นิสสัน ผนึก กฟภ. สนับสนุนการให้บริการอัดประจุไฟฟ้าแก่ผู้ใช้รถยนต์ EV ภายใต้โครงการ PEA Volta Verse
นายศุภชัย เอกอุ่น ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทยและประธานกรรมการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และนายมาซาโอะ สึสึมิ รองประธานสายงานการตลาดและการขาย บริการหลังการขาย และพัฒนาเครือข่ายผู้จำหน่าย บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) ร่วมกันเปิดเผยว่าได้ลงนามความร่วมมือสนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้าและการพัฒนาระบบบริการด้านการอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าภายใต้โครงการ PEA Volta Verse
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- ด่วน! วอยซ์ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
ความร่วมมือดังกล่าวสนับสนุนการสร้างระบบนิเวศของยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย รวมถึงส่งเสริมการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ แอปพลิเคชั่นและสถานีให้บริการอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า
“ในฐานะที่นิสสันเป็นผู้บุกเบิกด้านรถยนต์ไฟฟ้า บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าในประเทศไทย โดยความร่วมมือดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของนิสสันต่อความยั่งยืนของการใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่เราพร้อมให้ความร่วมมือกับทั้งภาครัฐและเอกชน” นายมาซาโอะ สึสึมิ รองประธานสายงานการตลาดและการขาย บริการหลังการขาย และพัฒนาเครือข่ายผู้จำหน่าย บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าว
พิธีลงนามความร่วมมือจัดขึ้นที่ศูนย์ฝึกปฏิบัติการไฟฟ้าแรงสูง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม โดยในงานนิสสันได้จัดแสดงแนวคิด Nissan Energy Share หรือการใช้รถยนต์ไฟฟ้าเป็นแหล่งพลังงานเคลื่อนที่เพื่อจ่ายพลังงานไฟฟ้าให้กับที่อยู่อาศัย ด้วยการสาธิตสมรรถนะในการจัดการพลังงานอันเป็นนวัตกรรมของรถยนต์ไฟฟ้า นิสสัน ลีฟ ซึ่งทำหน้าที่เป็นแบตเตอรี่จัดเก็บพลังงานแบบเคลื่อนที่เพื่อจ่ายกระแสไฟฟ้าให้แก่บ้านเรือนและช่วยเหลือสังคมเมื่อเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ
การลงนามความร่วมมือนี้เป็นหนึ่งในความร่วมมือและความทุ่มเทของนิสสันในการยกระดับการนำรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาใช้ในประเทศไทย นอกจากนี้ นิสสันขยายโครงการ Blue Switch ในประเทศไทย โดยร่วมจัดการปัญหาทางสังคมผ่านการใช้ประโยชน์จากความสามารถของรถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นได้มากกว่ายานพาหนะ และส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพื่อช่วยเหลือชุมชน ทั้งในด้านการบรรเทาภัยพิบัติ และการจัดการพลังงาน