Tesla เปิดตลาดในไทย ทุบราคาขายเริ่มต้นแค่ 1.7 ล้านบาท สะเทือนค่ายรถยนต์ทุกเซ็กเมนต์ เกรย์มาร์เก็ตอ่วมราคาต่างกันกว่าล้าน กัดฟันยอมขายขาดทุน กลุ่มรถหรูกระทบหนัก ทั้งยุโรป-ญี่ปุ่น ลูกค้ารถอีวีจีนเริ่มถอนใบจอง เหลือเชื่อเปิดรับจอง 2 วันยอดพุ่งทะลุ 5 พันคัน คนวงการห่วง “เซอร์วิส” ตามไม่ทัน ชี้หากไร้การลงทุนในประเทศรัฐบาลเสียโอกาส
เป็นที่แน่นอนแล้วว่า ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในบ้านเรา “จุดติด” หลังรัฐบาลกระโดดลงมาเล่นอย่างเต็มตัว มีมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าประเภทรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ใช้งบฯกลางจากงบประมาณปี 2565 สำรองจ่ายวงเงิน 2,923.397 ล้านบาท ปัจจุบันมีค่ายรถยนต์และจักรยานยนต์เข้าร่วมมาตรการสนับสนุนการใช้อีวีแล้ว 8 ราย มีทั้งแบรนด์จีน-ญี่ปุ่น และอื่น ๆ
โดยตามนโยบาย 30/30 ของรัฐบาลจะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้ 700,000 คัน หรือ 30% ของการผลิตยานยนต์ทั้งหมดในปี 2573 ซึ่งตอนนี้บีโอไออนุมัติส่งเสริมการผลิตทะลุ 830,000 คัน คาดว่าปลายปี 2565 หรือช่วงต้นปี 2566 น่าจะขึ้นไปแตะ 1 ล้านคัน ล่าสุดยังมียักษ์ใหญ่ในวงการผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าระดับโลก สัญชาติอเมริกัน ที่มีมหาเศรษฐี อีลอน มัสก์เป็นซีอีโอลุยทำตลาดบ้านเราอย่างจริงจัง
เปิดราคากระทบหลายเซ็กเมนต์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา บริษัท เทสลา (ประเทศไทย) จำกัด ได้ประกาศเปิดตัวบริษัทในไทย พร้อมประกาศทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 2 รุ่น ได้แก่ Tesla MODEL 3 และ Tesla MODEL Y โดยนางสาวอีวอน ชาน ผู้อำนวยการประจำประเทศไทย บริษัท เทสลา (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า พร้อมเปิดรับจอง Tesla ทั้ง 2 รุ่นทันทีและระบุว่าเทสลาสามารถส่งมอบรถได้ภายในไตรมาสแรกของปี 2566
นอกจากนี้ ยังมีแผนเปิดศูนย์บริการแห่งแรกภายในไตรมาสแรกของปี 2566 ด้วยเช่นเดียวกันรวมทั้งยังมีแผนเปิดสถานีชาร์จไฟฟ้าแบบซูเปอร์ชาร์จ แห่งแรกภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 และจะขยายเพิ่มเป็น 10 แห่งในอนาคต
สำหรับราคาขาย Tesla MODEL 3 มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ได้แก่ Model 3 Rear-Wheel Drive ราคา 1,759,000 บาท, Model 3 Long Range Drive Dual Motor All-Wheel Drive ราคา 1,999,000 บาท และ Model 3 Performance Drive Dual Motor All-Wheel Drive ราคา 2,309,000 บาท
