ทำความรู้จักกับ e-Commerce จีน…เป็นอย่างไร ?

e-Commerce จีน
ภาพจาก : MARK RALSTON / AFP
คอลัมน์ : Pawoot.com
ผู้เขียน : ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ

ในยุคที่ e-Commerce หรือการซื้อขายออนไลน์กำลังเป็นแรงขับเคลื่อนในการเชื่อมโยงธุรกิจกับผู้บริโภคทั่วโลก ประเทศจีนเป็นประเทศที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย ในอดีตที่ผ่านมา เพราะจีนเป็นประเทศที่ตลาดมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งยังมีนักลงทุนที่แข็งแกร่ง มีการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในทุก ๆ ด้าน รวมถึงยังมีการบุกตลาด e-Commerce ที่มีลักษณะน่าสนใจเป็นเอกลักษณ์

แต่หลังจากที่รัฐบาลจีนมีการเข้าไปตรวจสอบบริษัทด้านเทคโนโลยีต่าง ๆและการที่รัฐบาลจีนออกนโยบาย “Common Prosperity” ก็คือหมายถึงว่าทุกคนนั้นเท่าเทียมกัน โดยนโยบายนี้มุ่งเน้นไปที่การลดความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจ ทำให้ส่งผลกระทบในวงกว้าง เป็นจุดถดถอยของวงการเทคโนโลยีประเทศจีนเลยก็ว่าได้ เพราะนักลงทุนเริ่มหันไปลงทุนประเทศอื่น ๆ เช่น ประเทศอินโดนีเซีย ประเทศสิงคโปร์ เป็นต้น ทำให้ไม่ได้เห็นบริษัท start up ของจีนอีกเลย

ต้องยอมรับว่าปัจจุบัน e-Commerce ของจีนนั้นได้เปลี่ยนไปแล้ว เพราะในปีนี้มีบริษัทยักษ์ใหญ่หลายเจ้า ไม่ว่าจะเป็น Alibaba, Taobao และ JD.com ต่างก็ไม่ประกาศตัวเลขยอดขายซึ่งโดยปกติแล้วจะมีการประกาศออกมา ทั้งนี้ ผู้คนต่างก็ตั้งข้อสันนิษฐานว่า สาเหตุที่ไม่มีการประกาศตัวเลขยอดขายออกมานั้น เพราะตัวเลขตกลงหรือไม่ ?

ถึงแม้เศรษฐกิจของจีนจะอยู่ในช่วงที่ซบเซา แต่สิ่งหนึ่งเลยที่ต้องยอมรับคือ การปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ตลาดของโลก ซึ่งปัจจุบัน e-Commerce ของจีนมีการปรับรูปแบบใหม่ จากเดิมที่เคยซื้อขายของใน Taobao หรือ Alibaba ปัจจุบันประชากรในจีนเริ่มหันมาซื้อขายสินค้าใน TikTok แทน

เมื่อไม่นานมานี้ผมได้มีโอกาสไปดูงานที่ประเทศจีน และได้แวะไปเยี่ยมชมศูนย์สนับสนุนผู้ประกอบการในการสร้างอาชีพ ที่ตั้งอยู่ ณ เมือง Suzhou มณฑล Anji ของประเทศจีน ภายในศูนย์มีการสอนผู้ประกอบการเกี่ยวกับการ live สดขายของ ซึ่งในปัจจุบันนี้ต้องยอมรับเลยว่าการ live สดขายของนั้นกลายเป็นช่องทางหลักของ e-Commerce รูปแบบใหม่ของใครหลาย ๆ คน

ทั้งนี้ หากผู้ประกอบการคนไหนที่มีสินค้าและต้องการที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับการ live สดขายของ สามารถเข้าไปเรียนรู้ที่ศูนย์แห่งการเรียนรู้นี้ได้เลย โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ เพราะเป็นการสนับสนุนจากรัฐบาลที่มีให้กับประชาชนในประเทศจีน และหากเรียนจบภายใน 3 เดือน ก็สามารถการันตีได้เลยว่า ผู้ประกอบการจะสามารถ live สดขายของเองได้ นอกจากนี้หากผู้ประกอบการคนไหนที่สามารถ live สดขายของได้เกินเป้าหมาย ทางหน่วยงานภาครัฐก็จะมีการช่วยเหลือ เช่น ลดค่าขนส่ง ช่วยโฆษณาสินค้า มีเงินสนับสนุน รวมถึงโกดังให้เก็บสินค้า

ทั้งนี้ เป้าหมายของรัฐบาลในจีนนั้น คือต้องการที่จะสร้างคนประมาณ 500 คนต่อปีให้สามารถมา live สดขายของได้ แต่จุดที่น่าสนใจเลยคือ ทางรัฐบาลจีนมีนโยบายว่า “หากคุณมายังเมือง Suzhou มณฑล Anji ของประเทศจีน” โดยสิ่งที่ทางรัฐบาลจีนจะมอบให้คือ เงินสนับสนุน, ที่อยู่อาศัย และสังคม

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจของจีนจะอยู่ในช่วงของการฟื้นฟูเศรษฐกิจ แต่การปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ของตลาดโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อย ๆ การนำเสนอ live สดขายของเป็นตัวอย่างของการปรับรูปแบบใหม่ใน e-Commerce ของจีนเลยก็ว่าได้ ซึ่งนักลงทุนและผู้ประกอบการที่สามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ได้รวดเร็วย่อมส่งผลดีต่อธุรกิจของตนในอนาคต