GWM ยึดเวที Auto China 2024 เปิดตัวรถ 4 รุ่นจาก 4 แบรนด์

เกรท วอลล์ มอเตอร์
คอลัมน์ : รายงาน

ถือเป็นครั้งแรกของค่ายเกรท วอลล์ มอเตอร์ ที่ยึดเวทีของงานปักกิ่ง ออโต้ โชว์ ครั้งที่ 18 หรือหลาย ๆ คนคุ้นในชื่อ Auto China 2024 ด้วยการรวมแบรนด์ในเครือทั้ง 4 แบรนด์ ได้แก่

TANK, HAVAL, WEY และ ORA ยกทัพมาจัดแสดงในพื้นที่เดียวกัน เนื่องจาก เกรท วอลล์ มอเตอร์ ต้องการประกาศความสำเร็จสู่เส้นทางระดับโลก ผ่านแนวคิดระบบนิเวศยานยนต์บนโลกที่ไร้พรมแดนในงานครั้งนี้

โดย “มู่ เฟิง” ประธาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ได้ใช้เวทีนี้ยืนยันความชัดเจนที่จะพัฒนาสู่ระดับโลกโดยยึดรากฐานจากประเทศจีน ควบคู่ไปกับการพัฒนาให้สอดคล้องกับตลาดต่างประเทศ และความมุ่งมั่นที่จะพัฒนากลยุทธ์การส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ เปลี่ยนแนวคิดจากการส่งออกสินค้า เป็นการค้าต่างประเทศ พร้อมพัฒนาต่อยอดสู่แนวคิดระบบนิเวศยานยนต์บนโลกที่ไร้พรมแดน

เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังคงยึดมั่นในการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ในตลาดแต่ละประเทศ ไม่ว่าจะเป็นด้านการส่งเสริมการขาย ด้านการผลิต ด้านการดำเนินธุรกิจ ด้านวัฒนธรรมองค์กร และด้านการสร้างห่วงโซ่อุปทาน เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่มีคุณภาพในระดับโลก เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้ทำการพัฒนาตลาดต่างประเทศมามากกว่า 20 ปี จนถึงจุดสำเร็จ และได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์คุณภาพภายใต้แบรนด์อย่างเช่น TANK และ ORA ในตลาดต่างประเทศ สะท้อนผลสำเร็จของแนวคิดระบบนิเวศยานยนต์บนโลกที่ไร้พรมแดนได้อย่างมีนัยสำคัญ

และครั้งนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้ส่งไฮไลต์สุดพิเศษ 4 รุ่น ได้แก่

Advertisment

TANK 700 Hi4-T รถออฟโรด ระดับพรีเมี่ยมที่ผสมผสานสมรรถนะอันแข็งแกร่งและความหรูหราเหนือระดับ ด้วยเทคโนโลยีไฮบริดขั้นสูง เพื่อสร้าง “ความพึงพอใจของผู้ขับขี่ในทุกเส้นทาง” ขนาดที่ยาวกว่า 5 เมตร และกว้างมากกว่า 2 เมตร มาพร้อมระบบการขับเคลื่อนสี่ล้อ 3.0T Hi4-T ด้วยพละกำลังของรถยนต์ไฮบริดขนาดใหญ่ ร่วมด้วยการผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์หลายสูบที่มีความจุสูงและมอเตอร์ไฟฟ้า P2 ที่มีพลังงานสูง ให้กำลังรวมสูงสุด 385 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 800 นิวตันเมตร (850 นิวตันเมตร สำหรับรุ่น Limited Edition)

TANK 700 Hi4-T TANK 700 Hi4-T

อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในเวลาไม่ถึง 5 วินาที มี 12 โหมดการขับขี่ ลุยน้ำได้สูงสุดถึง 970 มิลลิเมตร ส่วนภายในออกแบบมาเพื่อสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่อย่างหรูหราและเหนือระดับ เบาะนั่ง Light Cloud ทำจากหนัง BADER NAPPA จากเยอรมนี รองรับกับสรีระของร่างกายเพื่อสร้างความสะดวกสบายสูงสุด ปรับระดับได้ถึง 156 องศา และ 141 องศา

เบาะด้านหลัง ที่วางขาสามารถปรับได้ 2 ทิศทาง ที่ดันหลังปรับได้ 4 ทิศทาง ระบบระบายอากาศของเบาะปรับได้ 3 ระดับ พร้อมระบบปรับอากาศ 9 ระดับ ร่วมกับระบบเสียงจาก Harman Kardon ที่มาพร้อมลำโพง 16 ตัว ที่สร้างความละเอียดเสียงระดับ Hi-Fi (High Fidelity) รถคันนี้ยังมีระบบเก็บเสียงที่มีประสิทธิภาพสูงด้วยการผนึกประตูข้างถึง 3 ชั้น และประตูด้านหลังถึง 2 ชั้น กระจกที่ป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกหนา 5 มิลลิเมตร ทำงานร่วมกับระบบลดเสียงของ Harman Kardon ทำให้ห้องโดยสารเงียบแม้จะขับขี่ที่ความเร็วสูงถึง 199 กิโลเมตรต่อชั่วโมงก็ตาม

Advertisment

SAHAR POER Hi4-T รถกระบะออฟโรดขุมพลังไฮบริดระดับไฮเอนด์ลักเซอรี่คันแรกของโลก

มาพร้อมกับ GWM Hi4-T Off-road Super Hybrid Architecture ที่พัฒนาโดย เกรท วอลล์ มอเตอร์ เป็นการผสมผสานทั้งพลังงานน้ำมันและพลังงานไฟฟ้าเข้าไว้ด้วยกัน มาพร้อมกับระบบส่งกำลังที่ประกอบด้วยเครื่องยนต์ 2.0T เกียร์ 9HAT และมอเตอร์ไฟฟ้า P2 ให้กำลังรวมสูงสุด 300 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 750 นิวตันเมตร และอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 7.15 วินาที

