รถอีวีไซซ์เล็กเขย่าตลาด “BYD-วู่หลิง” ดัมพ์ราคาถล่มซิตี้คาร์

อีวีไซซ์เล็ก

“อีโคคาร์-ซิตี้คาร์” ระอุหนัก ค่ายรถจีนเข็น EV ถล่มชิงส่วนแบ่งตลาด 1.5 แสนคันต่อปีอุตลุด BYD Dolphin เปิดราคา 6 แสนกว่า ๆ ขณะที่อีวี ไพรมัส ส่ง “วู่หลิง แอร์” อีวีไซซ์เล็กกระหน่ำขายไม่ถึง 5 แสนบาท “บลูมเบิร์ก” ฟันธงตลาดรถ EV มาแรงเกินคาด “อาเซียน” โตกว่า 200% แบรนด์จีนกินส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 90% แถมยังได้รับอานิสงส์ราคาแบตเตอรี่ถูกลง ผู้ผลิตกดราคา

ตลาดรถ EV ในประเทศไทยกำลังคึกคักและมีแนวโน้มสดใส หลายคนประเมินว่าปี 2566 น่าจะขยายเป็นเท่าตัว โดยมีตัวเลขการจดทะเบียนสนับสนุน ซึ่งกรมการขนส่งทางบกรายงานสถิติการจดทะเบียนของรถพลังงานไฟฟ้าทั่วประเทศตั้งแต่เดือน ม.ค.-พ.ค. 2566 มียอดจดทะเบียนแล้วกว่า 3 หมื่นคัน โตเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนมากกว่า 400%

อีโคคาร์ระอุ

นายประธานวงศ์ พรประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด ผู้จัดจำหน่ายและให้บริการหลังการขายรถยนต์ BYD เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าปีนี้มีผู้ประกอบการทยอยเข้าตลาดอย่างต่อเนื่อง ทำให้เชื่อว่าการเติบโตแบบเป็นดับเบิลแน่นอน และเป้าหมายที่รัฐบาลมองว่าภายในปี 2568 จะมียอดขายรถ EV ที่ 100,000 คันน่าจะเร็วขึ้น โดย BYD จะมีรถอีก 2 รุ่นเสริมทัพคือ BYD Dolphin และราวไตรมาส 4 อีก 1 รุ่น

“เป้าหมายเราต้องการเจาะตลาดในกลุ่มซิตี้คาร์ ซึ่งเราไม่ได้มองแค่กลุ่มรถ EV ด้วยกันเท่านั้น แต่เป้าหมายของเราจริง ๆ คือ เปลี่ยนลูกค้ารถน้ำมัน (ICE) ให้มาเป็นอีวี เรามั่นใจว่าสินค้ามีความน่าสนใจและคุ้มค่า อาจจะไม่ถูกสุดในตลาด แต่เราคุ้มค่ามากที่สุด และตอบทุกโจทย์ความต้องการลูกค้า ลูกค้าใช้รถ EV ก่อนหน้านี้อาจจะมองเรื่องซีโร่คาร์บอนและประหยัด แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่”

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับราคาจำหน่ายของ BYD Dolphin มีการคาดการณ์ว่า หลังจากได้รับเงินอุดหนุนรถยนต์ไฟฟ้าจากกรมสรรพสามิตมูลค่า 150,000 บาท น่าจะมีราคาเริ่มต้น 6XX,XXX บาท และสามารถส่งมอบรถได้ภายในกลางเดือนกรกฎาคมนี้

เช่นเดียวกับนายพิทยา ธนาดำรงศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีวี ไพรมัส จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าแบบมัลติแบรนด์แห่งแรกของไทย และเป็นผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ Wuling แต่ผู้เดียวในประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทพร้อมเปิดรับจอง วู่หลิง แอร์ อีวี (Wuling Air EV) ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ www.wulingthai.com โดยผู้จองและชำระเงินจอง 5,000 บาทผ่านหน้าเว็บ จะได้รับราคาช่วงแนะนำ และโปรโมชั่นพิเศษคือ 395,000 บาท โดยชูผ่อนสบายแค่ 4,549 บาทต่อเดือน และสามารถรับรถได้ภายในกรกฎาคมนี้เป็นต้นไป

