ฮอนด้า เอชอาร์-วี ไฮบริด สวย เฉียบ ทันสมัย

เวทีรถใหม่

เป็นเจเนอเรชั่นที่ 2 แล้วสำหรับรถยนต์กลุ่มเอสยูวีขนาดกลาง รุ่นที่ขายดี ตอบโจทย์และรองรับกับทุกไลฟ์สไตล์การใช้งานจากค่ายฮอนด้า

นายโนริยุกิ ทาคาคุระ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ฮอนด้าได้เปิดตัวรถยนต์ฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่ ซึ่งเป็นเจเนอเรชั่นที่ 2 ออกสู่ตลาดประเทศอย่างเป็นทางการ และไทยเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนียที่จะได้เปิดตัว ฮอนด้า เอชอาร์-วี เจเนอเรชั่นที่ 2 ภายใต้ชื่อ ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ และยังเป็นประเทศแรกในโลกที่ได้เปิดตัวรุ่น RS “ฮอนด้า เอชอาร์-วี

“ฮอนด้า เอชอาร์-วี” ใหม่ ที่มาพร้อมพลังที่สมบูรณ์แบบของวันนี้ และพร้อมขับเคลื่อนชีวิตของคุณไปข้างหน้าในทุกเส้นทางกับความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในการก้าวไปสู่ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV และเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ทั้งไลน์อัพ

เอชอาร์-วี ใหม่ พัฒนาขึ้นจาก 3 ด้านหลัก ๆ ได้แก่ enjoyable สนุกสนานเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังในทุก ๆ วันของชีวิต confidence มั่นใจในทุกเส้นทาง ทั้งผู้ขับขี่และผู้ร่วมทาง in style โดดเด่น
มีสไตล์ ดึงดูดทุกสายตา

การออกแบบภายนอกเน้นสไตล์สปอร์ตคูเป้ เรียบง่าย ปรับตำแหน่งของเสา A ลาดยาวยิ่งขึ้น ดูสปอร์ตโฉบเฉี่ยวล้ำสมัย

ท้ายลาดสไตล์ฟาสต์แบ็ก

กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ ไฟหน้าและไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED light strip ที่เชื่อมต่อกับไฟเบรกเป็นเส้นแนวยาว

รุ่นไฮบริด โลโก้ H Mark ตกแต่งกรอบสีฟ้า

มีตัวตกแต่งพิเศษ RS เป็นครั้งแรกของโลกเพื่อยกระดับความสปอร์ตพรีเมี่ยมไปอีกขั้น

ห้องโดยสารได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันในทุกองค์ประกอบ พื้นที่ที่กว้างขวาง สะดวกสบาย บริเวณคอนโซลหน้ามีการใช้เส้นสายแนวนอน

ฟังก์ชั่นการใช้งานต่าง ๆ ถูกจัดวางในตำแหน่งที่เหมาะสม ใช้งานได้ง่าย

แอร์เย็นฉ่ำทุกที่นั่ง ทิศทางลมที่หมุนเวียนอย่างมีประสิทธิภาพ กระจายลมได้อย่างเหมาะสม ทั่วถึงทั้งห้องโดยสาร

เบาะหนังดีไซน์ใหม่สีดำ ที่ออกแบบให้โอบรับกับสรีระของผู้นั่งได้ดียิ่งขึ้น

โดยในรุ่น RS มาพร้อมเบาะหนังสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดงแบบสปอร์ต แป้นเบรกและแป้นคันเร่งสไตล์สปอร์ต และพวงมาลัยสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง

เบาะนั่งด้านหลังแบบอเนกประสงค์ แยกพับแบบ 60 : 40 พับเรียบได้ตอบโจทย์สมาร์ทไลฟ์สไตล์

เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัส ขนาด 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto, ชาร์จไฟแบบไร้สาย

ลำโพง 8 ตำแหน่ง มีไฟอ่านหนังสือด้านหลังแบบ LED เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ช่องเชื่อมต่อ USB จำนวน 4 ช่อง ด้านหน้า 2 ช่อง และด้านหลัง 2 ช่อง

โดดเด่นด้วยระบบฟูลไฮบริด e:HEV ด้วยการทำงานพลังร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว พร้อมเครื่องยนต์ ขนาด 1.5 ลิตร แบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออน ซึ่งมีน้ำหนักเบาให้กำลังสูงสุด 131 แรงม้า ด้วยแรงบิดสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร ที่ 0-3,500 รอบต่อนาที ให้อัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 25.6 กิโลเมตร/ลิตร และมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 94 กรัม/กิโลเมตร

มีโหมดการขับขี่ 3 โหมด โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV drive mode) โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (hybrid drive mode) โหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (engine drive mode)

ฮอนด้าให้การรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปีไม่จำกัดระยะทาง

มีระบบฮอนด้า เซนส์ซิ่ง ทั้งระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ, ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ, ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่

และเป็นครั้งแรกของรถยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย กับระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน โดยระบบจะทำงานที่ความเร็วต่ำกว่า 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ถ้ายังไม่สะใจสามารถอัพเกรดความสปอร์ต Modulo Urban Package รอบคัน

ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่

  • รุ่น e:HEV RS ราคาประมาณการต่ำกว่า 1,200,000 บาท
  • รุ่น e:HEV EL ราคาประมาณการต่ำกว่า 1,100,000 บาท
  • รุ่น e:HEV E ราคาประมาณการต่ำกว่า 990,000 บาท

พิเศษ! สำหรับลูกค้าสามารถลงทะเบียนจองสิทธิ์ ระหว่างวันที่ 5 พฤศจิกายน 2564 ตั้งแต่เวลา 11.00 น. ถึงวันที่ 18 พฤศจิกายน 2564 เวลา 19.00 น. จากนั้นทำการจองและรับรถภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2564 รับฟรีชุดอุปกรณ์ตกแต่ง Utility Package ประกอบด้วยกระบะใส่ของท้ายรถ มูลค่า 1,100 บาท และแผ่นกันรอยเบาะพนักพิงหลัง มูลค่า 1,700 บาท รวมมูลค่า 2,800 บาท