ขับก่อนเปิดตัว “MG EZS” ประทับใจไฟฟ้า 100% (ชมคลิป)

ไม่พูดพล่ามทำเพลงสำหรับค่ายรถยนต์จากแดนมังกร…อย่าง “เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย)” ที่เตรียมเปิดตัวรถยนต์เอสยูวีไฟฟ้าคันแรกของเอ็มจีอย่างเป็นทางการในบ้านเรา สำหรับ MG EZS หรือแซดเอสอีวี จะเลือกเปิดตัวในวันที่ 20 มิ.ย.นี้หลังประกาศความพร้อมมาก่อนหน้านี้

“พงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์” รองประธานตัดสินใจนำสื่อมวลชนไปยังสำนักงานใหญ่เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เพื่อทำความรู้จักและสัมผัสกับรถคันนี้ตามแผนงานที่เอ็มจีได้ประกาศไว้ ค่ายเอ็มจีประกาศความมุ่งมั่นเพื่อผลักดันให้รถยนต์ไฟฟ้าคันนี้สามารถ “แจ้งเกิด” ได้อย่างเต็มภาคภูมิ โดยกำหนดวางครบทั้ง 105 โชว์รูมทั่วประเทศ

 

ชมคลิปทดสอบรถ

เท่านั้นยังไม่พอ เพื่อเป็นการเสริมสร้างความมั่นใจและตอกย้ำให้ผู้ที่จะมาเป็นลูกค้ารถยนต์ไฟฟ้าเกิดความมั่นใจ ทุกโชว์รูมของเอ็มจีจะมีจุดชาร์จไฟฟ้ารองรับให้กับลูกค้า คิดง่าย ๆ ลูกค้าเอ็มจีสามารถใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าไปได้ทั่วประเทศไทย จากแผนงานดังกล่าวหากมองแค่เชิงยอดจำหน่าย

แน่นอนว่าระยะสั้นจะส่งผลให้ค่ายเอ็มจีก้าวขึ้นแท่นผู้นำรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยได้ทั้งในเชิงของยอดขายและความนิยมหากจะนับไปในเชิงของความเป็นรูปธรรมนั้น ก็ต้องชื่นชมเพราะเป็นนโยบายที่ขับเคลื่อนและทำได้จริง…เพียงแต่จะเห็นผลได้รวดเร็วแค่ไหน ?

แน่นอนว่าจากความตั้งใจของทีมเอ็มจี ไทยแลนด์ ที่จะผลักดันให้รถอีวีคันนี้ เอ็มจี อีแซดเอส ทำตลาดในบ้านเรา

เอ็มจีพาสื่อมวลชนรวมทั้ง “ประชาชาติธุรกิจ” ไปเยือนศูนย์เทคนิคของบริษัทแม่ที่ “SAIC Motor Passenger Vehicle” เพื่อสัมผัสกับนวัตกรรมเทคโนโลยีบนโลกยานยนต์ของค่ายรถยนต์ใหญ่ที่สุดของจีน

ครั้งนี้ “ประชาชาติธุรกิจ” มีโอกาสได้ทดสอบ “เอ็มจี อีแซดเอส” รถยนต์เอสยูวี ไฟฟ้า 100% กันที่สนามทดสอบภายในสำนักงานใหญ่

รูปร่างหน้าตาของรถยนต์ไฟฟ้าคันนี้จะบอกว่าไม่ได้แตกต่างจากเจ้ารถเอสยูวี เอ็มจี แซดเอส ที่เปิดตัวและกวาดยอดขายถล่มทลายในบ้านเรา เนื่องจากการพัฒนาบนแพลตฟอร์มเดียวกัน ทำให้รูปร่างหน้าตาออกมาเรียกว่าเป็นแฝดพี่แฝดน้อง