มี 3 โหมดการขับขี่ ได้แก่ โหมดไฟฟ้าล้วน โหมดไฮบริด และโหมดอัจฉริยะ โดยเมื่อระดับแบตเตอรี่อยู่ต่ำกว่า 13.5% ระบบจะเปลี่ยนเป็นไฮบริดโดยอัตโนมัติ และเมื่ออยู่ในระบบไฮบริดและแบตเตอรี่ต่ำกว่า 10% รถจะเปลี่ยนเป็นการขับเคลื่อนเป็นเครื่องยนต์โดยอัตโนมัติและทำการชาร์จพลังงานเข้าแบตเตอรี่ รถคันนี้วิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนในระยะสูงถึง 100 กิโลเมตร ส่วนอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานจะมีประสิทธิภาพมากถึง 2.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร โดยสามารถวิ่งได้ไกลสูงสุดถึง 780 กิโลเมตร

SAHAR POER Hi4-T SAHAR POER Hi4-T

HAVAL H6 รถยนต์เอสยูวีเจเนอเรชั่น 4 นี้ ที่เปลี่ยนโฉมใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์ Star River Aesthetics หรือความพลิ้วไหวของสายน้ำและดวงดาว มากับเทคโนโลยีที่ทรงพลังกว่าเดิมด้วยระบบส่งกำลัง 2 ระบบ ได้แก่ 1.5T และ 2.0T โดยระบบส่งกำลัง 1.5T ใช้เครื่องยนต์ 4B15L ทำงานร่วมกับเกียร์ 7DCT ที่ได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงที่ดีขึ้น ส่วนระบบส่งกำลัง 2.0T ใช้เครื่องยนต์ทรงพลัง 4N20A ทำงานร่วมกับเกียร์ 9DCT ขับเคลื่อนสี่ล้อที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะของ BorgWarner

พร้อมการขับขี่ 6 โหมด ใช้แพลตฟอร์มอัพเกรดจาก Coffee Intelligence เป็น “Coffee AI” ที่เพิ่มความสะดวกสบายและให้ผู้ขับขี่สามารถสนทนากับระบบได้อย่างเป็นธรรมชาติ รวมถึง Coffee Pilot ที่จะปรับเปลี่ยนตามลักษณะการท่องเที่ยวของผู้ขับขี่ในรูปแบบต่าง ๆ สร้างการขับขี่ที่มีความอัจฉริยะและประสบการณ์ที่เหนือชั้นให้กับทุกคนในครอบครัว

HAVAL H6 HAVAL H6 HAVAL H6

WEY 80 รถยนต์เอ็มพีวีสุดหรู ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้กลุ่มครอบครัว มีทั้งความสะดวกสบายและความหรูหรา มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายที่จะมอบความรู้สึกเหมือนกับบ้านหลังที่สองให้กับผู้ขับขี่ มาพร้อมกับตู้เย็นขนาดใหญ่สองประตูภายในรถยนต์ ประตูตู้เย็นที่สามารถเปิดได้ทั้งชั้นบนและชั้นล่าง ร่วมกับระบบควบคุมอุณหภูมิสองโหมด ได้แก่ โหมดทำความเย็น (0-15 องศาเซลเซียส) และโหมดทำความร้อน (35-50 องศาเซลเซียส) มาพร้อมปริมาณความจุที่ให้มาถึง 12.5 ลิตร

รถคันนี้ใช้ระบบเสียง Harman Kardon ที่มาพร้อมลำโพงรอบทิศทางมอบประสบการณ์เสียงในรูปแบบใหม่ ๆ เสมือนกับนั่งฟังในโรงละครโอเปร่า

WEY 80 ยังมอบความเงียบในห้องโดยสารได้เป็นอย่างดี เมื่อความเร็วอยู่ที่ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เสียงห้องโดยสารจะถูกควบคุมอยู่ที่ 65 เดซิเบล ควบคู่กับเทคโนโลยีลดเสียงรบกวนของเครื่องยนต์ (HALOSonic EOC) ให้ตลอดทั้งเส้นทางไร้ซึ่งสิ่งรบกวนสู่ประสบการณ์การขับขี่ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

WEY 80 WEY 80

ยิ่งไปกว่านั้น WEY 80 ยังมาพร้อมกับเครื่องฟอกอากาศระบบพลาสมา ระบบทำความสะอาดอากาศในห้องโดยสารอัจฉริยะ Volvo Air Quality System (AQS) และม่านบังแดดสำหรับแถวที่ 2 และ 3 อีกด้วย นับว่าเป็นรถยนต์ที่มอบความสะดวกสบายผ่านเทคโนโลยีเหนือระดับได้อย่างลงตัว

นี่ถือเป็น 4 รุ่นไฮไลต์จากเวที Auto China 2024 ส่วนตลาดบ้านเราคงต้องลุ้นกันว่า เกรท วอลล์ มอเตอร์ ไทยแลนด์ จะขยับจับนำรุ่นใดเข้ามาทำตลาด คงต้องติดตาม ส่วนรุ่นที่มีโอกาสและความเป็นไปได้สูงสุด คือ HAVAL H6 ที่ปลายปีนี้อาจจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงในตลาดบ้านเรา