รถสันดาปซบต่อเนื่อง EV จีนแซงญี่ปุ่นจ่อขึ้นท็อป 5

BYD-DOLPHIN

ขายรถ 7 เดือนยอดไม่ถึง 5 แสนคัน ตลาดรถชะลอตัว แต่ฟากรถจีน EV ยังขายฉลุย “MG-BYD” ปาดหน้าทัพญี่ปุ่นจ่อติดท็อป 5

แหล่งข่าวจากกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ หอการค้าญี่ปุ่น หรือเจโทร เปิดเผยยอดขายรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา พบว่ามียอดทั้งสิ้น 58,330 คัน ลด 5% แบ่งเป็นโตโยต้า 20,421 คัน, อีซูซุ 11,735 คัน ฮอนด้า 7,551 คัน ฟอร์ด 2,754 คัน มิตซูบิชิ 2,505 คัน MG 1,975 คัน, BYD 1,376 คัน, มาสด้า 1,287 คัน, นิสสัน 1,204 คัน, NETA 1,161 คัน ซูซูกิ 1,012 คัน เกรท วอลล์ฯ 777 คัน, Tesla 272 คัน และอื่น ๆ 4,300 คัน

ขณะที่ยอดขายรถยนต์โดยรวม 7 เดือน (ม.ค.-ก.ค.) มียอดสะสมทั้งสิ้น 464,461 คัน ลดลงไปโดยประมาณ 6% แบ่งเป็นโตโยต้า 157,280 คัน อีซูซุ 98,016 คัน ฮอนด้า 53,685 คัน ฟอร์ด 22,882 คัน มิตซูบิชิ 22,340 คัน MG 15,046 คัน, BYD 12,544 คัน มาสด้า 11,106 คัน นิสสัน 10,437 คัน, ซูซูกิ 8,006 คัน, NETA 7,563 คัน, เกรท วอลล์ฯ 6,999 คัน และอื่น ๆ 33,190 คัน

“เป็นที่น่าสังเกตว่า ค่ายจีนไต่ระดับขึ้นมาจ่อติดท็อปไฟฟ์กันหลายแบรนด์ ในขณะที่ญี่ปุ่นถดถอยลงไปเรื่อย ๆ”

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ยอดขายที่หดตัวลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากกำลังซื้อและการยืดเยื้อจัดตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้ง ประกอบกับในช่วงไตรมาส 3 ของทุกปีเป็นช่วงโลว์ซีซั่น เชื่อว่าค่ายรถส่วนใหญ่จะต้องเร่งคลอดแคมเปญ พร้อมโปรโมชั่นแรงออกมากระตุ้นกำลังซื้อ โดยในช่วงวันที่ 25 ส.ค.-3 ก.ย.ปีนี้ จะมีอีเวนต์ใหญ่ “บิ๊กมอเตอร์เซล” น่าจะทำให้ตลาดกลับมาคึกคักมากขึ้น โดยเฉพาะมีค่ายรถยนต์ทยอยส่งรถยนต์รุ่นใหม่ รุ่นปรับโฉม ทั้งมิตซูบิชิ ไทรทัน, โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์, ฮอนด้า ซิตี้, ฮาวาล โจไลออน และมาสด้า2

Advertisment

ก่อนหน้าที่ค่ายรถยนต์รายใหญ่อย่างโตโยต้า เคยประกาศปรับเป้าหมายการขายรวมทั้งปีที่ 855,000 คัน ลดลงจากปีก่อน 0.7% โดยให้เหตุผลจากเศรษฐกิจโดยรวมที่จะมีแนวโน้มค่อย ๆ ฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลัง หลังจากในช่วงครึ่งปีแรกตลาดชะลอตัว เป็นผลมาจากอัตราดอกเบี้ย ภาวะสินเชื่อตึงตัว และความผันผวนทางเศรษฐกิจ ทำให้ผู้บริโภคชะลอตัว จนยอดขายในช่วง 6 เดือนแรกลดลงไป 5% ทำได้เพียง 406,131 คันเท่านั้น แต่การฟื้นตัวในครึ่งปีหลังก็ยังไม่ดีขึ้น ซึ่งหลายฝ่ายคาดการณ์ว่าน่าจะมีการปรับเป้าการขายกันใหม่

“ในส่วนของสภาอุตฯก็ปรับลดยอดการผลิตทั้งปีลง 5 หมื่นคัน โดยคาดการณ์ว่ามีตัวเลขการผลิตลดลงจากเดิมที่ตั้งเป้ายอดผลิตไว้ที่ 1.9 ล้านคัน เหลือแค่ 1.95 ล้านคัน ทำเม็ดเงินในประเทศหายไปกว่า 5 หมื่นล้านบาท”