Market-think : คิดเพื่อสังคม

Carenation
คอลัมน์​ : Market-think
ผู้เขียน : สรกล อดุลยานนท์

ในอดีตเวลาที่เราคิดช่วยเหลือสังคม เราจะคิดแบบง่าย ๆ คือ เอาเงินไปบริจาคตามมูลนิธิต่าง ๆ

เป็นรูปแบบแบ่งงานกันทำ

เราบริจาคเงิน แล้วให้มูลนิธิต่าง ๆ เอาเงินก้อนนี้ไปทำประโยชน์เพื่อสังคม

แต่ส่วนใหญ่การบริจาคเพื่อแบ่งปันเพื่อสังคม เราจะต้องใช้งบฯส่วนเกินจากการใช้จ่ายประจำวัน

ส่วนใหญ่จะบริจาคเงินตอนวันสำคัญ เช่น วันเกิด วันครบรอบแต่งงาน วันปีใหม่ ฯลฯ

มีคนที่อยากช่วยเหลือสังคม เขารู้สึกว่าน่าจะสร้างกระบวนการบางอย่างที่ทำให้การใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเป็นการทำบุญได้

อย่าง Carenation เป็นกิจการเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เขาคิดไอเดียเรื่อง “พวงหรีดงานศพ”

ทุกงานศพ เราจะเห็นพวงหรีดดอกไม้สวย ๆ เต็มไปหมด พวงหรีดเหล่านี้ผ่านไปไม่กี่วันก็ลงถังขยะ

เขาเลยคิดโครงการ “พวงหรีดสานบุญ” ขึ้นมา

เป็นพวงหรีดกระดาษรีไซเคิลและจากป่าปลูก ทำเป็นรูปดอกไม้สวยงาม ออกแบบกระบวนการทำงานง่าย ๆ เพื่อให้เด็กและคนชราในชุมชนสามารถทำได้

มีระบบการสั่งซื้อทางเว็บที่สะดวกรวดเร็ว

พวงหรีดมีหลายราคา และมีระบบที่ชัดเจน

เงินที่ได้มาก็จะเป็นรายได้ของคนในชุมชน และหักส่วนหนึ่งเข้ามูลนิธิที่เราสามารถเลือกได้ว่าจะบริจาคให้มูลนิธิไหน

เช่น พวงหรีดรูปเบญจมาศ ราคา 2,000 บาท

จะหัก 25% หรือ 500 บาท ให้มูลนิธิที่เราเลือก

มีการเขียนข้อความเพื่อให้เห็นภาพชัดเจนว่าเงิน 500 บาทที่เราบริจาคนี้ เทียบเท่ากับ “อาหารกลางวันเด็กกำพร้า 16 คน”

ใบเสร็จรับเงินจากมูลนิธิสามารถลดหย่อนภาษีได้

อีกไอเดียหนึ่งก็น่าสนใจ คือ “การ์ดสานบุญ”

เขามองเห็นปัญหาเรื่องของชำร่วยในงานศพ ที่มักไม่มีการใช้จริง แต่ต้องมีของชำร่วยเพราะเป็นประเพณี

อีกปัญหาหนึ่ง คือ ไม่สามารถคาดการณ์จำนวนแขกได้ จึงซื้อมาเกินความจำเป็น

เขาเสนอให้เปลี่ยนจาก “ของชำร่วย” เป็น “ความช่วยเหลือ” ด้วยการทำเป็นการ์ดขนาดเท่ากับที่คั่นหนังสือ

บอกแขกทุกคนเลยว่า เจ้าภาพของดของชำร่วยเพื่อเป็นสะพานบุญในการบริจาคให้กับมูลนิธิ ซึ่งเจ้าภาพสามารถเลือกได้ว่าจะบริจาคให้มูลนิธิไหน

วิธีการนี้ต้นทุนจะต่ำกว่าการทำของชำร่วย และแขกที่มาก็รู้สึกว่าได้ร่วมทำบุญด้วย

เงินบริจาคก็โปร่งใส มีใบเสร็จให้นำไปลดหย่อนภาษีได้

ผมชอบวิธีคิดแบบนี้ เป็นวิธีคิดแบบ “วิน-วิน-วินเกม”

ทุกคนได้หมด

ได้ทั้งทำบุญ ได้ทั้งความรู้สึก และได้ลดค่าใช้จ่าย

เชื่อไหมครับ ตอนนี้เงินบริจาคสะสมทั้งหมด 15.6 ล้านบาทแล้วครับ

จากการที่คนซื้อพวงหรีดสานบุญและการ์ดสานบุญ

หรือมูลนิธิกระจกเงาก็น่าสนใจ นอกเหนือจากการบริจาคเงินแล้ว เขายังเสนอวิธีการใหม่ให้คนที่อยากทำบุญบริจาคคะแนนจากการซื้อของในบิ๊กซี-โลตัส และ 7-11 ให้กับมูลนิธิ ด้วยการบอกหมายเลขนี้ทุกครั้งที่ซื้อของ

06-3931-6340

มูลนิธินี้จะเอาแต้มที่ได้แลกเป็นของที่จำเป็นเพื่อนำไปบริจาคต่อ อย่างเช่น แลกนมกล่องไปให้เด็ก ฯลฯ

ภาพหนึ่งที่ผมประทับใจมาก คือ ตอนที่เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้กลางกรุง

มูลนิธิกระจกเงา พาเด็กที่อยู่ในศูนย์ช่วยเหลือไปร้าน 7-11

ให้เด็กเลือกซื้อขนมและของกิน

โดยใช้คะแนนจากที่มีคนใจบุญบริจาคมา

หน้าตาเด็ก ๆ ดีใจมาก

วิธีคิดเพื่อสังคมแบบนี้ ผมอยากให้เกิดขึ้นเยอะ ๆ

ทำให้ทุกคนเป็น “คนใจบุญ” แบบง่าย ๆ