อีกรุ่นคือ MODEL Y มี 3 รุ่นย่อยเช่นกัน ได้แก่ MODEL Y Rear-Wheel Drive 1,959,000 บาท, MODEL Y Long Range Drive Dual Motor All-Wheel Drive ราคา 2,259,000 บาท และ MODEL Y Performance Dual Motor All-Wheel Drive Dual Motor All-Wheel Drive ราคา 2,509,000 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เทสลาที่ขายในประเทศไทยจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าพวงมาลัยขวา นำเข้าจากประเทศจีน ซึ่งได้สิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีอัตรา 0% ตามกรอบเขตการค้าเสรี (FTA) ไทย-จีน ทำให้สามารถทำราคาได้ต่ำลงเหลือ 1.759 ล้านบาท โดยก่อนหน้านี้บรรดาผู้นำเข้าอิสระจะขายกันราว ๆ 2 ล้านปลาย ๆ ไปจนถึง 3 ล้านต้น ๆ แล้วแต่ออปชั่น มีส่วนต่างอยู่เป็นล้านบาท
ดังนั้น เทสลาทั้งสองรุ่นน่าจะกระทบรถยนต์ไฟฟ้าหลายแบรนด์ อาทิ โตโยต้า bZ4X, วอลโว่ XC40 อีวี, C40 อีวี, รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้าค่ายจีน ซึ่งทะลุหลักล้านหลายแบรนด์ ทั้ง เอ็มจี, โอร่า ของเกรทวอลล์ และ บีวายดี โดยมีรายงานข่าวว่าหลายยี่ห้อลูกค้าเริ่มถอนใบจอง นอกจากนี้ ยังกระทบรถหรูแบรนด์ญี่ปุ่นที่ใช้เครื่องยนต์มีราคาใกล้เคียงกัน ทั้งโตโยต้าคัมรี ฮอนด้า แอคคอร์ด ส่วนแบรนด์ยุโรป อาทิ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอคลาส-ซี-คลาส บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 1, 2, 3 และวอลโว่อีกหลายรุ่นโดยเฉพาะช่วงนี้มีอีเวนต์ใหญ่ขายรถมอเตอร์เอ็กซ์โป
2 วันยอดจองทะลุ 5 พันคัน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากเทสลาเปิดรับจองผ่านเว็บไซต์ https://www.tesla.com/th_th หรือ LINE @TeslaTH ในบ่ายวันที่ 7 ธันวาคม 2565 โดยการจองใช้เงินมัดจำเพียง 4,000 บาทเงินจำนวนนี้บริษัทสงวนสิทธิ์ไม่คืนโดยจะไปหักในราคารถ ส่วนการส่งมอบระบุว่า ลูกค้าลอตแรก 1,500 คันทั้งสองรุ่นรับรถภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2566
ส่วนอื่น ๆ จะได้รับรถไม่เกินเดือน 6 ปี 2566 ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ประกอบด้วยค่าประกันภัยประมาณ 50,000 บาท เป็นบริษัทไทยวิวัฒน์ ฟรีกรณีจัดไฟแนนซ์กับบริษัทแอลเอ็มจี ค่าจดทะเบียนรถใหม่ 9,000 บาท ค่าติดตั้ง Wall Charge 35,000 บาท รับประกัน 4 ปี ถ้าลูกค้าต้องการ Emergency Charge Kit เพิ่มอีก 10,000 บาท และยังมีให้เลือกว่าต้องการระบบขับขี่อัตโนมัติด้วยหรือไม่ ซึ่งสามารถเลือกเป็นออปชั่น เพิ่มเงินอีก 2 แสนบาท ปรากฏว่ากระแสความต้องการของลูกค้าชาวไทยสูงมาก โดยระยะเวลาเพียงแค่ 2 วันยอดจองทะลุ 5,000 คัน
ปักหมุดโชว์รูมพารากอน
ก่อนหน้านี้เทสลา (ประเทศไทย) เคยระบุว่าได้ตัดสินใจลงทุนผุดโชว์รูมเทสลาในโครงการ “ดิ เอ็มสเฟียร์” ของกลุ่มเดอะมอลล์ ซึ่งตั้งอยู่ด้านข้างสวนเบญจสิริ คาดว่าจะพร้อมให้บริการราวปี 2566 ล่าสุดบริษัทได้เลือกเปิดโชว์รูมแรกที่สยามพารากอน พร้อมทั้งได้เพิ่มทุนจดทะเบียนบริษัทในประเทศไทยอีก 250 ล้านบาท จากเดิม 3 ล้านบาท เป็น 253 ล้านบาท
เกรย์มาร์เก็ตอ่วม
