เจาะแนวรุก “เวสป้า” สัมผัสที่แตกต่างและเข้าถึงอารมณ์

จิอานลูกา ฟิอูเมฎ เวสป้า
จิอานลูกา ฟิอูเมฎ
คอลัมน์ : สัมภาษณ์

แบรนด์รถจักรยานยนต์หรือสกู๊ตเตอร์ที่เก่าแก่และคุ้นชื่อคุ้นหูคนไทยและชาวโลกมาอย่างยาวนาน หลายคนต้องนึกถึงแบรนด์ “เวสป้า”

ซึ่งตอนนี้กลายเป็นแบรนด์ไอคอนิก ภายใต้อาณาจักรของ พิอาจิโอ (PIAGGIO) ที่ถือกำเนิดขึ้นเมื่อ 139 ปีที่ผ่านมา

จากกิจการบริษัทต่อเรือสำราญ ขยายสู่การผลิตรางรถไฟ รถตู้ขนสินค้า รถโดยสารหรู เครื่องยนต์ ตัวถังรถบรรทุก ในช่วงปฏิวัติอุตสาหกรรม เมื่อปี ค.ศ. 1945

ก่อนที่จะผ่านสงครามโลกครั้งที่ 1 ทำให้ “พิอาจิโอ” ขยับมาสู่อุตสาหกรรมการบิน จนสามารถก้าวขึ้นเป็นบริษัทผลิตอากาศยานชั้นนำของอิตาลี

ENRICO PIAGGIO เจ้าของ และ CORRADINO วิศวกร ได้ร่วมกันรังสรรค์รถสกู๊ตเตอร์ “เวสป้า” ให้ถือกำเนิดขึ้น ด้วยการออกแบบที่คงอัตลักษณ์ในแบบฉบับของอิตาเลียน จนทำให้ได้รับการยอมรับทั่วโลกอย่างกว้างขวาง

วันนี้ “จิอานลูกา ฟิอูเมฎ” รองประธานกรรมการบริหาร พิอาจิโอ เอเชีย-แปซิฟิก สายงานธุรกิจสองล้อ ผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์แบรนด์เวสป้า, พิอาจิโอ, อาพรีเลีย และโมโต กุชชี่ มาบอกเล่าถึงทิศทางของการดำเนินธุรกิจในภูมิภาคเอเชียและอาเซียน จะเป็นอย่างไร ไปติดตามกัน

ตลาดอาเซียนถือเป็น “ฮับ”

จากฐานการผลิตของ “พิอาจิโอ” ปัจจุบันมีโรงงานผลิตรถจักรยานยนต์อยู่ 12 แห่งทั่วโลก แบ่งเป็นในอิตาลีที่เป็นบ้านเกิดอยู่ 5 โรงงาน, อินเดีย 3 โรงงาน, เวียดนาม 2 โรงงาน, จีน 1 แห่ง ซึ่งเป็นการร่วมทุน

และล่าสุด อินโดนีเซีย 1 แห่ง มีศูนย์วิจัยและพัฒนาอยู่ 7 แห่ง ได้แก่ อิตาลี 2 แห่ง, อเมริกา 2 แห่ง อินเดีย, จีน และเวียดนามอีกประเทศละ 1 แห่ง

ซึ่งโรงงานทั้งหมดจะผลิตรถจักรยานยนต์และสกู๊ตเตอร์ออกไปจำหน่ายกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ผ่านเครือข่ายการจัดจำหน่าย (ดีลเลอร์) ถึง 4,000 ราย

และจากเทรนด์ความต้องการและอัตราการเติบโตของตลาดในปัจจุบัน ได้เปลี่ยนจากฝั่งยุโรปข้ามเข้ามายังโซนเอเชีย ทำให้บริษัทแม่เล็งเห็นโอกาส จึงได้เข้ามาตั้งโรงงานผลิตในเวียดนาม และวางตำแหน่งให้เป็น “ฮับ” การผลิตของภูมิภาค กับ Piaggio Vietnam

แบรนด์ที่เป็น “ตัวของตัวเอง”

แม้ว่าสภาพการตลาดและความเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมยานยนต์ในช่วงที่ผ่านมาจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่สำหรับ “พิอาจิโอ” นั้น สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไป นับจากวันเริ่มต้นธุรกิจ คือการรับฟังเสียงของลูกค้า และสิ่งสำคัญที่ไม่ได้ถูกละเลย หรือนำออกไปจากแบรนด์ พิอาจิโอ ทั้ง Vespa, Piaggio, Aprilia ที่จะมีความเป็นตัวของตัวเอง

ภายใต้กลยุทธ์การสร้างแบรนด์และการขับเคลื่อน ที่ “พิอาจิโอ” ยึดเป็นแกนหลักสำคัญคือ การมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ มาเป็นการใช้ลูกค้าเป็นแกนหลักสำคัญ จน “พิอาจิโอ” มีอายุมามากกว่า 130 ปีแล้ว วันนี้การที่ผู้ผลิตจะต้องมานั่งอธิบายผลิตภัณฑ์ให้กับผู้บริโภคมีความชัดเจนขึ้น “ฮาร์ดแวร์” ไม่ได้สร้างประโยชน์เท่ากับเมื่อก่อน แต่ก็กลับกลายเป็นสิ่งที่จำเป็นจะต้องมี

ดังนั้น “พิอาจิโอ” จึงต้องสร้างความแตกต่างภายใต้กลยุทธ์ มุ่งสร้าง “ความสบายใจ-ความสุข-ความสนุก” ให้กับลูกค้าที่ชื่นชอบ “Vespa” เรียกว่ากลายเป็นธุรกิจที่สร้างความบันเทิง เอ็นเตอร์เทนเมนต์ให้กับลูกค้า

 

เวสป้า

แบรนด์ที่สร้างความสุขให้ทุกคน

แน่นอนว่าเราต้องการทำให้ทุกคนมีความสุขที่สุด ดังนั้น สิ่งจำเป็นคือ เราจะต้องทำทุกอย่างโดยต้องไม่มีข้อผิดพลาด “พิอาจิโอ” คือโรงงานผลิตเรื่องของ “ความรู้สึก” มากกว่า “EMOTION” ถ้าหลายคนมาหารถที่มี เพอร์ฟอร์มานซ์ แน่นอนเรามี แต่เรามองว่า “สิ่งจำเป็นต้องสร้างความรู้สึกให้กับลูกค้า” ไปด้วย เราไม่ได้อยู่แค่โลกของยานยนต์ แต่เรายังมีเรื่องของไลฟ์สไตล์ ความรู้สึก และแรงบันดาลใจต่าง ๆ เข้าไปให้กับรถและลูกค้าของเรา พิอาจิโอไม่ได้มองแค่การเป็นรถจักรยานยนต์

แต่ที่สำคัญที่สุด คือคำนึงถึงดีไซน์ที่เหมาะกับสรีระการขับขี่ให้ได้มากที่สุด เพราะนี่คือ พิอาจิโอ ดีไซน์ “สิ่งที่เราเคยเป็นแบบไหนก็ต้องเป็นแบบนั้น heritage italian lifestyle fashion art joyful iconic freedom independent” ที่จะต้องมีการสื่อสารไปยังลูกค้าทั้งออนไลน์และออฟไลน์

ไทยขึ้นอันดับ 2 ในภูมิภาค

ต้องบอกว่า ในการดำเนินธุรกิจของเรา หลังจากตัดสินใจเข้ามาเลือกใช้โรงงานผลิต Vespa หรือ Piaggio Vietnam เป็น 1 ใน 12 ของเราเมื่อ 15 ปีก่อน หรือ ตั้งแต่ปี 2007 ที่นิคมอุตสาหกรรมในจังหวัดหวิงฟุก (Vinh Phuc) โดยเริ่มก่อตั้งโปรเจ็กต์สร้างโรงงานที่เวียดนามในปี ค.ศ. 2007 และเริ่มสร้างโรงงานในช่วงต้นปี ค.ศ. 2008 หากนับจนถึงตอนนี้เป็นระยะเวลากว่า 15 ปี

เรียกว่าการเข้ามาในภูมิภาคนี้ของเรา เป็น agenda of asia เพราะเป็นภูมิภาคที่มีอัตราการเติบโตค่อนข้างสูง ทั้งในแง่ของเศรษฐกิจ ประชากร โซเชียล กลุ่มคนรุ่นใหม่ ฯลฯ ถือเป็นตลาดที่น่าสนใจสำหรับ “พิอาจิโอ”

