อีวีไพรมัสพับแผน “SERES” ควงพันธมิตรบุก EV ไซซ์เล็ก 3 แบรนด์รวด

วันที่ 7 เมษายน 2566 - 12:00 น.

“อีวี ไพรมัส” เบรกแผนทำตลาดอีวีจีนไซซ์ใหญ่แบรนด์ “SERES” หลังมองไม่เห็นอนาคตคู่แข่งเยอะ หันจับตลาดอีวีตัวเล็กแบรนด์ใหม่ เผยแบรนด์ VOLT พร้อมกลับมาบุกตลาดอีกครั้งหลังเผชิญวิบากกรรมต้องคืนเงินจองลูกค้ากว่าครึ่ง ย้ำปีนี้มั่นใจทุกอย่างพร้อมเดินหน้าทำตลาด แย้มมีอีวีแบรนด์ใหม่ลงตลาดเพิ่มวิ่งไกล 300 และ 400 กม. ตั้งเป้าขายปีละหมื่นคัน

วันที่ 7 เมษายน 2565 นายพิทยา ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีวี ไพรมัส จำกัด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ได้ปรับแผนรุกตลาดครั้งใหญ่ โดยจะยกเลิกแผนทำตลาดอีวีจีนแบรนด์ SERES ซึ่งเป็นรถอีวีขนาดกลางและใหญ่เพราะคู่แข่งเยอะ โดยหันมาทำตลาดซิตี้คาร์อีวีเพียว ๆ ซึ่งจะมีแบรนด์ใหม่มาเสริมอีก 2 แบรนด์ วิ่งได้ไกล 300 กม. และ 400 กม. โดยรุ่นที่วิ่งได้ 300 กม.จะสามารถทำตลาดได้ประมาณกลางปีนี้ ส่วนรุ่นวิ่งได้ 400 กม. น่าจะเริ่มได้ปลายปี

นายพิทยากล่าวอีกว่า หลังจากแผนอีวีแบรนด์ VOLT ประสบปัญหาต้องเผชิญกับวิบากกรรมหลายเรื่องโดยเฉพาะไม่สามารถส่งมอบรถได้ตามพรีบุ๊กกิ้ง เนื่องจากโรงงานผลิตได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนชิป วิกฤตโควิดกระทบปัญหาโลจิสติกส์ และปัญหาการตรวจสภาพรถ ส่งผลให้รถอีวี VOLT ที่ขายไปยังไม่สามารถจดทะเบียนได้ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้พยายามปรับปรุงแก้ไขจนล่าสุดทุกอย่างเรียบร้อยและพร้อมที่จะกลับมาทำตลาดอีกครั้ง

แบรนด์ SERES ที่อีวีไพรมัส ตัดสินใจพับแผนเนื่องจากคู่แข่งในตลาดมีจำนวนมาก

“ยอมรับว่าที่ผ่านมาบริหารผิดพลาดรับพรีบุ๊กกิ้งมาราว ๆ 1,600 คันตั้งแต่ปลายปี 2564 ด้วยราคาความน่ารักของรถและลูกค้าที่ทดลองขับก็ชื่นชอบ แต่ปัญหาชิปกับโควิดกระทบการผลิตรุนแรงมาก โรงงานไม่สามารถส่งรถให้ได้ เรามองว่าถ้าปล่อยเป็นสภาพนี้เราจะเอาเปรียบลูกค้ามากไป จึงตัดสินใจช่วงตรุษจีนปี 2565 ขอตัดเอาแค่ครึ่งเดียวคือ 800 คัน ที่เหลืออีก 800 คัน ให้เซลส์โอนคืนเงินจองทั้งหมดเลย เราเชื่อว่าถ้ารถดีจริงก็น่าจะกลับมาทำตลาดได้ใหม่”