นายสมศักดิ์ ศรีรัตนประภาส ประธานกรรมการบริหาร บีอาร์จี กรุ๊ป กล่าวว่า รถเทสลาทั้งสองรุ่นที่เทสลาประเทศไทยจำหน่ายนำเข้าจากประเทศจีน ย่อมได้เปรียบทางด้านภาษีนำเข้า (80% ของราคารถ) สำหรับ “บีอาร์จี” นำเข้าจากประเทศอังกฤษพวงมาลัยขวาเหมือนกัน บีอาร์จีมีทั้งสองรุ่นอยู่ไม่กี่คัน ซึ่งถามวันนี้เชื่อว่ายังเป็นที่ต้องการของลูกค้าที่อยากได้ใช้รถเร็วไม่อยากรอนาน
“จุดขายของเราคือ รับรถทันที รถผลิตจากโรงงานในอเมริกา และเราอยู่ในตลาดนี้มานาน ลูกค้าจะเชื่อมั่นทั้งการคัดเลือกรถ คัดออปชั่นตามความต้องการลูกค้า และที่สำคัญคือบริการหลังการขายซึ่งสามารถครอบคลุมลูกค้าได้ทั่วประเทศ”
ผู้สื่อข่าวสำรวจเกรย์มาร์เก็ตอีกหลายเจ้า บางรายมีเพียง 1-2 คัน ทุกรายยืนยันตรงกันว่าพร้อมขายทุกราคา ถ้าลูกค้าแฮปปี้ขายขาดทุนก็ต้องยอม ดีกว่าถือไว้ เพราะต้องเผชิญกับปัจจัยหลายอย่าง ทั้งดอกเบี้ย อัตราแลกเปลี่ยน เงินเฟ้อ
“กระแสข่าวระบุว่าเทสลาจะเข้ามาทำตลาดในไทยมีมาอย่างต่อเนื่อง ผู้นำเข้าเตรียมรับมือกับเรื่องนี้อยู่แล้ว ตอนนี้ลองเปิดเว็บไซต์ผู้นำเข้าดูซิ ส่วนใหญ่ขึ้นป้าย SOLD แล้วทั้งนั้น”
แห่ขอเป็นดีลเลอร์
แหล่งข่าวผู้ประกอบการรถนำเข้ากล่าวเพิ่มเติมกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ตอนนี้มีเกรย์มาร์เก็ตหลายเจ้าพยายามทาบทามเพื่อขอเป็นตัวแทนจำหน่าย แต่เท่าที่รู้นโยบายของเทสลาไม่ใช้ดีลเลอร์ ทั้งในฮ่องกงและสิงคโปร์ก็ไม่มีตัวแทนจำหน่าย แต่ไม่แน่ประเทศไทยอาจจะเป็นข้อยกเว้น เนื่องจากตลาดบ้านเราต่างจากที่อื่น ลูกค้าซื้อรถจำนวนไม่น้อยมีปัญหากับคนขาย บานปลายจนถึงฟ้องร้องก็มี
ยิ่งระยะหลังโซเชียลแรงมาก เทสลาอาจตัดสินใจเลือกมีดีลเลอร์เพื่อเป็นกันชนระดับหนึ่งก่อน อีกอย่างที่น่าสนใจคือ หากจำนวนรถเทสลาเยอะขึ้นทะลุหลักหมื่น เซอร์วิสที่มีช่วงแรกเฉพาะในเขต กทม. ปริมณฑลอาจไม่เพียงพอ เทสลาคงต้องเลือกหาพันธมิตรเพิ่ม
ย้ำรัฐบาลไทยเสียโอกาส
แหล่งข่าวระดับบริหารจากค่ายรถยนต์รายใหญ่กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่าเทสลาเปิดตลาดในไทยทุบราคาลงแบบนี้ เชื่อว่าไม่น่าจะมีการลงทุนด้านการผลิตในประเทศ ตรงนี้ไม่แน่ใจว่ารัฐบาลโดยเฉพาะบีโอไอมีมาตรการอย่างไรเพิ่มเติมที่เป็นรูปธรรมบ้าง ในขณะที่รถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์อื่น ๆ มีการลงทุนในบ้านเราจำนวนมาก กลายเป็นข้อเสียเปรียบ และไม่มีการปกป้องผู้ผลิตในประเทศ
แหล่งข่าวยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ราคาขายที่ต่ำถือว่าสร้างกระแสและความฮือฮาให้กับตลาด แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องระวังคือบริการหลังการขายและอีวีอีโคซิสเต็ม ซึ่งวันนี้หากเทียบกับบรรดาค่ายรถยนต์ที่ทำตลาดมายาวนาน เทสลายังจะต้องใช้เวลาในการพิสูจน์ตัวเองอีกพักใหญ่กว่าจะเรียกความเชื่อมั่นได้