป็นสิ่งที่เราต้องส่งต่อคนรุ่นต่อ ๆ ไป” ภญ.ดร.สุภาภรณ์ย้ำในตอนท้าย

สำหรับ งาน “Healthcare 2022 จักรวาลผู้สูงวัย” จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 30 มิ.ย.-3 ก.ค.นี้ ที่สามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ ชั้น 5 สามย่านมิตรทาวน์เวลา 10.30-20.00 น.

ภายในงานจะมีการตรวจสุขภาพฟรีครบทุกมิติ ครอบคลุมทุกโรคร้าย ทั้งมะเร็ง หัวใจ ไวรัสตับอักเสบอัลไซเมอร์ กระดูก กล้ามเนื้อ โรคตา ฟันและโรคในช่องปาก พร้อมฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ให้กลุ่มเสี่ยง ฟรี โดยใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียว ตรวจได้ทุกคทุกโรค คนละ 1 รายการต่อวัน จาก 14 โรงพยาบาลชั้นนำรัฐ-เอกชน

นำโดยโรงพยาบาลจุฬาภรณ์, ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล, คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ, คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล, มูลนิธิศูนย์ถันยรักษ์ฯ, โรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน),

สำนักการแพทย์กรุงเทพมหานคร (โรงพยาบาลตากสิน โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ โรงพยาบาลสิรินธร), โรงพยาบาลแพทย์รังสิต, โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน, โรงพยาบาลหัวเฉียว, คณะการแพทย์แผนจีน มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ และโรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง ในเครือ THG

……