นายพิทยากล่าวอีกว่า ช่วงนั้นถูกต่อว่ามากทั้งไฟแนนซ์และลูกค้าบางคนทำสัญญาเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่มีรถส่งมอบ พอครบ 90 วันต้องไปทำสัญญาใหม่ แต่ตอนนี้ปัญหาต่าง ๆ คลี่คลายไปเยอะ คิดว่าอีก 100 กว่าคันที่เหลือหลังจากส่งมอบไปแล้ว 600 กว่าคันจะถึงมือลูกค้าเร็ว ๆ นี้ ตอนนี้รถลงเรือเรียบร้อยน่าจะจบภายในเดือนเมษายนนี้ แต่บริษัทยังไม่พร้อมที่จะเปิดจองรอบใหม่ หน้าที่ต่อไปคือการจดทะเบียนทั้ง 800 คัน

Advertisment

“เราพยายามเดินเรื่องจดทะเบียนมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ก็มีปัญหาพอสมควร แต่ตอนนี้ทุกอย่างสมบูรณ์แล้ว แม้กระทั่งแบตเตอรี่ ซึ่งถ้าการตรวจรถผ่านเมื่อปีที่แล้ว เราจะประหยัดได้เยอะ ปีนี้ค่าตรวจแพงมากต้องใช้ถึง 5 ลูก ทั้งเผา เอาเข็มจิ้ม ใส่ห้องอบความเย็นโยนลงน้ำ เราเสียเงินไปกับการตรวจประมาณ 5 ล้านบาท ถึงวันนี้ทุกอย่างผ่านหมด รอแค่อธิบดีลงนามก็จดทะเบียนได้”

กรรมการผู้จัดการอีวี ไพรมัส กล่าวอีกว่า หลังจากเคลียร์ปัญหาแล้วก็พยายามเดินสายชี้แจงดีลเลอร์ พร้อมทั้งแจงให้ดีลเลอร์ทราบถึงทิศทางการทำตลาดว่าจะบุกเฉพาะอีวีไซซ์เล็กเท่านั้น ซึ่งเกือบทุกรายพร้อมทำตลาดไปด้วยกัน โดยล่าสุดบริษัทยังได้พันธมิตรเข้ามาช่วยผลักดันการทำธุรกิจ รายแรก คือ กลุ่มทีวีไดเร็ค และอีกรายเป็นไฟแนนเชียลพาร์ตเนอร์จากต่างประเทศ ส่วนรายละเอียดจะมีการเปิดเผยอีกครั้ง เนื่องจากติดข้อกำหนดเรื่องการเปิดเผยข้อมูล

สำหรับตลาดอีวีไซซ์เล็กปีหนึ่งประมาณ 1.5 หมื่นคัน โดยคำนวณจากอีโคคาร์ซึ่งตลาดรวมต่อปีประมาณ 1 แสนคัน จะมีราว ๆ 10-15% ที่คอนเวิร์ตมาเป็นอีวี ดังนั้นถ้าภายใน 3 ปีนี้ ทำยอดขายได้ในระดับหมื่นคัน ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว

Advertisment

ส่วนโรงงานประกอบ ซึ่งเดิมใช้โรงงานกรีนฟิลเตอร์ ในนิคมอุตสาหกรรมเกตเวย์ จ.ฉะเชิงเทรา บริษัทได้พันธมิตรรายใหม่ ซึ่งโรงงานนี้นอกจากจะผลิตได้ทั้ง 3 โมเดลแล้ว ยังมีไลน์ผลิตมอเตอร์ไฟฟ้า สำหรับรองรับรถยนต์ไฟฟ้าด้วย

“พื้นที่ใหม่อยู่ในเขตฟรีโซน เช่นเดียวกับโรงงานที่ฉะเชิงเทรา ล่าสุดเจรจากับบีโอไอเรียบร้อย ปีหน้าก็พร้อมเดินเครื่องได้ทันทีตามเงื่อนไขที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล”

ปัจจุบันอีวี ไพรมัส มีโชว์รูมและศูนย์บริการมากกว่า 30 แห่งทั่วประเทศ