จุดต่างระหว่างรถทั้ง 2 รุ่นนั้นเราได้แยกได้ง่าย คือ กระจังหน้าของอีแซดเอส ออกแบบใหม่ให้มีเอกลักษณ์ตรงโลโก้ “เอ็มจี” นั้นสามารถเปิด-ปิดเพื่อเพิ่มพลังงานไฟฟ้าให้กับรถคันนี้

มีจุดหัวชาร์จไฟ 2 หัว คือ แบบควิกชาร์จ และนอร์มอลชาร์จ ไว้รองรับไฟหน้าออกแบบเป็นทรงกลม ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากกลิ่นอายของ “ลอนดอนอาย” หนึ่งในสัญลักษณ์ของประเทศอังกฤษ

ล้อแม็กลายใหม่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับรุ่นอีแซดเอส ส่วน “สี” ที่ทางเอ็มจี ไทยแลนด์จะนำเข้ามาทำตลาดนั้น เป็นสีเอกลักษณ์เฉพาะสำหรับรถรุ่นนี้ คือ “สีฟ้าโคเปนเฮเกน” สีพิเศษที่ไม่ว่าจะมองมุมไหนเฉดสีของรถจะเปลี่ยนไปตามมุมมอง

เนื่องจากรถคันนี้เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกของเอ็มจี ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร

เอ็มจีเคลมไว้ว่าสามารถให้อัตราเร่ง 0-50 กม./ชม.ได้ภายในเวลา 3.1 วินาทีและ 0-100 กม./ชม. ประมาณ 8-9 วินาที ซึ่งแจ้งชัดประจักษ์ใจเพียงกดคันเร่งเบา ๆ มอเตอร์ไฟฟ้าตอบสนองทันที ปรู๊ดปร๊าดถึงอกถึงใจสไตลล์รถยนต์ไฟฟ้า

ส่วนความแม่นยำของพวงมาลัยและความหนึบหนับของช่วงล่างนั้น บอกเลยว่าค่อนข้างประทับใจ ในสถานีสลาลอมแม้จะใช้ความเร็วไม่สูงมาก แต่เราเลือกที่จะหักพวงมาลัยแรงและเร็วเพื่อดูการสนองตอบของรถคันนี้

บอกตรง ๆ ว่าประทับใจ…

เพื่อให้มั่นใจว่ารถคันนี้เมื่อนำมาใช้ในบ้านเรา ซึ่งฝนตก…น้ำท่วมขังทีมงานเซตการทดสอบลุยน้ำสูงขนาดครึ่งล้อ หรือประมาณ 45-50 ซม. ซึ่งเอ็มจี อีแซดเอสคันนี้ขับผ่านได้สบาย ๆ

ขณะที่อัตราสิ้นเปลืองทีมงานเคลมตัวเลขวิ่งได้ระยะทางไกลสูงสุด 335 กม.ต่อการชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง และ 428 กม. เมื่อวิ่งที่ความเร็วเฉลี่ยไม่เกิน 60 กม./ชม. รถคันนี้รองรับ fast charging ซึ่งชาร์จไฟจาก 0-80% ได้ใน 30 นาทีเท่านั้น

ถึงตรงนี้แล้วคงต้องบอกว่า รอเพียง “ราคา” ที่ทีมผู้บริหารจะเคาะออกมาเท่านั้น แม้เอ็มจีตั้งใจขายรถคันนี้ในราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาท คงต้องดูว่าจะเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน หรือหากต้องการยอดกระฉูด หากราคาบวกลบที่ 1.3 ล้าน เชื่อว่ากำลังสวย

ส่วนการรับประกันนั้นได้รับคำยืนยันจากปากของ “พงษ์ศักดิ์” เองว่าตลาดส่วนใหญ่ให้เท่าไร

แน่นอนว่าเอ็มจีต้องไม่น้อยกว่าหรือเท่ากัน ลูกค้าสบายใจได้ รับรองได้ว่ายังมีลูกค้าผู้บริโภคที่หัวใจสีเขียวพร้อมช็อปกระจุย