“เราทำโปรโมชั่นร่วมกับกรุงศรี ออโต้ และวิริยะ ประกันภัย ผ่อนตั้งแต่ 48 เดือนถึง 84 เดือน เงินดาวน์เริ่มต้นที่ 5% พร้อมดอกเบี้ย 2.69% และเงินผ่อนต่อเดือนเริ่มต้นที่ 4,549 บาทเท่านั้น เบื้องต้นบริษัทได้นำเข้ารถลอตแรกมาแล้วจำนวน 400 คัน วู่หลิง แอร์ ผ่านการทดสอบในรายการต่าง ๆ ตามกฎเกณฑ์และระเบียบของกรมการขนส่งทางบกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว บริษัทยืนยันว่าจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกได้อย่างแน่นอน และจะสั่งรถเพิ่มเติมอีกหลังทราบยอดจอง ตั้งเป้าปีนี้อยู่ที่ 2,000 คัน”

จ้องถล่มซิตี้คาร์

WULING AIR EV มี 2 รุ่นคือ Standard Range ราคา 395,000 บาท มีความจุของแบตเตอรี่ 17.3 kWh สามารถวิ่งได้ 200 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง 8 ชั่วโมง อีกรุ่น Long Range ราคา 465,000 บาท มีความจุของแบตเตอรี่ 26.7 kWh สามารถวิ่งได้ 300 กม. ต่อการชาร์จแบบ AC 6.6 kw 1 ครั้ง 4 ชั่วโมง โดยในรุ่น Long Range พร้อมแอปพลิเคชั่นควบคุมการทำงานของรถได้จากระยะไกล อาทิ ล็อก-ปลดล็อกรถ ปรับกระจกขึ้น-ลง เปิด-ปิดแอร์ เช็กสถานะแบตเตอรี่ ระยะทางที่วิ่งได้ และตำแหน่งรถ

นายพิทยากล่าวอีกว่า ได้ปรับแผนรุกตลาดครั้งใหญ่ โดยจะยกเลิกแผนทำตลาดอีวีจีนแบรนด์ SERES ซึ่งเป็นรถอีวีขนาดกลางและใหญ่ เพราะคู่แข่งเยอะ โดยหันมาทำตลาดซิตี้คาร์ EV อย่างเดียว ซึ่งแบรนด์แรกที่เปิดไปแล้วคือ VOLT และแบรนด์ที่ 2 คือ WULING โดยกำลังจะเปิดแบรนด์ที่ 3 ปลายปีนี้ โดยแบรนด์ใหม่นี้จะสามารถวิ่งได้ 400 กม.

สำหรับตลาดอีวีไซซ์เล็กคาดการณ์ว่าจะมียอดขาย 1.5 หมื่นคันต่อปี โดยคำนวณจากอีโคคาร์ซึ่งตลาดรวมต่อปีประมาณ 1 แสนคัน เราหวังไว้ 10-15% ที่คอนเวิร์สมาเป็นรถ EV ดังนั้น ถ้าภายใน 3 ปีจากนี้เราทำยอดขายได้ในระดับหมื่นคันก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ตลาดซิตี้คาร์และอีโคคาร์ ปัจจุบันมีระดับราคาตั้งแต่ 5-8 แสนบาท เจ้าตลาดได้แก่ โตโยต้า ซึ่งมี ยาริส เอทีฟ และยาริส แฮตช์แบ็ก เป็นหัวหอก ขณะที่ฮอนด้ามี ฮอนด้าซิตี้ ทั้งซีดานและ 5 ประตู นิสสัน มีอัลเมร่าที่เพิ่งบิ๊กไมเนอร์เชนจ์ ส่วนมิตซูบิชิมีทั้งมิราจและแอทราจ เช่นเดียวกับแบรนด์มาสด้า ก็เพิ่งรีลอนช์ มาสด้า 2 เชื่อว่าตลาดกลุ่มนี้น่าจะมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด หลังจากค่ายจีนบุกชิงส่วนแบ่งตลาด โดยเฉพาะช่วงโลว์ซีซั่นที่กำลังมาถึงตอนนี้

