โตโยต้า ประกาศจ่ายโบนัสสวนกระแสเศรษฐกิจชะลอตัว แจกสูงสุดในรอบ 10 ปี ด้านประธานสหภาพเผยเจรจากับบริษัทหวังให้เม็ดเงินไหลเวียนเข้าไปช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ
วันที่ 21 มีนาคม 2567 ดร.ปิยะรัชต์ สมาทา ประธานสหภาพแรงงานโตโยต้า เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ภายหลังจากสหภาพได้มีเข้าเจรจาเพื่อหารือกับทีมผู้บริหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด จนได้มติข้อสรุปของเงินพิเศษ หรือเงินโบนัสในปี 2567 นี้
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
โดยประกาศให้เป็นจำนวนทั้งสิ้น 8 เดือน และบวกเพิ่มเงินพิเศษอีก 45,000 บาท และเพิ่มขึ้นจากเงินพิเศษโบนัส ในปี 2566 ที่จ่ายในจำนวน 7.5 เดือน บวกเงินพิเศษ 18,000 บาท สำหรับเงินโบนัสที่โตโยต้าประกาศให้กับพนักงานในปีนี้นั้น เป็นผลมาจากผลประกอบการในการดำเนินธุรกิจในปี 2566 ที่ผ่าน
ดร.ปิยะรัชต์ยังกล่าวต่อไปกับผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สำหรับโบนัสครั้งนี้บริษัทจะแบ่งจ่ายให้กับพนักงานเป็น 4 ครั้ง ดังนี้
- ครั้งที่ 1 ในเดือนเมษายน เป็นการจ่ายเงินบวกเพิ่มพิเศษเป็นจำนวน 45,000 บาท
- ครั้งที่ 2 ในเดือนมิถุนายน เป็นจำนวน 3 เดือน
- ครั้งที่ 3 ในเดือนตุลาคม เป็นจำนวน 1 เดือน
- ครั้งที่ 4 ในเดือนธันวาคม เป็นจำนวน 4 เดือน
“ที่ผ่านมาเรามีการหารือกับทีมผู้บริหารมาอย่างต่อเนื่อง เงินโบนัสในปีนี้ถือเป็นยอดที่ค่อนข้างสูงในรอบระยะเวลาเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา แม้ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจจะยังชะลอตัว และกำลังซื้อหายไปมาก โดยเฉพาะในอุตสาหกรมยานยนต์
แต่สหภาพได้หารือและอยากให้โตโยต้ามีส่วนร่วมในการรับผิดชอบต่อสังคมประเทศ เพื่อทำให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ นี่คือเหตุผลหนึ่งในการเจรจาเงินโบนัสในปีนี้ และผู้บริหารวมทั้งบริษัทก็เห็นตรงกัน เราหวังว่าเงินโบนัสครั้งนี้จะถูกนำไปจับจ่ายและหมุนเวียนเข้าสู่ระบบ ช่วยระตุ้นเศรษฐกิจได้ไม่มากก็น้อย“
ประธานสหภาพแรงงานโตโยต้ายังกล่าวว่า นอกจากการหารือกันภายในบริษัทถึงเงินพิเศษประจำปีแล้ว ส่วนหนึ่งตนเองก็พยายามจะหารือและสื่อสารไปยังองค์กรต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมยานยนต์ รวมทั้งค่ายรถยนต์ต่าง ๆ และกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ เพื่อช่วยกันทำให้ทุกองค์กรมีความรับผิดชอบต่อสังคมร่วมกัน เพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งนี้ด้วย