ปล่อยให้ค่ายรถจีนลุยตลาดรถอีวีอย่างคึกคัก ล่าสุด ฮอนด้าจัดหนัก เปิดแผนสนั่นวงการด้วยงบ 1.3 ล้านล้าน พัฒนารถไฟฟ้าญี่ปุ่น ปล่อยรถอีวี 30 รุ่น
วันที่ 12 เมษายน 2565 ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ ค่ายรถยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น ลงสนามสู้ศึกรถอีวีแล้ว ด้วยการประกาศแผน ทุ่มงบประมาณ 5 ล้านล้านเยน หรือ 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเงินไทยราว 1.32 ล้านล้านบาท ลุยงานวิจัยและพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้า รวมถึงซอฟท์แวร์ พร้อมเปิดแผนผลิตรถอีวี ถึง 30 รุ่นภายในปีค.ศ. 2030 (พ.ศ.2573)
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 2 พ.ค. ย้อนหลัง 10 ปี
- หวยงวด 2 พ.ค. เช็กสถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งฯ ย้อนหลัง 10 ปี
- บริษัทดังประกาศปิดกิจการ ทุกสาขาทั่วประเทศ เลิกจ้างหลายชีวิต
แผนผลิตรถอีวีดังกล่าวตั้งเป้าให้ผลิตได้ปีละไม่น้อยกว่า 2 ล้านคัน ในจำนวน 30 รุ่น มีสปอร์ตคาร์ 2 รุ่น เอสยูวี 2 รุ่น และมินิคาร์ 1 รุ่น รวมอยู่ด้วย
แหล่งข่าวเผยว่า ฮอนด้าจะมุ่งพัฒนาแบตเตอรีที่เรียกว่า “solid-state batteries” (แบตเตอรีที่เก็บไฟได้ โดยใช้อิเล็กโทรดที่เป็นของแข็งและอิเล็กโทรไลต์แข็ง แทนอิเล็กโทรไลต์เจลเหลวหรือโพลีเมอร์) ตั้งใจว่าจะต้องเป็นแบตฯ ที่เบากว่า และใช้เวลาชาร์ตเร็วขึ้นกว่าแบตเตอรีลิเธียมไอออน ซึ่งรถอีวีใช้กันอยู่ขณะนี้ เป็นแบตเตอรีของบริษัทเอง โดยหวังว่าจะทำได้ในช่วงครึ่งหลังของทศวรรษนี้
โตชิฮิโระ มิเบะ ซีอีโอของฮอนด้า มอเตอร์ กล่าวระหว่างงานแถลงข่าวสื่อมวลชน ที่กรุงโตเกียว ว่า ฮอนด้าจะพลิกการทำธุรกิจ จากการขายฮาร์ดแวร์ที่นำกลับมาใช้ไม่ได้อีก มาเป็นการขายบริการที่ควบรวมทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ตั้งใจว่าจะเป็นไปได้ในปีค.ศ. 2026
ซีอีโอฮอนด้ากล่าวด้วยว่า งบประมาณด้าน R&D ของบริษัทช่วง 10 ปีมานี้ อยู่ที่ 7 ล้านล้านเยน และคาดว่าในปีนี้จะเพิ่มขึ้นอีกราวร้อยละ 10 ในจำนวนนี้ สัดส่วนร้อยละ 60 มุ่งไให้กับการพัฒนารถ EV และซอฟต์แวร์เป็นหลัก
ขณะเดียวกัน ฮอนด้ามีแผนการเปิดตัวรถอีวีในจีน 10 รุ่นภายในปี 2027 โดยเป็นรถรุ่น “e:N Series” รวมถึงจะสร้างโรงงานผลิตรถอีวี ที่เมืองกวางโจว และเมืองอู่ฮั่น พร้อมจับมือกับค่ายจีเอ็ม ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกา พัฒนารถอีวีราคาประหยัด เริ่มต้นไม่ถึง 30,000 ดอลลาร์ หรือ 9.9 แสนบาทเพื่อวางขายในอเมริกาเหนือให้ได้ภายในปี 2027 ด้วยเช่นกัน
ก่อนหน้านี้ สองค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ คือ โฟล์กสวาเกน แห่งเยอรมนี และ โตโยต้า ของญี่ปุ่น ต่างประกาศแผนการทุ่มเงินงบประมาณของตนเองอย่างน้อย 35,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1.15 ล้านล้านบาทสำหรับการพัฒนารถอีวี
ส่วนฮุนได แห่งเกาหลีใต้ ก็ประกาศจะใช้งบจำนวนเดียวกันนี้สำหรับการผลิตรถอีวี และรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