คอลัมน์ : เทสต์คาร์ ผู้เขียน : วุฒิณี ทับทอง
แม้ค่ายฮอนด้าจะตัดสินใจเลื่อนแผนการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่จะผลิตจากโรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้าในนิคมสวนอุตสาหกรรมโรจนะ จ.ปราจีนฯ ออกไปก่อนโดยยังไม่มีกำหนดชัดเจน
แต่ฮอนด้าไม่ยอมเสียโอกาสทอง หลังจากพาสื่อมวลชนไปร่วมสัมผัสงานแสดงรถยนต์และนวัตกรรมการขับเคลื่อนโมบิลิตี้ ที่จัดขึ้นมาภายใต้ชื่อ “เจแปนโมบิลิตี้”
ก็พาสื่อมวลชนรวมทั้ง “ประชาชาติธุรกิจ” ไปสัมผัสและทดลองขับรถยนต์ไฟฟ้า Honda e:N1 EV รถบี-เอสยูวี ที่ใช้พลังขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% ที่สนามโตชิกิ ศูนย์ R&D ใหญ่ของฮอนด้าซะเลย
สำหรับรถ Honda e:N1 EV คันนี้ถือเป็นผลิตผลความร่วมมือกับสองพันธมิตรคือ ตงฟง (Dongfeng) และจีเอซี (GAC) รวมกับ ฮอนด้า เพื่อพัฒนารถคันนี้สำหรับทำตลาดในประเทศจีน รวมทั้งมีการผลิตและส่งออกไปยังประเทศต่าง ๆ
ด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่พัฒนามาจากรถไซซ์บีเอสยูวี อย่าง Honda HR-V แล้วรถถูกจับมาพัฒนาต่อยอด เพื่อให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% ดังนั้น ภายนอกของรถคันนี้เมื่อมองผาด เรียกว่าแทบจะไม่แตกต่าง
นอกจากกระจังด้านหน้าที่ถูกออกแบบมาให้มีลักษณะปิดฟอนต์ตัวอักษรสัญลักษณ์ ชื่อยี่ห้อ Honda ถูกออกแบบใหม่เน้นความมินิมอลสัญลักษณ์ H Mark สีขาวนวลตา
ตรงกระจังด้านหน้ามีช่องเปิดสำหรับชาร์จไฟฟ้า ซึ่งการออกแบบตรงนี้โดยส่วนตัวแล้วมองว่าไม่ค่อยเป็นมิตรกับผู้ใช้งานเท่าที่ควร เนื่องจากเวลาจอดชาร์จไฟฟ้าจะต้องใช้วิธีเสียบหัวรถเข้าไปเพื่อชาร์จไฟฟ้า
หากจะออกแบบมาให้เป็นช่องเสียบไปด้านข้างเช่นเดียวกับการเปิดฝาถังน้ำมัน น่าจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานได้มากกว่าหรือไม่ ตรงนี้แล้วแต่มุมที่จะมอง
ส่วนบานประตูท้าย ติดตรา Emblem HONDA ประตูฝาท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อม kicks sensor
เมื่อเข้ามาภายในห้องโดยสาร ไม่ได้มีความแตกต่างไปจาก Honda HR-V มีไฟ ambient light, มีหน้าจอสัมผัสขนาด 15.1 นิ้ว ส่วนที่ชอบคือการออกแบบหน้าจอ โดยแบ่งหน้าจอออกเป็น 3 ส่วนสำหรับการใช้งาน ทั้งดูระบบการชาร์จไฟฟ้า สถานะการชาร์จไฟ ระบบควบคุมเครื่องเสียง ระบบปรับอากาศ รวมทั้งระบบต่าง ๆ ถูกแบ่งและจัดวางได้อย่างลงตัว
จอหน้าปัดขนาด 10.25 นิ้ว มีระบบกล้องมองภาพ 360 องศา มีระบบช่วยจอดอัตโนมัติ Honda Parking Pilot และระบบความปลอดภัย Honda SENSING มาให้ มีหลังคาซันรูฟ เหมือนใน HR-V
