ชงหั่นภาษีสรรพสามิตรถใหม่ ลดราคา “รถเก่าแลกรถใหม่” ฟื้นเศรษฐกิจ

ฮอนด้าชงรัฐใช้ภาษีสรรพสามิต ลดราคารถยนต์จากโครงการรถเก่าแลกรถใหม่ มาถูกที่ถูกเวลา เชื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศโดยรวม ไม่ใช่สร้างดีมานด์เทียมเหมือนโครงการรถยนต์คันแรก พร้อมเปิดเดอะซิตี้ ซีรีส์ 2 รุ่นใหม่ กระตุ้นตลาดซิตี้คาร์

นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงกรณีที่รัฐบาลมีแนวคิดในการออกมาตรการ “รถเก่าแลกรถใหม่” ของรัฐบาลว่า ถือเป็นมาตรการและแนวคิดที่ดี และมาถูกทาง กับแนวทางการจำกัดรถเก่า โดยจะส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมโดยรวม แล้วยังเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวม ไม่ใช่เป็นการสร้างดีมานด์เทียมเหมือนเช่นโครงการรถยนต์คันแรก ที่ส่งผลกระทบกับตลาดรถยนต์โดยรวมมาค่อนข้างยาวนาน เนื่องจากเป็นการปลุกดีมานด์ หรือความต้องการที่หลับอยู่ ให้ตื่นมาสนใจเปลี่ยนรถคันใหม่ จากเดิมที่ไม่เคยสนใจเลย อีกทั้งรัฐบาลไม่ต้องเสียอะไรต่างจากโครงการรถคันแรกที่เป็นการปลุกความต้องการเทียม

สำหรับโครงการ “รถเก่าแลกรถใหม่” แม้จะยังไม่มีความชัดเจนออกมาอย่างเป็นรูปธรรม ในส่วนของเงื่อนไขและรายละเอียดต่าง ๆ ดังนั้น หากรัฐบาลให้อินเซนทีฟกับผู้ซื้อรถยนต์ใหม่อย่างเต็มที่ อย่างไรรัฐบาลก็ไม่ขาดทุน แทนที่จะใช้วิธีการลดหย่อนภาษีสูงสุด 100,000 บาทนั้น หากรัฐบาลหันไปใช้วิธีการคืนภาษีสรรพสามิต น่าจะเป็นวิธีที่เหมาะสมและได้ประโยชน์สูงสุด โดยที่รัฐบาลไม่เสียผลประโยชน์ใด ๆ

“แนวทางครั้งนี้ถือว่ามาถูกทาง เพราะได้ประโยชน์ 2 เด้ง เด้งแรกเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงเวลาที่เหมาะสม เด้งที่ 2 ปัญหามลพิษที่มาจากรถอายุมาก ใช้เทคโนโลยีเก่า จะลดลงตามจำนวนที่เปลี่ยนได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่ามาถูกที่ถูกเวลา แต่รัฐบาลจะต้องกำหนดเงื่อนไขที่ชัดเจน”

นายพิทักษ์กล่าวว่า ส่วนภาพรวมของตลาดรถยนต์ในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา ฮอนด้ามีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้น จาก 27.3% เป็น 28.5% ในตลาดรถยนต์นั่ง มียอดขายที่ 74,000 คัน และคาดว่าทั้งปีจะมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มเป็น 29% ขายได้ 95,000 คัน จากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 27% เท่านั้น จากยอดขายรถยนต์ที่คาดว่าจะมียอดขายที่ระดับ 750,000 คัน เพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้ที่คาดว่าจะมียอดขายเพียง 680,000 คัน หลังจากที่ประเทศไทยต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจทั้งในและนอกประเทศที่ตกต่ำ รวมทั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด

อย่างไรก็ตาม แม้ว่ายอดขายรถยนต์จะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่ยังจำเป็นต้องจับตาสถานการณ์โควิดอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งความมั่นคงทางการเมืองที่ยังคงต้องจับตาอย่างใกล้ชิด ล่าสุดบริษัทได้แนะนำรถยนต์ 2 รุ่นใหม่ใน “เดอะ ซิตี้ ซีรีส์” กับ 2 รุ่นใหม่ฮอนด้าซิตี้ “แฮตช์แบ็ก” และ “อี:เอชอีวี ใหม่” ออกสู่ตลาด พร้อมตั้งเป้ายอดขายสำหรับฮอนด้าซิตี้ “แฮตช์แบ็ก” ไว้ที่ปีละ 30,000 คัน และ “อี:เอชอีวี ใหม่” ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 4,000 คันต่อปี

สำหรับฮอนด้าซิตี้ แฮตช์แบ็ก ราคา 599,000-749,000 บาท และฮอนด้าซิตี้ อี:เอชอีวี ราคา 839,000 บาท โดยรถทั้ง 2 รุ่นจะทยอยส่งมอบให้กับลูกค้าชาวไทยได้ในต้นเดือนธันวาคม สำหรับฮอนด้าซิตี้ ไฮบริด ส่วนฮอนด้าซิตี้ แฮตช์แบ็กนั้นจะส่งมอบได้ในเดือนมกราคม 2564

“เชื่อมั่นว่ารถทั้งสองรุ่นจะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าชาวไทย และฮอนด้าตั้งใจส่งมอบเทคโนโลยีฟูลไฮบริดเข้ามาสู่ตลาดในกลุ่มแมสมากขึ้น โดยรถทั้งสองรุ่นจะช่วยส่งเสริมให้ฮอนด้าสามารถรักษาความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์นั่งโดยรวมได้อย่างต่อเนื่อง” นายพิทักษ์กล่าว