EV อาเซียนโต 200%

นายแอลเลน ทอม อับราฮัม ผู้เชี่ยวชาญด้านการขนส่งในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก บริษัท บลูมเบิร์ก นิว เอเนอร์จี้ ไฟแนนซ์ (บีเอ็นอีเอฟ) เปิดเผยรายงานแนวโน้มรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ปี 2566 ในภูมิภาคอาเซียนว่า ลูกค้าเปลี่ยนมาใช้รถ EV อย่างรวดเร็วมาก กลุ่มรถจักรยานยนต์ EV และสามล้อ EV มีสัดส่วนเกือบครึ่ง หรือ 49% จากตลาดรวม 292,424,403 คัน ขณะที่กลุ่มรถบรรทุก EV มีสัดส่วนในตลาด 3% จากตลาดรวม 965,442 คัน ขณะที่รถยนต์นั่ง EV มีสัดส่วน 14% จากตลาดรวม 26,583,856 คัน (ในจำนวนนี้รวมถึงรถปลั๊ก-อิน ไฮบริดด้วย) และกลุ่มรถบัสมีสัดส่วน 38% จาก 666,479 คัน

“กลุ่มประเทศที่เป็นเจ้าตลาดรถ EV ยังเป็นจีนและยุโรปถือเป็นผู้นำในการใช้ EV ในตลาดรถยนต์นั่ง และวันนี้ก็ยังเติบโตต่อเนื่อง และที่น่าสนใจคือกลุ่มประเทศในตลาดอาเซียนมีอัตราการเติบโตของรถ EV สูงถึง 220% อินเดีย 219% ญี่ปุ่น 100% และออสเตรเลีย 95%”

สำหรับประเทศไทยรถ EV ปัจจุบันมีสัดส่วนในตลาดราว ๆ 5% จากยอดขายรวมทั้งประเทศ 8-9 แสนคัน สาเหตุการเติบโตของตลาดรถ EV ในไทย มาจากนโยบายการสนับสนุนและส่งเสริมจากภาครัฐ รวมถึงผู้ผลิตจากจีนนำเสนอแบรนด์ EV ที่หลากหลาย ทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงได้ง่ายขึ้น

ส่วนรถ EV ที่ขายในประเทศอาเซียนกว่า 50% นั้นเป็นแบรนด์ EV จากจีน และประเมินว่ายอดขายรถ EV จะเพิ่มจาก 10.5 ล้านคัน ในปี 2565 เป็น 75 ล้านคัน ในปี 2583 ล้านคัน โดยจีนจะมีส่วนแบ่งในตลาดรถ EV ถึง 90% ส่วนตลาดจะเพิ่มสัดส่วนในตลาดเป็น 30% จากยอดรถยนต์ทั้งหมด

ราคารถ EV จะเท่าสันดาป

นายอับราฮัมกล่าวอีกว่า แม้รถ EV จะเข้ามาทดแทนรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปทั้งหมดไม่ได้ แต่ก็พบว่ายอดขายได้รับผลกระทบมาตลอด และอยู่ในช่วงขาลงจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และปัญหาและอุปสรรคด้านห่วงโซ่อุปทาน โดยคาดการณ์ว่าในปี 2569 ยอดขายรถยนต์สันดาปจะหดตัวลงสูงสุดถึง 39%

ขณะที่ตลาดรถ EV ยังได้รับอานิสงส์จากแนวโน้มของราคาแบตเตอรี่ที่ลดลง ซึ่งปัจจุบันราคาแบตเตอรี่ลิเทียมต่อกิโลวัตต์อยู่ที่ 124 ดอลลาร์สหรัฐ ประเมินว่าในปี 2569 จะอยู่ที่ 100 ดอลลาร์สหรัฐ และปี 2573 จะอยู่ที่ 77 ดอลลาร์สหรัฐ

ปี 2578 จะเหลือเพียง 62 ดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้น เชื่อว่าราคารถ EV จะถูกลงเท่ารถที่ใช้เครื่อยนต์สันดาป ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อรถ EV ได้ง่ายขึ้น