เราได้รับสิทธิในการขับรถคันนี้คนละ 3 รอบสนาม Tochigi Proving Ground แห่งนี้เรียกว่าให้พอได้สัมผัสกับกับรถคันนี้กันพอหอมปากหอมคอ
รถ Honda e:N1 EV มาพร้อมขุมพลังของมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า ส่วนแรงบิดสูงสุดที่ 310 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ Ternary Lithium-ion ขนาด 68.8 kWh
สำหรับแบตเตอรี่นั้น รองรับการชาร์จกระแสสลับ AC 7.7 กิโลวัตต์ / DC Fast Charging สูงสุด 100 กิโลวัตต์
ใช้ระยะเวลาชาร์จจาก 0-80% ภายใน 40 นาที
อัตราเร่ง 0-100 กม. ต่อ ชม. อยู่ที่ 7.7 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดที่ 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ในตำแหน่งของผู้ขับถือว่าค่อนข้างลงตัว ทั้งในตำแหน่งที่นั่งและการจัดวางอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่าง ๆ ทัศนวิสัยค่อนข้างดี ทีมงานวิศกรผู้ออกแบบบอกว่าตั้งใจออกแบบรถคันนี้มาให้ไร้รอยระหว่างรถเครื่องยนต์สันดาป มาสู่รถยนต์ไฟฟ้า จากประสบการณ์และดีเอ็นเอ ที่ฮอนด้าสะสมมาเป็นระยะเวลากว่า 70 ปี ได้ถูกนำมาเพิ่มสมรรถนะบางอย่างที่ไม่สามารถทำได้ในรถเครื่องยนต์สันดาปภายใน
แน่นอนว่าเมื่อเราได้ทดลองขับรถคันนี้ถือว่าขับสนุก อัตราเร่งดี ค่อนข้างเนียนเท้า จังหวะการทำงานของมอเตอร์ไร้ปัญหา ที่ต้องชมคือฮอนด้าเซตรถยนต์ไฟฟ้าคันนี้มาให้ความสึกใกล้เคียงกับเครื่องยนต์สันดาปภายในได้มากที่สุด (เมื่อเทียบกับรถอีวีอื่น ๆ)
รถคันนี้มี 3 โหมขับขี่ให้เลือก คือ sport normal และ econ
ขณะที่ช่วงล่างเอง แม้ว่าจะออกแบบวางแบตเตอรี่ไว้ใต้พื้นรถ เพื่อต้องการรักษาบาลานซ์และการถ่ายเทน้ำหนัก แต่โดยส่วนตัวในตำแหน่งหลังพวงมาลัยนั้นถือว่ารถคุมได้ค่อนข้างดี จังหวะเข้าโค้งและการยึดเกาะถนนดี รถคุมได้ง่าย
แต่เมื่อลงไปนั่งในตำแหน่งผู้โดยสารด้านหลัง ยังสัมผัสได้ถึงแรงเหวี่ยงแรงโยนในจังหวะเข้าโค้งอยู่พอสมควร
ที่สำคัญการขับในสนามแบบนี้สภาพเส้นทางไม่ใช่เส้นทางแบบที่เราใช้ปกติ และยังมีปัจจัยหลาย ๆ อย่างที่ควบคุมได้ต่างจากการวิ่งลงถนนจริง
คงต้องรอดูกันว่า ในวันที่ฮอนด้าตัดสินใจนำรถไฟฟ้า Honda e:N1 EV ทำตลาดในบ้านเราจริง ๆ จะถูกพัฒนาให้เหมาะสมกับการใช้งานในบ้านเรามากน้อยแค่ไหน?
ที่สำคัญ รูปแบบการทำตลาดและการขายที่ฮอนด้ายังจด ๆ จ้อง ๆ อยู่ ว่าจะดีไซน์ออกตัวอย่างไร คงต้องติดตาม
เพราะในวันที่ตลาดรถอีวีบ้านเรา วันนี้ถูกค่ายจีนกวาดยอดขายเกี่ยวลูกค้าไปล่วงหน้ามาโข
การเข้ามาทำตลาดของค่ายญี่ปุ่นเองนั้น คงต้องใช้ความชัวร์พอสมควร เพราะเดิมพันครั้งนี้ต้องบอกว่า เป็นหมากที่ฮอนด้าก็คงไม่อย่างเพลี่ยงพล้ำ อย่างแน่นอน