“หนุ่มเมืองจันท์” : ต้นทุนชีวิต

Photo by Anusak Laowilas/NurPhoto via Getty Images
คอลัมน์ Market-Think โดย สรกล อดุลยานนท์

วันก่อน ผมมีนัดที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี่ เดินเข้าไป ตกใจเลยครับ เหมือนตัวเองเป็นเจ้าของศูนย์การค้าเดินตรวจงาน คนเดินแทบจะไม่มีเลยเงียบจนน่าตกใจ

คุยกับ รปภ.ที่โบกรถด้านหน้า เขาบอกว่าเงียบมาเกือบ 1 สัปดาห์แล้ว นักท่องเที่ยวก็หาย ลูกค้าคนไทยก็ไม่มี ไม่ใช่แค่ที่นี่ทีเดียว เพราะเพื่อนไปสยามพารากอน ไอคอนสยาม และศูนย์การค้ากลางเมืองทั้งหลายส่วนใหญ่ก็เป็นแบบนี้

สถานการณ์ “ไวรัสโคโรน่า” กลายเป็น “โอกาส” ของศูนย์การค้าชานเมือง

บ้านผมอยู่ใกล้ “ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต” แนวรบด้านนี้สถานการณ์ไม่เปลี่ยนแปลงครับ คนเดินยังเยอะอยู่ เพราะที่นี่ลูกค้าชาวไทยคงมั่นใจว่าไม่มีนักท่องเที่ยวจีนแน่นอน

ต้องยอมรับว่ากรณี “ไวรัสโคโรน่า” ถือเป็น “อุบัติเหตุ” ทางเศรษฐกิจ ไม่มีใครคาดหมายมาก่อน ถ้าเกิดในจีนเมื่อ 10 ปีก่อน ผลกระทบทางเศรษฐกิจคงไม่หนักหนาสาหัสเท่านี้

เพราะวันนั้นจีนยังไม่เป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ คนไปเที่ยวต่างประเทศไม่เยอะ การแพร่เชื้อก็ไม่มาก ที่สำคัญ นักท่องเที่ยวจีนไม่ใช่ “กำลังซื้อ” ที่สำคัญของโลก

แต่วันนี้ พอนักท่องเที่ยวจีนหาย รายได้จากการท่องเที่ยวลดฮวบลงทันที นั่นเป็น ภาพใหญ่ทางเศรษฐกิจ

แต่สำหรับชาวบ้านทั่วไป กรณีไวรัสโคโรน่า ทำให้ “ต้นทุน”การใช้ชีวิตเพิ่มมากขึ้น ตั้งแต่ฝุ่นจิ๋ว PM 2.5 คนไทยต้องซื้อ “หน้ากากอนามัย” มาใช้ในชีวิตประจำวัน แต่ยังไม่มากนัก

เพราะ PM 2.5 ยังเป็นแค่มลพิษที่มีผลระยะยาว ไม่มีผลทันที ไม่เหมือนกับไวรัสโคโรนา ที่มีผลทันที และรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้

ความต้องการหน้ากากอนามัยจึงเกิดขึ้นสูงมาก ทุกคนใส่หน้ากากออกจากบ้าน เพราะกลัว ตามหลัก “ดีมานด์-ซัพพลาย” และ “การเก็งกำไร” “หน้ากากอนามัย” ขาดตลาด และขึ้นราคาทันที จากเดิมชิ้นละ 1 บาท ขึ้นเป็น 5 บาททันที

คุณตัน ภาสกรนที จะซื้อหน้ากากไปแจกที่เชียงใหม่ ลูกน้องโทรเช็กของและราคา บอกว่าเอาแน่ แค่เวลาไม่กี่ชั่วโมงที่รอเรื่องการเงิน โทรไปอีกที ของหมด และลอตใหม่ขึ้นราคาอีกต่างหาก

คุณตันบอกว่าสถานการณ์เหมือนตอนน้ำท่วมปี 2554 เสื้อชูชีพ และเรือ ขึ้นราคาทุกวัน ต้องยอมรับว่าตอนนี้เศรษฐกิจก็แย่อยู่แล้ว

เงินในกระเป๋าของชาวบ้านน้อยลง แต่ยังต้องเพิ่มค่าใช้จ่ายเรื่อง “หน้ากากอนามัย” อีก หาก็ยาก แต่ก็ต้องหามาใส่เพราะกลัวตาย

ราคาปกติก็แย่แล้วยังขึ้นราคาอีก

“ต้นทุน” ค่าใช้จ่ายจึงเพิ่มขึ้นกว่าเดิม อย่าแปลกใจที่กระแสความไม่พอใจรัฐบาลและ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเพิ่มดีกรีสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

เป็นสถานการณ์ที่ไม่ดีเลยสำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ ยิ่งใกล้การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ยิ่งน่ากลัว