ไต้หวัน ชวนผู้ผลิตชิ้นส่วนไทย เกาะกระแสรถอีวี

สภาส่งเสริมการค้าและส่งออกไต้หวัน ชี้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามาแรง เชื่อโอกาสผู้ประกอบการไทยมุ่งสู่ฐานผลิตภูมิภาค พร้อมดึงผู้ประกอบการไทยแลกเปลี่ยนความรู้และข้อมูล หาโอกาสความร่วมมือระหว่างกัน

นายแม็กซ์ จาง ผู้อำนวยการสภาส่งเสริมการค้าและการส่งออกแห่งไต้หวัน ประจำประเทศไทย (TAITRA) กล่าว งานสัมมนา Shift Toward Future Mobility with Taiwan” ถึงทิศทางและแนวโน้มของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องทั่วโลกว่า กำลังมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว  

ซึ่งโอกาสสำคัญทางธุรกิจสำหรับ “ไต้หวัน” ในฐานะซัพพลายเออร์ชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ของโลก และ “ไทย” ที่เป็นฐานการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์และประกอบรถยนต์ และกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่การเป็นการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของภูมิภาคอาเซียน

โดยบริษัทผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ของไต้หวันถือว่ามีบทบาทสำคัญในซัพพลายเชนอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของโลก และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในฐานะผู้ผลิตชิ้นส่วนสำคัญ เช่น ระบบแบตเตอรี่ ระบบชาร์จไฟฟ้า ระบบส่งกำลังรถยนต์ (Powertrain System) ให้กับค่ายรถยนต์เทสลา (Tesla) และครองส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ของโลกในหลายกลุ่มสินค้าสำหรับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า เช่น IC Foundry, Printed Circuit Board และแผงวงจรหลัก (Motherboard)

ขณะที่ประเทศไทยก็กำลังส่งเสริมอุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งคือโอกาสสำคัญที่ผู้ประกอบการไทยจะได้พิจารณาสร้างความร่วมมือและเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับบริษัทไต้หวัน เพื่อเติบโตไปพร้อมกับอุตสาหกรรมแห่งอนาคตของโลกที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

นายเกียรติศักดิ์ จิระขจรวงศ์ นายกสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการไทยจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากต่างประเทศ เพื่อเรียนรู้องค์ความรู้ใหม่ ๆ และร่วมพัฒนาธุรกิจกัน ซึ่งไต้หวันถือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่มีศักยภาพ มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านนี้เป็นพิเศษ ผู้ประกอบการไทยควรให้ความสนใจที่รับการถ่ายทอดองค์ความรู้และประสบการณ์จากบริษัทไต้หวันที่มีระบบนิเวศอุตสาหกรรมยานยนต์ครบวงจร มีซัพพลายเออร์ในส่วนของการรับจ้างผลิตชิ้นส่วนและอาฟเตอร์มาร์เก็ตของภาคยานยนต์เกือบ 3,000 ราย การผลิตส่วนใหญ่ใช้ระบบอัตโนมัติ ทำให้มีความยืดหยุ่นด้านการผลิตสูง อีกทั้งยังเชี่ยวชาญด้านการวิจัยและพัฒนา สามารถออกแบบและผลิตชิ้นส่วนที่มีคุณภาพตรงกับความต้องการของลูกค้า

ด้านนางแอนนี่ สือ รองผู้อำนวยการกอง สถาบันวิจัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรม (ITRI) เปิดเผยถึงแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต โดยอ้างอิงข้อมูลจาก Intel และ Statistics คาดการณ์ว่าตลาดยานยนต์อัจฉริยะ (Connected Vehicles) ของโลกจะมีมูลค่าเพิ่มจาก 75,740 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2565 เป็น 191,830 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2571 หรือเติบโตกว่า 2.5 เท่าตัว

ส่วนตลาดยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ (Autonomous Driving Market) จะมีมูลค่าเพิ่มจาก 146,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2565 เป็น 396,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2568 หรือเติบโตกว่า 2.7 เท่า ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทผลิตชิ้นส่วนของไต้หวันเป็นซัพพลายเออร์สำคัญของค่ายรถยนต์ชั้นนำของโลก เช่น เทสลา ฟอร์ด และโตโยต้า

โดยในอนาคตบริษัทไต้หวันมีศักยภาพสร้างความร่วมมือทางธุรกิจผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ด้านยานยนต์ในหลายกลุ่มสินค้า เช่น ระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ (ADAS), ระบบข้อมูลผู้ขับขี่, ระบบความปลอดภัย/ระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์, บริการโลจิสติกส์ ADV, ระบบสื่อสารระหว่างยานยนต์ (Connect Vehicle Communication), ระบบส่งกำลังรถยนต์ (Powertrain System), ระบบป้องกันการชน และระบบ X-by-wire (ระบบการเปลี่ยนเลน ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ และระบบเบรกอัตโนมัติ)

สำหรับผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมไทยที่สนใจไปร่วงาน Taipei Int’l Automobile & Motorcycle Parts & Accessories Show (TAIPEI AMPA) และงาน Taipei Int’l Automobile Electronics Show (AUTOTRONICS TAIPEI) และงาน E-Mobility Taiwan 2035 (Hybrid) ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-15 เมษายน 2566