โดยโรงงานแห่งนี้เป็นฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดของเรา ด้วยกำลังการผลิตกว่า 200,000-300,000 คันต่อปี โดยหลัก ๆ ผลิต Vespa ถึง 75% ส่วน Piaggio และ Aprilia รวมกันอีก 25% รองรับให้กับตลาดในทวีปเอเชียถึง 75% ส่วนที่เหลือส่งไปยังยุโรป ส่วนอัตราการเติบโตนั้น จะเห็นได้ว่าเรามีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2007 เป็นต้นมา อย่างในเดือนตุลาคมปีที่แล้วถือเป็นอัตราการเติบโตสูงสุดของเรา

สำหรับประเทศไทยเองนั้น ก็ถือเป็นตลาดสำคัญของเรา ด้วยมียอดขายเป็นอันดับสอง รองจากอินโดนีเซีย โดยมีกำลังหลักในการขับเคลื่อนธุรกิจโดย บริษัท วีพีพีดับเบิลยู ซัพพลายส์ จำกัด ทำให้เรามีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

ขณะที่เวียดนามนั้นมียอดขายตามมาเป็นอันดับสาม

เล็งสกู๊ตเตอร์ อีวี

สำหรับในส่วนของรถจักรายานยนต์อีวีนั้น ถือเป็นหัวข้อสำคัญในการดำเนินธุรกิจของกลุ่มยานยนต์ ซึ่ง “พิอาจิโอ” เราศึกษามาเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ทำรถจักรยานยนต์ไฮบริดรุ่นแรกของโลก “Piaggio” รุ่น Liberty ออกมา และเชื่อว่าจากนี้ไปยังต้องมีปัจจัย ทั้งระบบอีโคซิสเต็มต่าง ๆ ของแต่ละประเทศ ว่ามีความพร้อมมากน้อยแค่ไหน เพราะรถอีวีเรามีผลิตแล้วที่โรงงานจีน ซึ่งการจะแนะนำออกสู่ตลาดคงต้องดูเวลาที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้เป็นปัญหากับลูกค้าในอนาคต แม้เราจะมีองค์ความรู้ แต่ยังมองว่าปัจจุบันยังถือเป็นเพียงจุดเริ่มต้น ยังคงต้องใช้เวลาอีกยาวไกล ที่ต้องเรียนรู้ไปพร้อม ๆ กัน เร็ว ๆ นี้เราเตรียมเปิดตัวรถมอเตอร์ไซต์ไฟฟ้า แบรนด์ ‘พิอาจิโอ’ แต่จะทำตลาดประเทศใดบ้างคงต้องรอดู

นอกจากนี้ “พิอาจิโอ” ยังได้นำรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ ที่พร้อมทำตลาดในอาเซียนมาโชว์ครบทุกแบรนด์ มีทั้งแบรนด์ ‘Aprilia’ รุ่นใหม่ ตระกูล SR GT “Vespa” รุ่น GTS โมเดลเยียร์ 2023 ต่อยอดมาจากปี 2019 ขนาดเครื่องยนต์ 300 ซีซี. มี 3 รุ่นย่อย รุ่นคลาสสิก โทนสีพาสเทล ซึ่ง “พรนฏา นิวาตวงศ์” กรรมการผู้จัดการ วีพีพีดับเบิลยู ซัพพลายส์ ได้กล่าวสำทับว่า ลูกค้าชาวไทยโปรดอดใจรออีกไม่นาน

สุดท้าย… “จิอานลูกา ฟิอูเมฎ” ได้ย้ำถึงวัฒนธรรมองค์กรที่ “พิอาจิโอ” ยึดมั่นมาจน สามารถยึด ยืน และสร้างให้ Vespa กลายเป็นแบรนด์ ไอคอนิกได้นั้น คือ “การทำวันนี้ให้ดีกว่าเมื่อวานตลอดเวลา เพราะถ้าเราต้องการอยู่ได้อย่างแตกต่างจากคู่แข่ง นี่คือโอกาสสำคัญ และเป็นสิ่งที่พิอาจิโอมีอยู่”