คอลัมน์ : Pawoot.com ผู้เขียน : ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ
ในโลกธุรกิจสมัยใหม่ ธุรกิจสีเทากำลังเติบโตและเข้าถึงได้ง่ายขึ้นผ่านช่องทางดิจิทัล ตัวอย่างเช่น การพนันออนไลน์ซึ่งเป็นธุรกิจที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายในหลายประเทศ แต่กลับสามารถเข้าถึงได้ง่ายผ่านเว็บไซต์ต่าง ๆ การเติบโตของธุรกิจเหล่านี้มักขับเคลื่อนโดยการใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ และการใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ในกฎหมายหรือการควบคุมที่ไม่เข้มงวด
ปัจจุบันมีการชักจูงกลุ่มคนที่เก่งด้านเทคโนโลยีหรือการตลาดต่าง ๆ ให้เข้าไปทำงานในโลกสีเทาอย่างง่ายดาย เพราะมีการจ่ายรายได้ที่สูงมากถึงสองเท่าหรือสามเท่ากว่ารายได้ที่ได้รับจากงานปกติทั่วไป ทำให้ผู้ที่เชี่ยวชาญอย่างโปรแกรมเมอร์และนักการตลาดมักพบกับความท้าทายในการตัดสินใจเมื่อได้รับข้อเสนอมา เพราะเงินเดือนที่สูงมากขึ้นสามารถยั่วยวนให้บุคคลเหล่านี้ย้ายจากธุรกิจที่ถูกกฎหมายไปยังธุรกิจที่มีความไม่แน่นอนและเสี่ยงมากขึ้น ทั้งนี้พวกเขาต้องเผชิญกับความท้าทายทางจริยธรรมและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นต่ออาชีพการงานในอนาคตได้เช่นกัน
- ล้งกระหน่ำทุบราคามังคุด จากโลละ 200 เหลือ 60 บาท
- ทูลเกล้า 11 รายชื่อคณะรัฐมนตรี เศรษฐา 1/1 ออก 4 เข้าใหม่ 6 ตำแหน่ง
- “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
กลยุทธ์หลอกลวงในธุรกิจสีเทามักใช้กลยุทธ์หลอกลวงเพื่อดึงดูดผู้คนให้ลงทุน สร้างภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือ แต่สุดท้ายก็นำไปสู่การหลอกลวง ทำให้เกิดความเสียหายต่อผู้เสียหาย และสังคม ผมสงสัยว่าทำไมช่องทางการสื่อสารจากแพลตฟอร์มต่าง ๆ ถึงปล่อยให้คนกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้เข้ามาใช้บริการเพื่อหลอกคนทั่วไปได้อย่างง่ายดาย ทำให้กลายเป็นมีช่องโหว่ในการถูกหลอกลวงมากขึ้น
คุณเชื่อไหมครับว่าใน 1 วันมีเคสหลายร้อยเคสโดนกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้หลอก และมีการเข้าแจ้งความกับทางตำรวจ ซึ่งผมมองว่าแก้ปัญหาที่ปลายเหตุทำให้แก้ไขสถานการณ์เหล่านี้ยังไม่ได้
การตระหนักถึงความน่ากลัวของธุรกิจในโลกสีเทาไม่เพียงเพื่อป้องกันตนเองไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ แต่ยังสำคัญสำหรับผู้กำหนดนโยบายในการจัดการและกำกับดูแลธุรกิจเหล่านี้อย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันไม่ให้ธุรกิจเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมโดยรวม
ปัจจุบันมีนักพัฒนาแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ พัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อช่วยตรวจสอบหรือช่วยให้ผู้ใช้สามารถป้องกันตัวเองจากการถูกหลอกลวงหรือเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพได้ หนึ่งในแอปพลิเคชั่นที่ได้รับความนิยมและใช้กันแพร่หลาย คือ Whoscall ที่ช่วยให้ผู้ใช้ระบุตัวตนของหมายเลขที่โทร.เข้ามายังโทรศัพท์ของพวกเขา ซึ่งสามารถช่วยตรวจสอบได้ว่าหมายเลขที่โทร.เข้ามา เป็นมิจฉาชีพหรือไม่ โดยการใช้ฐานข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์ที่มีผู้ใช้จำนวนมากแชร์ข้อมูลกัน
นอกจากนั้นยังมีแอปพลิเคชั่นอื่น ๆ ที่มีประโยชน์ในการตรวจสอบและป้องกันมิจฉาชีพได้เช่นกัน เช่น Truecaller
แอปนี้ฟังก์ชั่นคล้ายกับ Whoscall ที่ช่วยให้ผู้ใช้ระบุ และบล็อกหมายเลขที่ไม่ต้องการได้ ทั้งช่วยจัดการกับสแปมและข้อความอัตโนมัติที่ไม่ต้องการ หรือ BeenVerified แอปนี้ช่วยให้ผู้ใช้ตรวจสอบประวัติบุคคลหรือธุรกิจ ช่วยให้เข้าถึงข้อมูล เช่น ประวัติอาชญากรรม, บันทึกของศาล และข้อมูลการติดต่อ ช่วยให้ผู้ใช้ตัดสินใจได้ดีขึ้นเกี่ยวกับการทำธุรกรรมกับบุคคลหรือธุรกิจนั้น ๆ
อย่างไรก็ตาม การใช้แอปพลิเคชั่นเหล่านี้ควรใช้วิจารณญาณส่วนบุคคล แม้จะช่วยได้ แต่ก็ไม่ควรพึ่งพาอย่างเดียว เพราะไม่มีระบบใดป้องกันความเสี่ยงได้ 100% ดังนั้นการสร้างความตระหนัก และให้ความรู้เกี่ยวกับวิธีการป้องกันตัวเองจากธุรกิจสีเทาเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง ผ่านการศึกษา การรณรงค์ และการเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อให้ทุกคนระบุ และหลีกเลี่ยงภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นจากธุรกิจเหล่านี้ได้
การสร้างสังคมที่มีความยุติธรรม และปลอดภัย เป็นความรับผิดชอบของทุกคน ไม่เพียงแต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ยังรวมถึงประชาชนทั่วไปที่ต้องมีส่วนร่วมในการระมัดระวัง และแจ้งเตือนเกี่ยวกับธุรกิจเหล่านี้ด้วย
